จากภาพ : (จากซ้าย) ภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระริน อุทกะพันธุ์ กรรมการผู้จัดการสายธุรกิจสำนักพิมพ์ บมจ. อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง ดร.มารวย ผดุงสิทธิ์ ประธานคณะทำงาน โครงการประกวดเรื่องสั้น “หาได้ ใช้เป็น” นันทพร วงษ์เชษฐา ผู้อำนวยการอาวุโส บมจ. เนชั่น มัลติมีเดียกรุ๊ป สุวดี จงสถิตย์วัฒนา กรรมการและผู้จัดการ บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด และสุชาติ ศรีสุวรรณ กรรมการบริหาร บมจ. มติชน ร่วมพิธีเปิดตัวโครงการประกวดเรื่องสั้น “ หาได้ ใช้เป็น” ประจำปี 2550
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมมือบมจ.อมรินทร์พริ้นติ้งฯ บมจ.เนชั่น มัลติมีเดียกรุ๊ป นานมีบุ๊คส์ และบมจ.มติชน จัดประกวดเรื่องสั้นภายใต้แนวคิด “หาได้ ใช้เป็น” ส่งเสริมวัฒนธรรมการออม และใช้เงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมมอบรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงการจัดโครงการประกวด เรื่องสั้นภายใต้แนวคิด “หาได้ ใช้เป็น” ว่า เป็นกิจกรรมที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อมุ่งส่งเสริมวัฒนธรรมการออมและการลงทุนให้เป็นที่แพร่หลาย โดยได้รับการตอบรับและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจาก โครงการประกวดใน 3 ปีที่ผ่านมา
“ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตระหนักดีถึงภารกิจในการส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องการออมและการลงทุน โดยกำหนดให้เป็นหนึ่งในแผนงานหลักด้านการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เหมาะสมแก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้จัดกิจกรรมที่มุ่งปลูกฝังให้เยาวชนตระหนักถึงความสำคัญในการวางเป้าหมายของชีวิต การออม และการลงทุน รวมถึง การมีทักษะด้านการวางแผนการบริหารการเงินส่วนบุคคลผ่านวรรณกรรมในรูปแบบต่างๆ ทั้งเรื่องสั้น นิทานภาพ และการ์ตูนนิยายภาพภายใต้แนวคิด “รู้เก็บ รู้ใช้” โดยผลงานเหล่านี้ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ไปยังผู้อ่าน ทั่วประเทศแล้วกว่า 200,000 เล่ม รวมทั้ง เผยแพร่ผ่านมุมความรู้ตลาดทุน (SET Corner) ในสถานศึกษาทั่วประเทศอีกกว่า 130 แห่ง ” นางภัทรียากล่าว
นอกจากนี้ หนังสือรวมเรื่องสั้นระดับมัธยมฯ และอุดมศึกษาที่ได้รับรางวัลในปี 2547 ยังได้รับคัดเลือกจากกระทรวง ศึกษาธิการให้เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาแก่เยาวชน แสดงให้เห็นถึงพลังการสร้างสรรค์ และจินตนาการของนักคิด นักอ่านไทยในการรังสรรค์ผลงานคุณภาพ ซึ่งหวังว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีส่วนร่วมผลักดันให้เกิดผลงานดี ๆ เช่นนี้ต่อเนื่องสืบไป
ดร. มารวย ผดุงสิทธิ์ ประธานคณะทำงานโครงการประกวดเรื่องสั้นฯ กล่าวถึงแนวคิด “หาได้ ใช้เป็น” ในการประกวด ครั้งนี้ว่า ผู้ที่สนใจสร้างสรรค์และนำเสนอเรื่องสั้น ควรแสดงให้ผู้อ่านเห็นถึงการหาเงินอย่างสุจริต ไม่เบียดเบียนผู้อื่น สามารถใช้เงินที่หามาได้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ใช้เงินให้เหลือพอสำหรับเก็บออม รวมถึง สามารถนำไปต่อยอดให้เพิ่มพูนขึ้นได้ด้วย อีกนัยหนึ่งคือ การวางแผนการเงินส่วนบุคคล จะนำมาซึ่งการมีสุขภาพกาย สุขภาพใจ และสุขภาพทางการเงิน ที่ดี เพื่อความสมดุลและมั่นคงอย่างยั่งยืน
โครงการประกวดเรื่องสั้น “หาได้ ใช้เป็น” ร่วมจัดโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักพิมพ์ชั้นนำ 4 แห่ง ได้แก่ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) บริษัท เนชั่น มัลติมีเดียกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด และบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) นับเป็นการประสานความร่วมมือในวงการสิ่งพิมพ์ เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมการออมที่ดีแก่สังคม
โครงการประกวดเรื่องสั้น “หาได้ ใช้เป็น” เปิดรับผลงาน 5 ระดับ ได้แก่ 1) ระดับมัธยมต้น (ม.1 – ม.3) 2) ระดับมัธยมปลาย (ม.4 – ม.6) และประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) 3) ระดับอุดมศึกษาและประกาศนียบัตร วิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)
4) ระดับครู อาจารย์ ศึกษานิเทศก์ และ 5) ระดับประชาชนทั่วไป โดยรางวัลของทุกระดับมีมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท นอกจากนี้ สถาบันการศึกษาของผู้ที่ได้รับรางวัล จะได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ และมุมความรู้ตลาดทุน (Mini SET Corner) ด้วย
ทั้งนี้ โครงการฯ กำหนดจัดการเสวนาและจัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้แก่ผู้ที่สนใจโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อพัฒนาทักษะด้านการเขียนเรื่องสั้น “เรื่อง เขียนเรื่องสั้นอย่างไรให้ได้รางวัล” ในวันที่ 29 ก.ค. 2550 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย และจะมีการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ (workshop) “เรื่อง ฝึกเขียนเรื่องสั้น…ปั้นนักเขียนคุณภาพ” ในวันที่ 5 ส.ค. 2550 เวลา 8.00-16.00 น. ณ ห้องประชุม 1101 ชั้น 11 อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ
ผู้สนใจสามารถส่งผลงานเรื่องสั้นเข้าประกวดเป็นรายบุคคลหรือรายกลุ่ม (ไม่เกินกลุ่มละ 3 คน) โดยต้องเป็นเรื่องที่เขียนขึ้นใหม่ ไม่เคยตีพิมพ์หรือเผยแพร่ในสื่อทุกประเภท ใช้ภาษาไทยเป็นหลัก รวมทั้ง ไม่เป็นผลงานที่ลอกเลียน แปล ดัดแปลงหรือละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น โดยสามารถส่งผลงานด้วยตนเอง หรือทางไปรษณีย์มายังตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือส่งทาง อีเมลมายัง [email protected] ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2551 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ S-E-T Call Center โทร. 0-2229-2222 หรือดูข้อมูลที่ http://wanna-kam.set.or.th
