บริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด โดยคุณศุภมิตร จตุพรฆ้องชัย ผู้จัดการฝ่ายบริหารการขาย ธุรกิจการบริการด้านการตรวจวัดสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรม อุตสาหกรรมยานยนต์ และแร่ ได้จัดกิจกรรมการสัมภาษณ์กลุ่มเพื่อแนะนำบริการและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Canister ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในหารตรวจหาสารอินทรีย์ระเหย VOCs พร้อมการเก็บและตรวจวิเคราะห์หาค่าปนเปื้อน ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และภูมิคุ้มกันของผู้ที่ได้รับสาร พร้อมเผยเป็นเอกชนเจ้าแรกในประเทศไทยที่สามารถทำการเก็บตัวอย่างและวิเคราะห์หาสาร VOCs ได้อย่างครบวงจร ถูกต้องแม่นยำร้อยเปอร์เซ็นต์
อันตรายของสาร VOCs
สาร VOCs (Volatile Organic Chemicals) คือกลุ่มสารประกอบอินทรีย์ที่ระเหยเป็นไอได้ง่ายที่อุณหภูมิและความดันปกติ โดยมีโมเลกุลของคาร์บอนและไฮโดรเจนเป็นส่วนสำคัญ VOCs เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์หลายอย่างที่ใช้ในชีวิตประจำวัน อย่าง สีทาบ้าน สารฟอกสี น้ำยาซักแห้ง ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม และยาฆ่าแมลง โดยผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นนั้นขึ้นอยู่กับชนิดและความต่างของสารเคมี รวมทั้งปริมาณที่ได้รับ เช่น ถ้ามีการรับสาร VOCs บางชนิดในปริมาณมาก จะเป็นการทำลายระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งอาจทำให้หมดสติได้ทันที หรือถ้าหากรับในปริมาณเล็กน้อยแต่เป็นเวลานานๆ อาจกลายเป็นอาการเรื้อรังและเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคมะเร็ง
คุณศุภมิตร กล่าวว่า “ทางบริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด มีความห่วงใยต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบต่อส่วนรวมโดยตรง จึงได้มีการพัฒนาการตรวจสอบและบริการด้านการตรวจวัดคุณภาพอากาศเพื่อหาสารอินทรีย์ระเหยที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งในปัจจุบันนี้พบว่ามีสารอินทรีย์ระเหยที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์มากกว่า 200 ชนิด โดยจะพบได้มากที่สุดในเขตนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งสารพวกนี้ถือเป็นสารที่ก่ออันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว”
เอสจีเอสกับการพัฒนาไม่หยุดยั้ง
ในอดีตระบบการเก็บตัวอย่างและวิเคราะห์สาร VOCs มีความคลาดเคลื่อนสูง ทางบริษัท เอสจีเอส จึงพัฒนา Canister หรือระบบการเก็บตัวอย่างสารอินทรีย์ระเหยด้วยถังสุญญากาศชนิดพิเศษที่เคลือบด้วย Silonite ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษคือ ไม่ดูดซับสาร VOCs ทำให้สามารถเก็บรักษาสภาพของตัวอย่างอากาศได้เป็นอย่างดีโดยไม่เปลี่ยนแปลง โดยเป็นระบบที่ตรงตามมาตรฐานสากลตามข้อกำหนดของ US. EPA TO-15 ที่สามารถรับรองได้ว่ามีความแม่นยำที่สุด
“ในฐานะที่เราเป็นเอกชนเจ้าแรกที่ให้บริการการตรวจสอบแบบครบวงจรและถือเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยที่มีการนำเทคโนโลยีนี้เข้ามาพัฒนา ที่ผ่านมานั้น การเก็บตัวอย่างและการตรวจวิเคราะห์สารอินทรีย์ระเหยเหล่านี้ยังขาดเครื่องมือที่ได้มาตรฐานในการเก็บตัวอย่าง จึงทำให้ผลที่ได้ขาดความแม่นยำ อีกทั้งไม่สามารถทำการตรวจวิเคราะห์ได้เอง ต้องส่งไปตรวจที่ต่างประเทศ ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองทั้งเงินและเวลา เราจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญในจุดนี้ จึงได้พัฒนาเทคโนโลยีและเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บตัวอย่างขึ้นมา และนำเข้ามาใช้ในประเทศไทย” คุณศุภมิตร กล่าวเสริม
เอสจีเอสตั้งเป้าหมายจะเพิ่มความศักยภาพและความสามารถของห้องปฏิบัติการ เพื่อก้าวเป็นผู้นำในการให้บริการตรวจวิเคราะห์สารอินทรีย์ระเหยในทุกด้าน ซึ่งเมื่อพิจารณาจากเครือข่ายห้องปฏิบัติการของเอสจีเอสที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคต่างๆของโลก เป็นจุดแข็งสำคัญที่เอื้อต่อการพัฒนาคุณภาพบนมาตรฐานการตรวจวิเคราะห์สารใหม่ๆที่เกิดขึ้นในอนาคต
เกี่ยวกับเอสจีเอส
ปัจจุบันบริษัทเอสจีเอส มีพนักงานกว่า 700 คน ในประเทศไทยพร้อมกับเครือข่ายสำนักงานในประเทศไทย เอสจีเอสมุ่งมั่นในการให้บริการ และทุ่มเทเพื่อเพิ่มคุณค่าการบริการให้กับลูกค้า โดยช่วยรักษาชื่อเสียงในด้านคุณภาพของลูกค้า และช่วยลดความเสี่ยงทางด้านการค้าและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวเนื่องกับการค้าทั้งในภาครัฐและเอกชนทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก กลุ่มบริษัทเอสจีเอส เป็นบริษัทชั้นนำของโลกในด้านการตรวจสอบ การทดสอบ และการรับรองระบบ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2421 ปัจจุบันเอสจีเอสเป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นบรรทัดฐานระดับสากล สำหรับมาตรฐานสูงสุดในด้านผู้เชี่ยวชาญด้านคุณภาพ และความซื่อสัตย์ ด้วยเอกลักษณ์ทั่วโลกของของเอสจีเอสที่ปฏิบัติการในเครือข่ายกว่า 840 แห่งสำนักงานและสาขาย่อย และมีห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์กว่า 320 แห่งทั่วโลก กลุ่มบริษัทเอสจีเอส เป็นผู้นำในการบริการตรวจสอบการตรวจติดตามการค้าระหว่างประเทศในด้านสินค้าเกษตร แร่ น้ำมันและก๊าซ สินค้าอุปโภคบริโภค รวมทั้งการรับรองระบบการให้บริการแก่หน่วยงานรัฐบาล และสถาบันระดับนานาชาติ นอกจากนี้เอสจีเอสยังนำเสนอบริการเชิงกลยุทธ์ให้กับภาคอุตสาหกรรม สิ่งแวดล้อม และการขนส่งอีกด้วย