“ร้อกเวิธ” ชูกลยุทธ์พัฒนาสินค้า ย้ำภาพผู้นำตลาดออฟฟิศเฟอร์นิเจอร์ครบวงจร

“ร้อกเวิธ” ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์สำนักงานแบบครบวงจร ตอกย้ำความสำเร็จในปี 49 กับตลาดออฟฟิศเฟอร์นิเจอร์ในเอเชียด้วยรายได้กว่า 856 ล้านบาท ปี 50 เตรียมรุกตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างเต็มตัว พร้อมปรับกลยุทธ์องค์กรใหม่เพื่อให้ได้งานออกแบบที่ไร้ขีดจำกัด ภายใต้คอนเซป “Human-Space-Technology” คาดการณ์ตลาดนอกโตขึ้นกว่า 35 % ขณะเดียวกันตลาดในประเทศยังสดใส เผยแผนการตลาดเน้นกลยุทธ์เชิงรุกผสานเทคโนโลยี แนวคิดสร้างสรรค์ที่ไม่หยุดนิ่ง ด้วยศักยภาพบุคลากรมืออาชีพ เพื่อก้าวสู่เป้าหมายยอดขาย 1,000 ล้านบาท ภายในปี 50

นายไชยยงค์ พงษ์สุทธิมนัส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ร้อกเวิธ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน ภายใต้ชื่อ ‘ร้อกเวิธ’ เปิดเผยว่า จากที่ “ร้อกเวิธ” ได้ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิตสินค้าเฟอร์นิเจอร์สำนักงานครบวงจรมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 จนถึงปัจจุบัน และได้มีการขยายตัวทางธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบัน “ร้อกเวิธ” ถือได้ว่าเป็นผู้นำด้านผู้ผลิตสินค้าเฟอร์นิเจอร์แบบครบวงจร ด้วยยอดผลประกอบการในปี 2549 ที่ผ่านมากว่า 856 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2548 เท่ากับ 50 ล้านบาท หรือโตขึ้น 6 % ทั้งนี้หากแบ่งโครงสร้างรายได้ตามกลุ่มลูกค้า สรุปได้ดังนี้ คือ แยกเป็น ยอดขายในประเทศ 620 ล้านบาท เติบโตขึ้น 11% ส่วนยอดส่งออกต่างประเทศมีมูลค่า 226 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ อีก 10 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 53.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 17.1 ล้านบาท หรือโตขึ้น 47.6% หากคิดในมุมของผู้ถือหุ้นพบว่า ปีนี้มีกำไรสุทธิต่อหุ้น 5.33 บาท เพิ่มขึ้น 1.73 บาทต่อหุ้น หรือ 47.6% จากผลการดำเนินการของบริษัทจะมียอดขายเพิ่มขึ้นไม่มากนัก แต่ความสามารถในการทำ Profit Growth และกำไรต่อหุ้นอยู่ในอัตราก้าวหน้า ถือเป็นงานที่ทางบริษัทฯ ได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่และเต็มไปด้วยความท้าทายใหม่ๆ ทั้งในส่วนของตลาด ผู้บริโภค มาตรฐานการออกแบบและผลิตสินค้าในโลกปัจจุบัน ทำให้ “ร้อกเวิธ” ไม่สามารถหยุดนิ่งในการพัฒนาการดำเนินงาน ซึ่งกุญแจสู่ความสำเร็จ (key success) ที่ทางบริษัทให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัทฯ คือ การพัฒนาศักยภาพของบุคลากรที่เป็นคนรุ่นใหม่ มีวิสัยทัศน์ มีแรงกระตุ้นผลักดันในอันที่จะเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ เพื่อพัฒนาและยกระดับตนเองและผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ จึงถือเป็นฐานที่มั่นคงให้กับบริษัทมากว่า 35 ปี

“ในส่วนของการประสบความสำเร็จในการขยายตลาดต่างประเทศของบริษัทฯ ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าต่างประเทศเป็นอย่างดีทั้งในเรื่องยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและการยอมรับในต่างประเทศ ที่มียอดส่งออกเพิ่มและจำหน่ายกว่า 25 ประเทศ โดยผ่านตัวแทนจำหน่าย 23 แห่ง เพราะสินค้าให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพสินค้าที่ได้รับมาตรฐานสากล โดยกลุ่มลุกค้าต่างประเทศของบริษัทในปัจจุบันได้แก่ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง คือ สหรัฐอาหรับเอมิเรต์ จอร์แดน กาต้าร์ คูเวต ซาอุดิอาระเบีย บาห์เรน โอมาน กลุ่มเอเชียใต้ ได้แก่ อินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถาน และ กลุ่มเอเขียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น สิงคโปร์ เวียตนาม ฟิลิปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ลาว ซึ่งความสำเร็จที่ผ่านมาเกิดจากความเชื่อมั่นในแบรนด์ที่เป็นของคนไทย ตลอดจนเม็ดเงินที่ไหลเข้าประเทศ เหล่านี้มาจากความทุ่มเท อดทน สร้างสรรค์และวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลไม่หยุดนิ่งของร้อกเวิธอย่างแท้จริง และถือเป็นพันธกิจที่จะนำทางเราไปสู่ความสำเร็จในอนาคตต่อไป” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ร้อกเวิธ จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติม”

นายดุษฎี พงษ์สุทธิมนัส กรรมการบริหาร และผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ บริษัท ร้อกเวิธ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแผนและกลยุทธ์บริษัทว่า “กลยุทธ์องค์กรในปี 2550 นี้ทางบริษัทฯ จะใช้กลยุทธ์ในเชิงรุก จากการศึกษาพบว่าสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ที่เข้ามามีอิทธิพลต่อทั้งการดำเนินธุรกิจขององค์กรและต่อการใช้ชีวิตประจำวันของพนักงาน, การเปลี่ยนแปลงการบริหารงานและรูปแบบการทำงานขององค์กรในปัจจุบัน ที่เน้นความคล่องตัวในการทำงาน เนื่องจากต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลงตามสภาวะการแข่งขันของสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน และส่วนที่สำคัญคือ ศักยภาพการทำงานของพนักงานในองค์กร องค์กรไม่สามารถประสบความสำเร็จได้เลยถ้าปราศจากสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานอย่างเหมาะสม

“โดยกลยุทธ์แรกที่ให้ความสำคัญ คือ การสร้างสรรค์และพัฒนาสินค้าให้สามารถตอบสนองลูกค้าได้อย่างแท้จริง โดยการปรับแนวความคิดในการออกแบบสินค้าใหม่ภายใต้คอนเซป “Human-Space-Technology” โดยยึด 3 คำ คือ

Human : ศักยภาพของพนักงานที่จะสามารถนำพาให้องค์กรสามารถประสบความสำเร็จทางธุรกิจได้ และแต่ละคนจะยังมีศักยภาพที่ซ่อนเร้น ที่ยังไม่ได้นำออกมาใช้ ซึ่งสิ่งนี้องค์กรสามารถช่วยหรือสนับสนุนให้พนักงานแสดงศักยภาพดังกล่าวด้วยการสร้างสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่เป็นบวกต่อพนักงาน และส่วนช่วยที่สำคัญคือ การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่ดีและรองรับการใช้งานได้อย่างถูกต้อง และที่สำคัญต้องถูกต้องตามสรีระและการใช้งานจริง หรือ Ergonomics เฟอร์นิเจอร์ที่ดีต้องไม่ทำให้ผู้ใช้งานเกิดการเจ็บป่วยจากการใช้ดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสรีระ การเคลื่อนไหวในการทำงาน หรือแม้กระทั่งวัสดุที่นำมาใช้ต้องไม่เกิดผลเสียต่อสุขภาพ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่หลายองค์กรมองข้ามอยู่ในปัจจุบัน

Space : บริษัทต้องการให้องค์กรต่างๆ ใช้พื้นที่ภายในสำนักงานได้คุ้มค่ามากที่สุด จึงให้ความสำคัญในการบริหารพื้นที่สำนักงาน หรือ Space Planning ดังนั้นการออกแบบสินค้าที่ดีนั้น เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นจะต้องสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงหรือการปรับตัวขององค์กรได้จริง เช่น การดีไซน์การออกแบบจะต้องไม่ทำให้เกิดความสิ้นเปลืองเนื้อที่ใช้สอย และที่สำคัญเฟอร์นิเจอร์ใหม่จะต้องสามารถใช้ร่วมกับเฟอร์นิเจอร์เดิมได้ด้วย หรือ การปรับรูปแบบของการทำงาน เช่นในปัจจุบันในหลายแผนกของบริษัทนั้นพบว่า ไม่มีความจำเป็นที่พนักงานจะต้องมีโต๊ะหรือที่นั่งประจำ เนื่องจากพนักงานใช้เวลาทำงานจริงนอกบริษัทมากกว่านั่งทำงานในบริษัท เช่น เจ้าหน้าที่ขาย หรือหน่วยงานบริการลูกค้านอกสถานที่

และประเด็นสุดท้ายคือ Technology : เนื่องจากทุกองค์กรมีการปรับตัวตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ดังนั้นเฟอร์นิเจอร์สำนักงานจำเป็นอย่างยิ่งต้องสามารถใช้ได้จริงและมีประสิทธิภาพต่อความก้าวหน้าดังกล่าว ทั้งหมดนี้เป็นแนวความคิดในการออกแบบสินค้าร้อกเวิธ

นายชาคริต วรชาครียนันท์ กรรมการบริหาร และผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท ร้อกเวิธ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงทิศทางและรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ใหม่ในปี 2550 ว่า “ในปีนี้เราจะเน้นการทำตลาดเชิงรุกมากขึ้น นั้นคือการตอกย้ำแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก โดยการนำเสนอประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ จากการตัดสินใจเลือกใช้สินค้าของร้อกเวิธ เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถช่วยให้ลูกค้าที่ใช้เฟอร์นิเจอร์สำนักงานสามารถใช้สินค้าได้อย่างถูกต้องและใช้ศักยภาพของสินค้าได้อย่างเต็มที่ภายใต้ Concept “Human-Space-Technology” ในแง่ของสินค้านอกเหนือจากการพัฒนาสินค้าของเราเองแล้ว เราได้มีการทำงานร่วมกับบริษัทเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำระดับโลกหลายบริษัทด้วยกัน ซึ่งตั้งแต่เมื่อต้นปี 2550 ที่ผ่านมาร้อกเวิธได้เป็นตัวแทนจำหน่ายแห่งเดียวในประเทศไทยที่ได้สิทธิ์ในการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ Vitra ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์สำนักงานจากประเทศ Switzerland ได้รับการยอมรับอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งดีไซน์เนอร์เฉพาะอันเป็นเอกลักษณ์ของ Vitra ทั้งนี้เพื่อตอบสนองกับกลุ่มลูกค้า Hi-End โดยกลุ่มลูกค้าเหล่านี้จะมีการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สำนักงานที่แตกต่างจากบริษัททั่วไปเนื่องจากมี Global Agreement ที่กำหนดให้จากบริษัทแม่ที่อยู่ในต่างประเทศ หรือกลุ่มที่ต้องการเฟอร์นิเจอร์สำนักงานนำเข้าที่มีดีไซน์ทางบริษัทตั้งเป้าการขายสินค้า Vitra ในปีแรกที่ 30 ล้านบาทและมากขึ้นในปีถัดๆ ไป กลยุทธ์ในการนำเสนอแบบครบวงจรที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าประเภทโครงการโดยครอบคลุมจากกลุ่มบริษัทชั้นนำ ดังนั้นการพัฒนาสินค้าและการหาพันธมิตรทางธุรกิจจะมุ่งไปที่กลุ่มลูกค้าดังกล่าว”

“ส่วนกลยุทธ์การตลาดส่งออก นอกเหนือจากการขยายตลาดให้มากขึ้นกว่า 25 ประเทศและการพัฒนาศักยภาพของตัวแทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่องแล้วนั้นการมองหาช่องทางการลงทุนใหม่ในต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Distribution Hub หรือการทำ Joint Venture ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งในแผนของบริษัทในปีนี้ด้วยและจากความไว้วางใจของลูกค้าของเราในประเทศไทย ทั้งบริษัทไทยและบริษัทข้ามชาติที่อยู่ในประเทศไทย ทำให้ บริษัท ร้อกเวิธ สามารถขยายตลาดไปสู่กลุ่มลูกค้าเดียวกันในต่างประเทศภายใต้กลยุทธ์ “Regional Key Account Purchasing Agreement” และเราได้เปรียบที่จะเป็นผู้ให้บริการกับลูกค้าเหล่านั้นเนื่องจากเรามีเครือข่ายของตัวแทนจำหน่ายที่มีศักยภาพในการให้บริการที่เหนือคู่แข่ง”

“สำหรับแนวโน้มการดีไซน์ปี 2550 เรานำข้อมูลจากการศึกษาวิจัยมาปรับใช้ในการกำหนดกลยุทธ์การออกแบบสินค้าของ “ร้อกเวิธ” ซึ่งเรากำหนด Design Concept ให้เข้ากับ 3 เรื่องหลัก คือ Human-Space- Technology ซึ่งต้องสามารถตอบสนองรูปแบบการทำงานสมัยใหม่ และให้ความสำคัญกับสุขภาพของพนักงานในการทำงาน และเป็นสินค้าที่ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เช่น ระบบ wireless, คอมพิวเตอร์ จอแบน ซึ่งสินค้าใหม่ทั้งหมดของร้อกเวิธ จะสามารถชมของจริงได้ที่โชว์รูมเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 5 ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมนี้เป็นต้นไป”

“บริษัทฯ คาดว่ากลยุทธ์ในการรุกตลาดรวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่จะทยอยเกิดขึ้นตลอดปีนี้จะสามารถสร้างยอดขายในปี 2550 ได้ประมาณ 950 -1,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันเรามีตัวแทนจำหน่าย 23 แห่งใน 15 ประเทศ ซึ่งเราสามารถขายสินค้าได้ 25 ประเทศ และในปี 2550 เราคาดว่าจะมีตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 5 แห่งได้แก่ ลาว กัมพูชา ศรีลังกา และในเมืองต่างๆ ในประเทศอินเดีย ส่วนในอนาคตอันใกล้นี้ บริษัทจะมีการปรับตัวทางการตลาดอีกครั้ง” นายชาคริต วรชาครียนันท์ กรรมการบริหาร และผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท ร้อกเวิธ จำกัด (มหาชน) กล่าวสรุปในที่สุด