ประเทศไทยใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยาซึ่งถูกต้องตามข้อกำหนดขององค์การการค้าโลก เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงยาต้านโรคเอดส์ได้มากขึ้น ในขณะที่บริษัทยากำลังเอาเปรียบประเทศยากจนที่ขาดนวัตกรรมในการผลิตยาเอง
มูลนิธิดูแลสุขภาพผู้ป่วยเอดส์ (AIDS Healtcare Foundation – AHF) ซึ่งเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาในการดูแลรักษา ให้ความรู้และการป้องกันเชื้อเอชไอวี/เอดส์ รวมถึงเปิดคลินิกเพื่อรักษาโรคเอดส์โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ในสหรัฐอเมริกา แอฟริกา ละตินอเมริกา/แคริบเบียน และเอเชีย ได้กล่าวชมเชยบริษัทเมิร์ก (Merck) ที่ตัดสินใจลดราคายาต้านไวรัสเอชไอวี antiretroval และ efavirenz (ตลาดนอกสหรัฐฯใช้ชื่อทางการค้าว่า Strocrin) ในประเทศไทย แต่ตำหนิที่เสนอลดราคายากับรัฐบาลไทยโดยมีเงื่อนไขว่าต้องเพิกถอนสิทธิเหนือสิทธิบัตรยาซึ่งประกาศใช้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2549 ในการผลิต และ/หรือ นำเข้ายาสามัญ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เมิร์กและประเทศไทยได้ทำการเจรจาเรื่องราคาและการเข้าถึงยามาโดยตลอด โดยนอกจากการลดราคายาลงแล้ว ข้อเสนอล่าสุดยังรวมถึงการจัดหายาน้ำ efavirenz สำหรับเด็กไทย 2,500 คน ซึ่งป่วยเป็นโรคเอดส์โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ นอกจากนั้นยังมีการตรวจร่างกายและให้การรักษาสำหรับเด็กๆด้วย
“ข้อเสนอล่าสุดที่เมิร์กหยิบยื่นให้กับประทศไทยเป็นข้อเสนอที่ดีมาก แต่ข้อเสนอดังกล่าวไม่ควรอยู่ภายใต้เงื่อนไขเพิกถอนสิทธิเหนือสิทธิบัตรยา efavirenz” ไมเคิล ไวน์สไตน์ ประธานมูลนิธิดูแลสุขภาพผู้ป่วยเอดส์กล่าว “ประเทศไทยยึดมั่นในการนำกฎหมายระหว่างประเทศซึ่งประกาศใช้เมื่อเดือนพฤศจิกายนไปใช้ นับเป็นความพยายามเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงยาต้านโรคเอดส์ได้มากขึ้น เราขอยกย่องรัฐบาลไทยที่พยายามทำในสิ่งที่ถูกต้องให้กับประชาชนที่กำลังเดือดร้อน เราขอกระตุ้นให้เมิร์กยกเลิกเงื่อนไขในการเพิกถอนสิทธิเหนือสิทธิบัตรยา มิฉะนั้นก็ควรขยายขอบข่ายของข้อเสนอให้ดียิ่งขึ้น”
“การแข่งขันทั่วไปเท่านั้นที่จะทำให้ยาโรคเอดส์ทั่วโลกมีราคาอยู่ในระดับต่ำที่สุด ดังนั้นเราเชื่อว่าประเทศไทยและประเทศอื่นๆควรเรียกร้องสิทธิอย่างสิทธิเหนือสิทธิบัตรยาจากองค์การการค้าโลกต่อไป เพื่อเป็นการปกป้องสุขภาพของประชาชน” มีนา กอร์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของมูลนิธิดูแลสุขภาพผู้ป่วยเอดส์กล่าว “ยาต้านโรคเอดส์ของบริษัทเมิร์กและบริษัทยาอื่นๆทั่วโลกมีราคาไม่เท่ากันราวกับว่าสุ่มตั้งราคาขึ้นมาเอง เราเชื่อว่าถ้าประเทศต่างๆสามารถใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยาได้จะเป็นประโยชน์กับระบบการดูแลสุขภาพ โดยจะทำให้ประเทศต่างๆและบริษัทยาสามารถสร้างการเจรจาที่มีความสมดุลและสามารถตรวจสอบได้ การตั้งราคายาที่เหมาะสมและมีกำลังซื้อนั้น ควรจะมีการดำเนินการอย่างโปร่งใสที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ผลิตไม่ได้ละเมิดสิทธิของประเทศต่างๆรวมถึงผู้คนที่กำลังเดือดร้อน”
แหล่งข่าว: มูลนิธิดูแลสุขภาพผู้ป่วยเอดส์
ติดต่อ: มูลนิธิดูแลสุขภาพผู้ป่วยเอดส์
เก็ด เคนส์เลีย, ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสาร
โทร: +1-323-860-5225
โทรศัพท์มือถือ: +1-323-791-5526
หรือ
ลอรี เยเกียยัน, รองผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสาร
โทร: +1-323-860-5227
โทรศัพท์มือถือ: +1-323-377-4312
