เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีทิศทางที่สดใส แม้ว่าแนวโน้มความได้เปรียบด้านอัตราดอกเบี้ยสหรัฐกับประเทศคู่แข่งสำคัญลดน้อยลงเป็นลำดับ หลังการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางอังกฤษ ในช่วงวันที่ 9-10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ส่วนเงินเยนญี่ปุ่น เคลื่อนไหวในช่วงแคบราว 119-120 เยน/ดอลลาร์ เป็นผลจากธุรกรรมเก็งกำไรด้านผลตอบแทนจากสกุลเงินเยนและสกุลเงินสำคัญอื่นๆ
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่ากระเตื้องขึ้นในรอบสัปดาห์นี้ หลังจากที่ทำสถิติต่ำสุดเมื่อเทียบกับเงินยูโรที่อัตราเฉลี่ยราว 1.3682 ดอลลาร์/ยูโร ตอนปลายเดือนเมษายน แต่หลังจากนั้นรายงานตัวเลขเศรษฐกิจด้านอุตสาหกรรมการผลิตและภาคบริการของสหรัฐฯ ก็อยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ ช่วยประคับประคองค่าเงินดอลลาร์ไว้ อีกทั้งนักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะถึงจุดต่ำสุดแล้ว และระยะต่อไปควรปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ ด้วยเหตุนี้ จึงส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ดีดตัวสูงขึ้น ทั้งๆ ที่นักค้าเงินยังคงกังวลเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยของประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำอื่นๆ ก็ตาม นอกจากนี้ ในช่วงต้นสัปดาห์ เงินดอลลาร์ยังเข้มแข็งเมื่อเทียบกับเงินยูโร เนื่องจากรายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมันเดือนมีนาคมลดต่ำลงอย่างไม่คาดหมาย รวมถึงยอดตัวเลขของเดือนกุมภาพันธ์ก็ถูกปรับลดลงด้วย มีส่วนกดดันค่าเงินยูโร
อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์ได้รับแรงกดดันเล็กน้อยในเวลาถัดมา เมื่อการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติให้รักษาระดับอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25% ตามความคาดหมายของตลาด เป็นที่น่าสังเกตว่า ถึงแม้ธนาคารกลางยุโรปได้ตัดสินใจทรงอัตราดอกเบี้ยไว้คงเดิม ณ ระดับ 3.75% แต่ตลาดเงินมองว่าความได้เปรียบของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯอาจลดลง หากยุโรปมีแผนปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน ศกนี้ ในขณะเดียวกัน ธนาคารกลางอังกฤษได้เพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็น 5.50% ในวันที่ 10 พฤษภาคม นับเป็นการขึ้นครั้งที่ 4 ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่แล้ว มีส่วนทำให้ตลาดเงินเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยยุโรปกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งอาจแตกต่างกับอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ
ในช่วงปลายสัปดาห์ เงินดอลลาร์ยังคงขยับสูงขึ้นอีก แม้ว่าสหรัฐฯ จะปรากฏยอดขาดดุลการค้าเดือนมีนาคมเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเทียบกับยอดขาดดุลเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะตลาดเงินพยายามวิเคราะห์ว่าสถานการณ์การส่งออกของสหรัฐฯ มีแนวโน้มดีขึ้น แต่ปัญหาขาดดุลการค้าที่สหรัฐฯ เผชิญอยู่ในขณะนี้ ก็คือ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่แพงขึ้น ทำให้มูลค่าการนำเข้าสหรัฐฯ เพิ่มตามไปด้วย
เงินเยนญี่ปุ่น มีค่าแกว่งไปมาอยู่ในช่วง 119-120 เยน/ดอลลาร์ ปัจจัยสำคัญยังคงเป็นผลจากธุรกรรม carry trade ที่นักเก็งกำไรกู้ยืมสกุลเงินเยนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อนำไปซื้อสกุลเงินอื่นๆ ที่ให้ผลตอบแทนสูง ทำให้มีการเทขายเงินเยนญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง
อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับเงินตราสำคัญสกุลต่างๆ ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2550 เทียบกับวันที่ 10 พฤษภาคม 2550 (ตัวเลขในวงเล็บ) มีดังนี้
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าเท่ากับ 1.3598 ดอลลาร์/ยูโร (1.3480 ดอลลาร์/ยูโร) 120.07 เยน (119.91 เยน) และ 1.9924 ดอลลาร์/ปอนด์ (1.9795 ดอลลาร์/ปอนด์)
ราคาทองคำในตลาดลอนดอน เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2550 เท่ากับ 688.95 ดอลลาร์/ออนซ์ เทียบกับราคา 680.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2550