ซานฟรานซิสโก–(บิสิเนสไวร์)–17 ม.ค. 2550
รายงานนำเสนอมุมมองที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการชำระเงินข้ามพรมแดน
รายงานปกขาวเรื่อง “The inefficiencies of cross-border payments: How current forces are shaping the future” นำเสนอมุมมองที่ครอบคลุมเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินข้ามพรมแดน และบ่งชี้ถึงแนวโน้มด้านการชำระเงินที่สำคัญ 5 ประการซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการชำระเงินข้ามพรมแดน
รายงานระบุว่า กระบวนการชำระเงินข้ามพรมแดนกำลังเข้าสู่ช่วงของการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยแนวโน้มสำคัญ 5 ประการที่กำลังส่งผลกระทบต่อการชำระเงินข้ามพรมแดน ได้แก่
1. การเกิดขึ้นของระบบข้ามชาติสำหรับการชำระเงินภายในประเทศในรูปสกุลเงินต่างประเทศนั้น กำลังกำหนดรูปแบบที่เป็นมาตรฐาน และผลักดันการนำมาตรฐานกระบวนการโดยตรงมาใช้สำหรับการโอนเงินระหว่างธนาคาร และระหว่างธนาคารกับลูกค้า
2. ข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและข้อบังคับของรัฐบาล มีอิทธิพลต่อวิธีการชำระเงินและการเก็บค่าธรรมเนียม
3. ระบบการชำระเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการจัดการความเสี่ยงด้านสินเชื่อและสภาพคล่อง
4. การรวมตัวของธนาคารและธุรกิจเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการปรับรูปแบบการชำระเงินทั่วโลกในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ธนาคารขนาดใหญ่ซึ่งเป็นระบบข้ามชาติ ได้ดำเนินการเครือข่ายชำระเงินทั่วโลกภายในของตนเอง ซึ่งสามารถทำการชำระเงินให้กับจุดหมายปลายทางในประเทศต่างๆ โดยเครือข่ายภายในดังกล่าวไม่จำเป็นต้องแตกต่างกันระหว่างการชำระเงินภายในประเทศและข้ามพรมแดน, ไม่จำเป็นที่จะต้องทำให้เป็นการชำระเงินข้ามพรมแดน ซึ่งจะสามารถลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
5. การค้นหาประสิทธิภาพการดำเนินงานได้นำไปสู่การจ้างบุคคลที่ 3 ซึ่งอาจจะได้แก่ธนาคารหรือบริษัทให้บริการที่ไม่ใช่ธนาคาร เพื่อให้ดำเนินการด้านการชำระเงินและการหักบัญชีหลักทรัพย์ ขณะที่ยังคง มีความวิตกเกี่ยวกับการขาดกฎระเบียบในด้านนี้ เนื่องจากบรรดาบริษัทที่ให้บริการ ไม่ได้ถูกควบคุมหรือกำกับดูแลโดยหน่วยงานของรัฐบาลเหมือนกับธนาคาร
“การค้าทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นและการปรับปรุงในด้านประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานในปัจจุบัน ทำให้มีความต้องการที่จะปรับปรุงกระบวนการชำระเงินข้ามพรมแดนซึ่งยังไม่มีประสิทธิภาพในปัจจุบันและเสียค่าใช้จ่ายสูงสำหรับธนาคารและภาคธุรกิจ” อลิซา น็อกซ์ รองประธานอาวุโสของวีซ่า คอมเมอร์เชียล ในเครือของวีซ่า อินเตอร์เนชันแนลกล่าว “การปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการชำระเงินข้ามพรมแดน มีแนวโน้มที่เป็นไปได้ แต่ต้องอาศัยผู้มีส่วนร่วมทั้งหมดเพื่อเพิ่มการลงทุนในการเปลี่ยนแปลงกระบวนการและระบบสำหรับภาคธุรกิจ, ธนาคารและระบบการชำระเงิน”
นักวิเคราะห์ประมาณการว่า ในปี 2547 การชำระเงินข้ามพรมแดนคิดเป็นประมาณ 8% ของปริมาณการชำระเงินด้านการพาณิชย์ทั้งหมด และปริมาณการชำระเงินข้ามพรมแดนจะเพิ่มขึ้นในอัตรา 10.2 % ต่อปีทั่วโลก ในระหว่างปี 2543-2553
“เป็นเรื่องยากที่จะวัดขนาดของตลาดการชำระเงินข้ามพรมแดน เพราะสถาบันการเงินขนาดใหญ่ทั่วโลก มีเส้นแบ่งที่ไม่ชัดเจนระหว่างการชำระเงินภายในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งการชำระเงินจำนวนมากอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกรรมข้ามชาติซึ่งรวมการชำระเงินทั้งสองแบบ” ดร. ยูน เอส. พาร์ค, ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (PHD) และปริญญาเอกทางด้านบริหารธุรกิจ (DBA) มหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ผู้เขียนรายงานปกขาวเกี่ยวกับการชำระเงินข้ามพรมแดนกล่าว “การที่รู้ว่าปริมาณการค้าโลกได้เพิ่มขึ้นราว 2 เท่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้เราสามารถประมาณการได้ว่า ปริมาณการชำระเงินข้ามพรมแดนที่เกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศก็ได้เพิ่มขึ้น 2 เท่าด้วย”
วิธีการวิจัย
เพื่อวิเคราะห์ประเด็นที่เกี่ยวข้องที่ธนาคารและลูกค้าองค์กรธุรกิจเผชิญนั้น วีซ่าได้มอบหมายให้ดร.พาร์ค ผู้เชี่ยวชาญด้านธนาคารระหว่างประเทศและตลาดการเงินโลก จัดการสัมภาษณ์ภาคสนามต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารและองค์กรที่สำคัญๆจากทั่วโลกเป็นจำนวน 15 ครั้ง การวิจัยภาคสนามประกอบกับการวิจัยงานเขียนที่ครอบคลุมและบรรณานุกรมอ้างอิง 56 รายการ นำเสนอความเข้าใจในความท้าทายและโอกาสต่างๆสำหรับการพัฒนาระบบการชำระเงินข้ามพรมแดนที่มีประสิทธิภาพ
รายงานวิจัยทั้งหมดเกี่ยวกับการชำระเงินข้ามพรมแดน ดูได้จาก http://www.visa.com/crossborder
เกี่ยวกับดร.ยูน เอส. พาร์ค ผู้เขียนรายงานวิจัยการชำระเงินข้ามพรมแดน
ดร.พาร์ค ผู้เชี่ยวชาญด้านธนาคารระหว่างประเทศและตลาดการเงินโลกนั้น ปัจจุบันเป็นศาสตราจารย์ด้านธนาคารระหว่างประเทศและการเงินของโรงเรียนธุรกิจและการจัดการสาธารณะของมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตันในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งเขาได้ทำงานสอนหนังสือมาเป็นเวลา 22 ปีที่ผ่านมา ดร.พาร์คมีผลงานเขียนหนังสือจำนวนมากรวมถึงผลงานเรื่อง การระดมทุนโครงการและตลาดการเงินระหว่างประเทศ และหนังสือเรื่องอื่นๆอีก 4 เล่ม รวมถึงบทความและรายงานจำนวนมากในด้านธนาคารและการเงินระหว่างประเทศ นอกเหนือจากอาชีพด้านวิชาการที่ได้รับการยกย่องนั้น ดร.พาร์คยังเป็นที่ปรึกษาให้กับธนาคารโลก, ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย, บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ, ธนาคาร Inter-American Development Bank, องค์การบริหารวิเทศกิจแห่งอเมริกา, ธนาคารกลางสหรัฐ, สำนักงาน Overseas Private Investment Corporation, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของสหรัฐ, สถาบันบริการต่างประเทศของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ และสถาบันอื่นๆของทั้งภาคเอกชนและภาครัฐทั่วโลก
เกี่ยวกับวีซ่า คอมเมอร์เชียล
โซลูชันการชำระเงินของวีซ่า คอมเมอร์เชียลซึ่งได้แก่ Visa Business, Visa Corporate, Visa Purchasing และ Visa Commerce นั้น เชื่อมโยงการชำระเงินด้วยข้อมูลเพื่อสร้างระบบการชำระเงินอัจฉริยะที่จะทำให้องค์กรธุรกิจและรัฐบาลทุกขนาดและประเภท สามารถลดต้นทุน สร้างความคล่องตัวให้กับกระบวนการปฏิบัติงานและการชำระเงิน และทำการตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นผลิตภัณฑ์และบริการของวีซ่า คอมเมอร์เชียลซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยการยอมรับและสิทธิประโยชน์ที่เหนือชั้นของวีซ่านั้น นำเสนอแนวทางที่สมบูรณ์แบบที่สุดในการจัดการกระบวนการที่เกี่ยวกับการชำระเงิน ซึ่งรวมถึงการใช้จ่ายด้านการเดินทางและความบันเทิง รวมถึงการจัดซื้อจัดจ้าง การจ่ายเงินเดือน และการจัดการข้อมูล หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ดูได้จาก www.visa.com/visacommercial
เกี่ยวกับวีซ่า
วีซ่าเป็นระบบชำระเงินชั้นนำระดับโลกซึ่งเชื่อมโยงผู้ถือบัตร ร้านค้าและสถาบันการเงินเข้าด้วยกันผ่านเครือข่ายระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผลิตภัณฑ์วีซ่าช่วยให้ผู้ซื้อและผู้ขายทำการค้าได้สะดวกและปลอดภัยไม่ว่าจะเป็นการชำระเงิน ณ จุดขายหรือออนไลน์ วีซ่ามุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบชำระเงินให้เติบโตอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการและการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ
ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของวีซ่าได้สร้างปริมาณการขายกว่า 4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ วีซ่ามีจุดรับบัตรกว่า 24 ล้านแห่งทั่วโลกรวมทั้งเอทีเอ็มกว่าหนึ่งล้านเครื่อง สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.corporate.visa.com
ติดต่อ: วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล
Sabine Middlemass, +1 650-432-8307
globalmedia@visa.com
หรือ
เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
Carolyn Krytzer, +1 415-591-4022
carolyn.krytzer@bm.com
