คาร์ลสแบด, แคลิฟอร์เนีย–(บิสิเนส ไวร์)–16 เม.ย. 2550
คัลลาเวย์ กอล์ฟ คอมพานี (NYSE:ELY) ประกาศในวันนี้ว่า โดยอิงตามข้อมูลปัจจุบัน บริษัทคาดว่ายอด ขายสุทธิในไตรมาสแรกงวดสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2550 จะอยู่ในช่วง 330-335 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นประมาณ 10% ขณะที่กำไรต่อหุ้นปรับลดจะเพิ่มขึ้นประมาณ 42% ในช่วงเดียวกัน ซึ่งคาดว่ากำไรต่อหุ้นจะอยู่ระหว่าง 0.46-0.48 ดอลลาร์ (จากจำนวนหุ้น 68.3 ล้านหุ้น) ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายเป็นค่าชดเชยจูงใจในระยะยาว โดยผลประกอบการเหล่านี้รวมค่าใช้จ่ายหลังหักภาษีประมาณ 0.01 ดอลลาร์ต่อหุ้นซึ่งเกี่ยวกับแผนริเริ่มปรับปรุงกำไรขั้นต้นที่ประกาศไปเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว
ในไตรมาส 1/49 บริษัทรายงานว่ามียอดขายสุทธิ 302 ล้านดอลลาร์และมีกำไรต่อหุ้นปรับลดทั้งหมด 0.33 ดอลลาร์ (จากจำนวนหุ้น 70.1 ล้านหุ้น) ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าชดเชยจูงใจในระยะยาวด้วย และผลประ กอบการดังกล่าวรวมค่าใช้จ่ายหลังหักภาษีประมาณ 0.01 ดอลลาร์ต่อหุ้นสำหรับการควบรวมกับท็อป-ไฟลท์แล้ว
ข้อมูลคืบหน้าทางธุรกิจ
“เราพอใจมากกับผลประกอบการเบื้องต้นในไตรมาสแรกของเรา” นายจอร์จ เฟลโลว์ส ประธานและซีอีโอของคัลลาเวย์ กอล์ฟกล่าว “เนื่องจากกระบวนการพัฒนาสินค้าและห่วงโซอุปทานที่ดีขึ้น เราจึงสามารถส่งสินค้าใหม่ๆของเราไปสู่ระดับขายปลีกได้มากกว่าที่คาดไว้ในช่วงแรก คาดว่ายอดขายก่อนหน้านี้ของสินค้าที่มีกำไรสูงกว่าเหล่านี้ ประกอบกับความคืบหน้าของการดำเนินแผนปรับปรุงกำไรขั้นต้นของเรา จะส่งผลให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในไตรมาสแรกเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว”
“การยอมรับสินค้าใหม่ๆของเราในช่วงแรกเป็นที่น่าพอใจจนถึงขณะนี้” นายเฟลโลว์สกล่าว “อย่างไรก็ดี นี่ยังอยู่ในช่วงต้นปี และไตรมาสแรกน่าจะถูกมองบางส่วนในฐานะการจำหน่ายในระดับปลีกแทนที่จะเป็นตัวบ่งชี้ทั้งหดที่แสดงถึงผลประกอบการทั้งปีของเรา ขณะที่ไตรมาส 2 จะเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีกว่าในเรื่องนี้ เนื่องจากความ สำเร็จจะเกิดขึ้นจากการซื้อสินค้าของเราของลูกค้า และทำให้มีการสั่งออเดอร์ใหม่ในระดับขายปลีก ดังนั้น แม้เราจะคาดว่าไตรมาส 2 จะเป็นไตรมาสที่มีรายรับสูงสุดของเราสำหรับรอบปี แต่เราก็จะมีสถานะที่ดีขึ้น ถ้าจำ เป็น ในการแจ้งความคืบหน้าแนวโน้มประจำปีของเราในการประชุมแถลงผลประกอบการของเราในวันที่ 3 พ.ค.”
รายละเอียดของผลประกอบการไตรมาสแรก
ยอดขาย
การคาดการร์ยอดขายที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากปัจจัยหลายๆข้อดังต่อไปนี้:
— ยอดขายไดรฟ์เวอร์เพิ่มขึ้นเนื่องจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยี FT-i และ FT-5 fusion ก่อนกำหนด
— ยอดขายหัวเหล็กเพิ่มขึ้นในส่วนที่เกี่ยวกับสินค้ารุ่น X-20 และ X-20 tour และผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม X-forged
— ยอดขายอุปกรณ์เสริมเพิ่มขึ้นในส่วนที่เกี่ยวกับรองเท้า, ถุงกอล์ฟและถุงมือ
อัตรากำไรขั้นต้น
บริษัทคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในรูปแบบร้อยละของยอดขายสุทธิจะอยู่ที่ประมาณ 48% ในไตรมาสแรกปีนี้ ซึ่งหากไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับแผนการปรับปรุงอัตรากำไรขั้นต้น ก็คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นโดยสมมติ ฐานในรูปแบบร้อยละของยอดขายสุทธิจะอยู่ที่ประมาณ 48% เช่นกัน ในไตรมาส 1/49 อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทอยู่ที่ 43% และถ้าไม่รวมค่าใช้จ่ายในการผนวกกิจการและปรับโครงสร้างอยู่ที่ 44% การเพิ่มขึ้น 4% ของอัตรากำไรขั้นต้นโดยสมมติฐานมีสาเหตุหลักมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของสินค้าที่มีกำไรขั้นต้นสูงกว่า อาทิเช่น ไดรฟ์เวอร์รุ่นฟิวชั่น, หัวเหล็กรุ่นเอ็กซ์-ซีรีส์ และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ตลอดจนประสิทธิภาพในการผลิตและความสำเร็จในการดำเนินแผนริเริ่มการปรับปรุงกำไรขั้นต้น
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
บริษัทคาดว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในไตรมาส 1/50 จะอยู่ที่ประมาณ 105 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นประมาณ 10 ล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/49 โดยการเพิ่มขึ้นดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดเนื่องจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆในไตรมาสแรก และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากยอดขายสุทธิที่เพิ่มขึ้นแบบรายปี
การประชุม
บริษัทจะแถลงผลประกอบการที่แท้จริงประจำไตรมาสแรกในวันที่ 3 พ.ค.2550 นี้ โดยจะมีการประชุมและการถ่ายทอดผ่านเว็บในเวลาดังกล่าวเช่นกัน
ข้อยกเว้นการรับผิด: นักลงทุนพึงตระหนักว่า บริษัทยังไม่ได้สรุปผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2550 และการคาดการณ์ “เบื้องต้น” ของบริษัทต่อยอดขายสุทธิ กำไรขั้นต้น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และกำไรในไตรมาสแรกปีนี้ สะท้อนถึงการคาดการณ์ของฝ่ายบริหารโดยอิงตามข้อมูลเท่าที่มีอยู่ในขณะนั้น การคาด การณ์เหล่านี้อาจแตกต่างไปอย่างมากจากผลการดำเนินงานที่แท้จริงของบริษัท ถ้าข้อมูลที่อยู่บนพื้นฐานของการคาดการณ์ออกมาไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ในที่สุด นอกจากนี้ แถลงการณ์ที่ใช้ในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ซึ่งเกี่ยวกับแผนการ เหตุการณ์ ผลการดำเนินงานทางการเงิน ผลประกอบการ หรือแนวโน้มในอนาคต ซึ่งรวมถึงข้อความที่เกี่ยวกับการคาดการณ์ยอดขายในอนาคต เป็นแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าภายใต้คำจำกัดความของกฎหมายการฟ้องร้องหลักทรัพย์เอกชนฉบับปี 2538 การคาดการณ์และแถลงการณ์เหล่านี้อิงตามข้อมูลและการคาดการณ์ในปัจจุบัน ดังนั้น นักลงทุนจึงควรเข้าใจว่า เป็นเรื่องยากมากที่จะคาดการณ์ยอด ขายสินค้าของบริษัท ขณะที่ยอดขายส่วนหนึ่งของบริษัทในแต่ละปีมาจากยอดขายสินค้าใหม่ๆ การคาดการณ์ยอดขายในแต่ละปีได้อย่างถูกต้องจึงอยู่บนพื้นฐานของปัจจัยๆต่างที่ไม่ทราบล่วงหน้า ซึ่งรวมถึงการยอมรับของลูกค้าต่อสินค้าใหม่ๆของบริษัท ตลอดจนพฤติกรรมการซื้อที่ตัดสินใจเองของลูกค้าในปีต่อๆไป ผลการดำเนินงนที่แท้จริงอาจแตกต่างไปอย่างมากจากสิ่งที่คาดการณ์หรือประมาณการณ์ไว้อันเป็นผลจากปัจจัยที่ไม่ทราบล่วงหน้าดังกล่าว หรือเป็นผลจากความเสี่ยงและความไม่แน่นอนบางประการ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะความล่าช้าหรือความยากลำบากที่เกี่ยวกับการเปิดตัวแบรนด์ท็อป-ไฟลท์ใหม่อีกครั้ง หรือการดำเนินแผนริเริ่มในอนาคต การยอมรับของตลาดต่อสินค้าในปัจจุบันและอนาคต ภาวะตลาดและเศรษฐกิจที่เลวร้าย สภาพอากาศที่เลวร้ายและการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล การเปลี่ยนแปลงกฎหรือการดำเนินการอื่นๆของยูเอสจีเอหรือสมาคมกอล์ฟอื่นๆที่อาจมีผลกระทบร้ายแรงต่ออุปสงค์หรืออุปทานของสินค้าของบริษัท การลดลงของระดับการมีส่วนร่วมในกีฬากอล์ฟ และผลกระทบจากความเคลื่อนไหวของผู้ก่อการร้าย การต่อสู้ที่มีการใช้อาวุธ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือโรคระบาดต่อภาวะเศรษฐกิจโดยทั่วไป ต่อระดับความต้องการสินค้าของบริษัท หรือต่อความสามารถของบริษัทในการจัดการกระบวนการผลิตและขนส่งสินค้าท่ามกลางสภาวะการณ์ดังกล่าว สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยเหล่านี้ รวมทั้งความเสี่ยงและความไม่แน่นอนอื่นๆที่อาจมีผลต่อแถลงการณ์เหล่านี้และธุรกิจของบริษัท กรุณาดูในส่วนที่ 1 รายการ 1A ของรายงานประจำปีของบริษัทในเอกสาร Form 10-K สำหรับรอบปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2549 รวมทั้งความเสี่ยงและความไม่แน่นอนอื่นๆที่มีการบรรยายไว้อย่างละเอียดเป็นระยะๆในรายงานของบริษัทในเอกสาร Form 10-K, 10-Q และ 8-K ที่ได้ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ผู้อ่านจึงพึงระวังที่จะไม่เชื่อถือแถลงการณ์เชิงคาดการณ์เหล่านี้มากเกินไป ซึ่งระบุออกมา ณ วันที่ในที่นี้เท่านั้น บริษัทไม่มีหน้าที่รับผิดชอบในการเผย แพร่ซ้ำแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้าที่มีการแก้ไขใหม่เพื่อสะท้อนเหตุการณ์หรือสภาวะการณ์หลังจากวันที่ในที่นี้ หรือเพื่อสะท้อนการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
กฎข้อบังคับ G: ผลการดำเนินงานที่รายงานในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้จัดทำขึ้นตามหลักการทำบัญชีที่ยอมรับโดยทั่วไปในสหรัฐ (“GAAP”) นอกจากผลการดำเนินงานตาม GAAP แล้ว บริษัทยังได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน ซึ่งรวมถึงมาตรการทางการเงินบางอย่างที่ไม่ได้ถูกจัดทำไว้ให้สอดคล้องกับ GAAP มาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP ที่อยู่ในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ ไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการจ่ายชดเชยอิงตามหุ้นให้แก่พนักงาน และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการควบรวมการดำเนินงานของคัลลาเวย์ กอล์ฟกับท็อป-ไฟลท์ รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับแผนริเริ่มปรับโครงสร้างในเดือนก.ย.2548 และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับแผนริเริ่มการปรับปรุงกำไรขั้นต้นของบริษัท ดังนั้น จึงไม่ควรพิจารณามาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP ว่าเป็นตัวแทนสำหรับมาตรการใดๆที่ได้มาตาม GAAP มาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP อาจไม่สอดคล้องกับลักษณะที่มาตรการเดียวกันได้มาหรือใช้โดยบริษัทอื่นๆ ฝ่ายบริหารเชื่อว่า การนำเสนอมาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP ดังกล่าว เมื่อพิจารณาร่วมกับมาตรการทางการเงินที่เป็น GAPP ที่สามารถเทียบ เคียงได้อย่างโดยตรงที่สุดแล้ว จะทำให้นักลงทุนได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัทที่ปราศจากค่าใช้จ่ายเหล่านั้น และบริษัทได้ให้ข้อมูลในรูปแบบของข้อความของข่าวประชาสัมพันธ์และสำหรับปี 2549 ในข้อมูลทางการเงินเพิ่มเติมที่บรรจุอยู่ในข่าวประชาสัมพันธ์ของบริษัทเมื่อวันที่ 26 เม.ย.2549 ซึ่งสามารถดูได้ในหมวดนักลงทุนสัมพันธ์ในเว็บไซท์ของบริษัทที่ www.callawaygolf.com
เกี่ยวกับคัลลาเวย์ กอล์ฟ
ด้วยพันธะสัญญาที่มั่นคงต่อการคิดค้นพัฒนาสินค้าใหม่ๆ คัลลาเวย์ กอล์ฟสร้างสรรค์สินค้าและบริการที่มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาให้นักกอล์ฟทุกคนกลายเป็นนักกอล์ฟที่ดีขึ้น บริษัทคัลลาเวย์ กอล์ฟ ซึ่งจะฉลองการครบ รอบ 25 ปีในปี 2550 นี้ ผลิตและจำหน่ายชุดไม้กอล์ฟและลูกกอล์ฟ รวมทั้งจำหน่ายอุปกรณ์เสริมเกี่ยวกับกอล์ฟ ภายใต้แบรนด์ คัลลาเวย์ กอล์ฟ, ท็อป-ไฟลท์, โอดิสซีย์ และเบน โฮแกนในกว่า 110 ประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่เว็บไซท์ www.callawaygolf.com
ติดต่อ: คัลลาเวย์ กอล์ฟ คอมพานี
แบรด ฮอลิเดย์/แพทริค เบิร์ก/มิเชล ไซนอล, 760-931-1771
