จากภาพ : มร.วิลเลี่ยม บอทวิค (ซ้าย) และ มร.สตีเฟน คาร์ไลส์ (ขวา)
เจนเนอรัล มอเตอร์ส แถลงเรื่องการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของ เจนเนอรัล มอเตอร์ส อาเซียน และ ประเทศไทย โดย มร. วิลเลี่ยม บอทวิค ประธานกรรมการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศไทย บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เอเชียแปซิฟิก จำกัด ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานพัฒนาธุรกิจระดับโลกที่ตั้งขึ้นใหม่ประจำสำนักงาน จีเอ็ม เอเซียแปซิฟิค เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดยมี มร. สตีฟ คาร์ไลส์ รองประธาน จีเอ็ม เอเชีย แปซิฟิก ฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์ เข้ารับตำแหน่งแทน การแต่งตั้งครั้งนี้มี ผลในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้
มร.วิลเลี่ยม บอทวิค เข้ารับตำแหน่งประธานบริหารของจีเอ็มประเทศไทยตั้งแต่ปี 2542 และจีเอ็มอาเซียนตั้งแต่ปี 2544 โดยได้ทำให้ประเทศไทย เป็นหนึ่งในศูนย์การผลิตสำคัญของเจนเนอรัล มอเตอร์ส และผู้ส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถกระบะรายใหญ่ ในปีที่ผ่านมาศูนย์การผลิตของจีเอ็มที่ระยองผลิตรถยนต์มากกว่า 100,000 คัน คิดเป็นร้อยละ 70 ของจำนวนรถที่ส่งออกไปยังตลาดอื่น ๆ ทั่วโลก และนับจากปีแรกของการผลิตรถยนต์ในปี 2544 จีเอ็ม ประเทศไทย ได้กลายเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกรถชั้นนำของประเทศ
ช่วงที่ มร.วิลเลี่ยม บอทวิคดำรงตำแหน่งนั้น เจนเนอรัล มอเตอร์ส ได้ลงทุนในประเทศไทยกว่า สี่หมื่นห้าพันล้านบาท เพื่อสร้างฐานการผลิตหลักให้กับจีเอ็มในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ภายใต้การนำของ มร.วิลเลี่ยม บอทวิค จีเอ็มได้เป็นผู้ว่าจ้างงานรายใหญ่ของประเทศไทย ซึ่งจีเอ็มได้สร้างงานให้แก่พนักงานมากถึง 3,000 คน ที่ศูนย์การผลิตที่ระยอง และมากกว่านั้นยังมีการจ้างงานผ่านทางเครือข่ายผู้จำหน่ายของเชฟโรเลตซึ่งเริ่มดำเนินธุรกิจเมื่อปี 2543 ตลอดระยะเวลา 7 ปี เชฟโรเลตได้ขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายเพิ่มขึ้นจาก 17 สาขา ไปถึงกว่า 100 สาขาทั่วประเทศ และในปีที่ผ่านมา เชฟโรเลต สามารถครองอันดับสามของยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และได้รับความนิยมเป็นอันดับหก สำหรับรถกระบะ
มร.วิลเลี่ยม บอทวิค เริ่มต้นทำงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตั้งแต่ปี 2533 โดยดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการของจีเอ็มไต้หวัน และจีเอ็ม อินโดนีเซีย ตามลำดับ ก่อนที่จะมาประจำในประเทศไทย ในหน้าที่ใหม่นี้ มร.บอทวิคจะรับผิดชอบการขยายงานของจีเอ็มในตลาดหลัก ๆ ที่มีอัตราการเติบโตสูง 11 ตลาด ทั่วโลกได้แก่ ในเอเชียแปซิฟิก ยุโรปตะวันออก ละตินอเมริกา และอาฟริกา และยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการ ฝ่ายวางกลยุทธ์ประจำเอเชียแปซิฟิกต่อไป
“ผมภูมิใจมากกับความสำเร็จของจีเอ็ม และเชฟโรเลตในประเทศไทย” มร. บอทวิคกล่าว “
ช่วงเวลาของผมที่นี่เป็นช่วงเวลาที่มีค่าและน่าจดจำยิ่งนัก ผมยังได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพอย่างสูงจากพนักงานของจีเอ็มประเทศไทย และผู้คนในประเทศที่แสนวิเศษนี้ ผมหวังที่จะคงความสัมพันธ์อันดีนี้ไว้ และจะคอยเฝ้าดูผลสำเร็จต่อไปในบทบาทใหม่ของผม”
มร.สตีเฟน คาร์ไลส์ ร่วมงานกับจีเอ็ม เอเชียแปซิฟิก ในปี 2545 โดยรับผิดชอบงาน ด้านวางแผนผลิตภัณฑ์ประจำภูมิภาค และบริหารจัดการโครงการ ซึ่งในตำแหน่งใหม่นี้ มร.คาร์ไลส์จะยังคงดำเนินนโยบายเดินหน้าสร้างแบรนด์เชฟโรเลตให้เติบโตแข็งแกร่งในภูมิภาคอาเซียน เพื่อสอดคล้องกับนโยบายการทำตลาดเชิงรุกของจีเอ็มในเอเชียแปซิฟิก ซึ่ง มร.คาร์ไลส์เป็นหนึ่งในกรรมการฝ่ายวางกลยุทธ์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
มร.คาร์ไลส์เกิดที่ประเทศแคนาดา และเข้าร่วมงานกับจีเอ็ม ในงานพัฒนารถกระบะ รวมไปถึงควบคุมการผลิตรถกระบะในแคนาดา และสหรัฐอเมริกา โดยดำรงตำแหน่งอาวุโสในทีมพัฒนารถกระบะขนาดกลาง และกลุ่มธุรกิจรถกระบะของเจนเนอรัล มอเตอร์ส ก่อนหน้านี้ มร. คาร์ไลส์ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการ ของจีเอ็มอเมริกาเหนือ ก่อนได้รับการแต่งตั้งที่เจนเนอรัล มอเตอร์ส เอเชียแปซิฟิก ในบทบาทสำคัญด้านวางแผนกลยุทธ์พัฒนาผลิตภัณฑ์ของจีเอ็ม เพื่อตลาดเอเชีย ซึ่งรวมประเทศไทยและอาเซียน
“โอกาสที่จะได้บริหารประเทศที่มีตลาดกระบะที่ใหญ่ที่สุดรองจากตลาดอเมริกาเหนือ และสร้างแบรนด์เชฟโรเลตให้เป็นที่ยอมรับนั้น เป็นโอกาสที่ท้าทายมาก และผมก็อยากทำงานนี้มาก” มร.คาร์ไลส์กล่าว “ประเทศไทย และอาเซียนคือ ตลาดที่เติบโตสำคัญของจีเอ็มและเชฟโรเลต และผมก็ตั้งใจว่าจะสานต่อความสำเร็จที่ บิล บอทวิค และทีมงานของเราที่นี่ได้เริ่มไว้แล้ว”