ธนาคารทิสโก้เผยผลประกอบการไตรมาส 2 ฉลุย กำไร 437 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.7% เหตุเช่าซื้อสุดบูม และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ด้านผลงานงวด 6 เดือนกำไร 793 ล้านบาทลดลง 11 .3% เนื่องจากตลาดหุ้นซบเซาในครึ่งปีแรก ด้านสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์โตต่อเนื่อง 29 .9% พอร์ตรวม 59,917 ล้านบาท ล่าสุดรุกโปรดักส์แบงก์แอสชัวรันส์ ออกกรมธรรม์ใหม่เอาใจลูกค้า “Auto Loan Protection” ประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ร่วมกับเอไอเอ ผลตอบรับดีเกินคาด 6 เดือนมีลูกค้ากว่าหมื่นราย
นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล กรรมการรองกรรมการอำนวยการ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลประกอบการของธนาคารทิสโก้ในไตรมาสที่ 2 ( เม.ย.-มิ.ย. 50) ว่าธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 437.79 ล้านบาท เทียบกับ 351.17 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน หรือเพิ่มขึ้น 24.7 % เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลที่เพิ่มขึ้น 32.6% โดยส่วนใหญ่มาจากธุรกิจเช่าซื้อ และการเพิ่มขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจาก 3.2% เป็น 3.4 % ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิเพิ่มขึ้น 26.2 % ขณะเดียวกันรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น 50.2% จากธุรกิจประกันชีวิตธนกิจ ธุรกิจจัดการกองทุน และธุรกิจวาณิชธนกิจ
สำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือน ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 793.63 ล้านบาท ลดลง 101.54 ล้านบาท หรือ 11.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 895.17 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากผลกำไรจากการลงทุนและรายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง เนื่องจากภาวะตลาดหลักทรัพย์ที่ซบเซาในครึ่งปีแรกของปี ซึ่งแตกต่างอย่างมากกับภาวะตลาดที่คึกคักในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
สำหรับรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิในไตรมาส 2 มีจำนวน 884.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 183.68 ล้านบาท คิดเป็น 26.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลเพิ่มขึ้นจำนวน 462.81 ล้านบาท หรือ 32.6% และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจำนวน 279.13 ล้านบาท หรือ 38.8% โดยอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยสูงกว่ารายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลเล็กน้อย เนื่องจากธนาคารอยู่ในช่วงของการขยายฐานเงินฝาก เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจสินเชื่อ
ทางด้านรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ในไตรมาส 2 มีจำนวน 510.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 55.16 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12.1 % โดยสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจากประกันชีวิตธนกิจ (Bancassurance) ธุรกิจจัดการกองทุน และธุรกิจวาณิชธนกิจ ที่อยู่ที่ 286.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าที่อยู่ที่ 190.81 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 50.2%
ทั้งนี้ สำหรับสินเชื่อ ณ สิ้นสุดไตรมาส 2 มีจำนวน 80, 742.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,451.88 ล้านบาท คิดเป็น 3.1% จากไตรมาสก่อน โดยส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อเช่าซื้อ โดยสัดส่วนของสินเชื่อของธนาคารแบ่งออกเป็น สินเชื่อธุรกิจ คิดเป็น 18.5% โดยมีมูลค่า 14, 928.45 ล้านบาท, สินเชื่อรายย่อย 76.6% โดยสินเชื่อเช่าซื้อมีจำนวน 59,917.91 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีสินเชื่ออื่นๆ 4.9%
ทางด้าน นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการสายสินเชื่อรายย่อย เปิดเผยถึงกลยุทธ์ในครึ่งปีหลังว่า ตามที่ธนาคารมีนโยบายมุ่งเน้นการพัฒนาช่องทางการให้บริการให้ครอบคลุมมากที่สุด รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยในส่วนของการขยายช่องทางบริการนั้น ธนาคารจะขยายสาขาให้ครบ 30 แห่งภายในปีนี้ และยังได้ร่วมเป็นพันธมิตรร่วมกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ในการให้บริการ TISCO@POST รับฝากเงินเพื่อเข้าบัญชีลูกค้าธนาคารทิสโก้ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
สำหรับครึ่งปีหลัง ธนาคารจะมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยล่าสุดหลังจากที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ( Auto Loan Protection-ALP) ร่วมกับ บริษัท อเมริกัน อินเตอร์แนชชั่นแนล แอสชัวรันส์ จำกัด (เอไอเอ) มาเป็นระยะเวลา 6 เดือน หรือตั้งแต่เดือนมกราคม 2550 ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีผลการตอบรับที่ดีมาก โดยมีลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อของธนาคารให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการกว่า 1 หมื่นราย
โดยประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ หรือ ALP จะมอบความคุ้มครอง การเสียชีวิตทุกกรณี หรือ อุบัติเหตุ การสูญเสียอวัยวะและทุพพลภาพ ให้กับลูกค้าผู้เช่าซื้อรถยนต์ของธนาคารทิสโก้ที่สมัครเข้าร่วมโครงการ โดยหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับผู้เอาประกันภัย เอไอเอจะเป็นผู้รับผิดชอบภาระหนี้ค่างวดของสินเชื่อที่ยังคงค้างแทนลูกค้า เพื่อให้กรรมสิทธิ์รถยนต์ที่เช่าซื้อเป็นของครอบครัวผู้เอาประกันภัย
ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยจะได้รับความคุ้มครอง 24 ชั่วโมงทั่วโลก ซึ่งครอบคลุมถึงการเสียชีวิตทุกกรณีอันเกิดจากการเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุ สูญเสียอวัยวะและทุพพลภาพ โดยในกรณีที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจะได้รับความคุ้มครองเพิ่มอีก 50 % ของทุนประกัน และในกรณีที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุสาธารณภัย จะได้รับความคุ้มครองเพิ่มอีก 100% ของทุนประกัน
“จุดเด่นของ ALP คือ เบี้ยประกันต่ำ ชำระครั้งเดียว และความคุ้มครองสูง นอกจากนี้ทิสโก้ ยังเป็นธนาคารแห่งแรกที่เพิ่มความคุ้มครองอีก 50 % ของทุนประกันในกรณีเกิดอุบัติเหตุ และ 100 % ในกรณีอุบัติเหตุสาธารณภัย และผู้ค้ำประกันยังสามารถได้รับสิทธิพิเศษในการซื้อกรมธรรม์นี้ได้ด้วย เช่น พ่อค้ำประกันสินเชื่อรถยนต์ให้ลูก ทั้งพ่อและลูกสามารถซื้อกรมธรรม์นี้ได้ทั้งคู่ ”
ทั้งนี้ ตั้งแต่เปิดโครงการ ALP มาเป็นเวลา 6 เดือน มีเบี้ยประกันภัยรับรวมประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ได้เคยตั้งไว้ในปีนี้ และขณะนี้เราได้บรรลุเป้าหมายทั้งปี 2550 แล้ว และคาดว่าจะถึง 200 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ โดยช่องทางการจำหน่าย ALP จะเน้นการขายผ่านทางเจ้าหน้าที่การตลาดของธนาคารเป็นหลัก
“สำหรับบริการ Bancassurance เราก็จะพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ โดยพัฒนาให้สอดคล้องตามสายผลิตภัณฑ์ของทิสโก้เอง คือกรมธรรม์ใดสามารถเอามาควบกับผลิตภัณฑ์ของเราได้ก็จะทำ เพราะเราเองมีผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายมาก จึงสามารถใช้กลยุทธ์ Product bundling ได้ดี และจากความสำเร็จของประกันสินเชื่อรถยนต์ ก็แสดงให้เห็นว่า เราเข้าใจความต้องการของลูกค้าของเรา และสามารถเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ” นายศักดิ์ชัย กล่าว