ร้านลอฟท์ (LOFT) สเปเชียลตี้สโตร์แบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่น ฉลองโอกาสครบรอบ 10 ปี พร้อมทุ่มงบประมาณกว่า 20 ล้าน ประกาศปรับโฉมร้านครั้งยิ่งใหญ่ทั้งสินค้าและการตกแต่งร้าน ภายใต้แนวคิด PLAY IT TWIST สินค้าดีไซน์สนุก เติมลูกเล่นและสีสันใหม่ให้กับชีวิต เผยผลตอบรับดีเยี่ยม เพิ่มลูกค้าหมุนเวียนกว่า 20% ดันยอดจำหน่ายพุ่งเพิ่มถึง 30%
นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการบริหาร บริษัท บีไอเอชซี เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวถึงการถือกำเนิดของร้านลอฟท์ ว่า “ร้านลอฟท์ได้เปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2530 ที่ชิบูย่า มหานครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เน้นการจำหน่ายสินค้าสำหรับชีวิตประจำวันที่มีดีไซน์แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร และ เน้นความหลากหลายให้เลือกสรรจนถึงปัจจุบัน มีทั้งสิ้น 30 สาขาในประเทศญี่ปุ่น บริษัท บีไอเอชซี เทรดดิ้ง จำกัด ได้เล็งเห็นถึงการสร้างประสบการณ์ใหม่ในการช้อปปิ้งให้กับลูกค้าชาวไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มที่ล้ำสมัย จึงได้เซ็นสัญญาแฟรนไชน์ และเปิดตัวร้านลอฟท์ครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2540 บนพื้นที่ 1,200 ตร.ม. ชั้น 3 สยามดิสคัฟเวอรี่ โดยร้านลอฟท์ได้เสนอแนวทางใหม่ ให้ลูกค้าได้สัมผัสกับสินค้าที่ได้สรรหามาจากทั่วโลก ซึ่งมีทั้งความแปลกใหม่ และดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนใคร เพื่อกลุ่มนักช้อปได้เพลิดเพลินกับการเลือกหาสินค้า ภายใต้คำจำกัดความว่า “BEYOND ORDINARY STORE”
ในโอกาสก้าวสู่ทศวรรษใหม่ของการดำเนินงาน ร้านลอฟท์จึงได้ปรับกลยุทธ์ต่างๆ ทั้งด้านสินค้า การบริการที่แตกต่างจากห้างร้านอื่นๆ และปรับปรุงการตกแต่งโดยรวมทั้งหมด โดยวางแนวทางตามความต้องการของลูกค้า ที่แสวงหาทางเลือกหลากหลายมีเอกลักษณ์ รวมถึงเสนอภาพลักษณ์ที่เท่ห์มีสไตล์ ด้วยงบประมาณทั้งสิ้น 20 ล้านบาท
“รีแบรนดิ้ง”: กลยุทธ์สร้างความแตกต่าง เพื่อครองความเป็นหนึ่ง
ด้วยความเชื่อว่า “การแต่งแต้มความสนุกเล็กๆ น้อยๆ และรสชาติใหม่ๆ ให้กับชีวิต โดยดึงความเป็นเด็กสนุกสนานที่ซ่อนอยู่ในตัวทุกคนออกมา จะช่วยทำให้การดำเนินชีวิตประจำวันที่เรียบง่าย กลายเป็นชีวิตที่น่าตื่นเต้นและมีสีสันอยู่เสมอ” ดังนั้น ร้านลอฟท์จึงมุ่งมั่นที่จะแสวงหาสินค้าเพื่อตอบสนองทุกอารมณ์ที่ต่างกันในวิถีชีวิตประจำวันของแต่ละคน ซึ่งก่อให้เกิดแนวคิดใหม่ของลอฟท์ คือ “PLAY IT TWIST” คลังของสนุก ลูกเล่นชีวิต รูปแบบใหม่ที่เติมสีสันให้กับชีวิต ที่ต้องการสื่อถึงความมีชีวิตชีวา ที่มาพร้อมกับมุมมองใหม่ๆ จากทุกมุมโลก พร้อมด้วย Positioning ใหม่ของร้านที่จะเป็นโกดังรวมสินค้า เพื่อหลีกหนีความจำเจ พร้อมรวบรวมสินค้าใหม่ๆ (Surprising Lifestyle Accessory Warehouse) ซึ่งจะทำให้ร้านลอฟท์แตกต่างไปจากร้านต่างๆ โดยสิ้นเชิง เนื่องจากในปัจจุบัน ยังไม่มีร้านที่มีแนวคิดแบบเดียวกันอยู่ ในประเทศไทยเลย ทั้งนี้ แนวคิด PLAY IT TWIST จะเป็นตัวกำหนดกลยุทธ์การบริหารของร้าน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบร้าน การตลาด สินค้า และบรรยากาศภายในร้านทั้งหมด รวมทั้งสะท้อนถึงกลุ่มเป้าหมายของร้านอีกด้วย
สร้างมิติใหม่ให้กับชีวิต ด้วยสินค้าเพิ่มลูกเล่น
จากแนวคิดหลัก PLAY IT TWIST ร้านลอฟท์ได้แบ่งอัตราส่วนเป็นสินค้านำเข้า 60% สินค้าเฮ้าส์แบรนด์ 10% และสินค้าในประเทศ 30% โดยมีหลักเกณฑ์ในการคัดสรรสินค้าเพื่อถ่ายทอดแนวคิดของร้าน หลายประการ อาทิ
1. สินค้าเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถมีกิจกรรมร่วมสนุกได้
2. นำเข้าสินค้าใหม่ๆ ทุกสองสัปดาห์
3. สินค้าจะต้องนำกระแสล้ำสมัยจากประเทศต่างๆ
4. สินค้าของร้านลอฟท์จะสามารถสนุกได้กับทุกเทศกาล
ดังนั้น ภายในร้านลอฟท์ จะแบ่งสินค้าออกเป็น 7 แผนก ที่ชัดเจน ดังนี้
1. Stationery เครื่องเขียน
2. Card & Wrap บัตรอวยพร และกระดาษห่อของขวัญ
3. Gift & Game ของขวัญเกมส์ต่างๆ
4. Home Decorative สินค้าตกแต่งบ้าน
5. Fashion สินค้าแฟชั่น
6. Zmile สินค้าเฮาส์แบรนด์ “ซีไมล์” อาทิ ปลอกหมอน และเสื้อยืด
7. Seasonal Motivation สินค้าเทศกาล
Japanese Warehouse Interplay: โกดังร่วมสนุกสไตล์ญี่ปุ่น นอกจากการปรับเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ของสินค้าภายในร้านแล้ว ร้านลอฟท์ ยังได้ปรับเปลี่ยนโฉมการตกแต่ง และการจัดวางสินค้าใหม่ทั้งหมด ภายใต้ดีไซน์ “Japanese Warehouse Interplay: โกดังร่วมสนุกสไตล์ญี่ปุ่น” เป็นเสมือนโกดังสินค้าขนาดใหญ่ที่รอคอยการค้นหา ให้ลูกค้ามีอารณ์สนุกและตื่นเต้นในการค้นพบสิ่งที่ถูกใจ รวมทั้งลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรม DIY (Do It Yourself) ได้ โดยบรรยากาศภายในร้านจะมีกลิ่นอายญี่ปุ่นแนวทันสมัย และเน้นโทนสีเหลืองเป็นหลัก
กลยุทธ์การตลาดขายไอเดีย ครองใจลูกค้าไร้ข้อจำกัดด้านอายุ
ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ร้านลอฟท์เตรียมทุ่มงบประมาณด้านโฆษณา และ ประชาสัมพันธ์จำนวน 15 ล้านบาท เพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมทางการตลาดส่งเสริมการขายต่างๆ โดยไม่เน้นการลดราคา รวมทั้งการสื่อสารเพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของลอฟท์ในสไตล์ญี่ปุ่นที่ไม่หยุดนิ่งและสดใหม่อยู่เสมอ นอกจากนี้ ยังเน้นการผนึกกำลังกับพันธมิตรกับองค์กรต่างๆ ที่มีภาพลักษณ์ใกล้เคียงกับลอฟท์ เพื่อสร้างประสบการณ์ และข้อเสนอที่พิเศษสุดให้กับลูกค้าได้เหนือกว่าใคร
ปัจจุบัน ร้านลอฟท์มีลูกค้าหมุนเวียนภายในร้านประมาณ 8,000 คนต่อวัน โดยร้านลอฟท์ คอนเซ็ปต์ใหม่ ทั้งนี้ นอกจากจะมุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายตามหลักประชากรศาสตร์ (Demographic) ไปยังกลุ่มนักศึกษาและวัยทำงานตอนต้น อายุ 12 – 29 ปี ประมาณ 40% รวมทั้งกลุ่มผู้บริหารและเจ้าของกิจการ อายุ 35 – 45 ปี ประมาณ 40% อีกทั้งลูกค้าชาวต่างชาติที่เป็นลูกค้าประจำและลูกค้าจรอีก 20 % ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของลอฟท์จะครอบคลุมถึงกลุ่มลูกค้าที่มีลักษณะชอบแสวงหาสิ่งแปลกใหม่ดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร และเติมเต็มความเป็นตัวเอง โดยไม่ได้มีขีดจำกัดด้านอายุที่ชอบอัพเดตเทรนด์ใหม่ๆ อยู่เสมอ
ประเดิมโฉมใหม่กับเทศกาลญี่ปุ่นสุดฮิป
ร้านลอฟท์ได้เตรียมเฉลิมฉลองในโอกาสก้าวสู่ทศวรรษใหม่ด้วยการจัด งาน “ลอฟท์ เจแปนนิส ฟัน แฟร์” (Loft Japanese Fun Fair) ระหว่างวันที่ 29-30 กันยายน ศกนี้ ณ แกรนด์ฮอลล์ ชั้น 1 และร้านลอฟท์ ชั้น 3 สยามดิสคัฟเวอรี่ โดยได้รับเกียรติจาก มร. จุน นิอิมิ อัครราชฑูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย มาเป็นประธานในการเปิดงาน ซึ่งเนรมิตบรรยากาศแบบงานวัดญี่ปุ่นสมัยใหม่ ที่ให้ลูกค้าได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมบันเทิงอย่างเต็มที่ อาทิ คอนเสิร์ต จาก 3 หนุ่มฮอต JKI, ชิน – ชินวุฒิ, วง K-Otic, ดีเจชื่อดังจากคลื่น Seeds, ลีลาการเพ้นท์พัดของเหล่านักแสดง และเซเลบริตี้ชื่อดัง, การประกวดชุดยูกาตะ, การแสดง เจ- คัฟเวอร์ และ คอสเพลย์, การเต้น Pala Pala ที่กำลังฮอตในประเทศญี่ปุ่น, การเล่นเคนโด้ พร้อมอิ่มอร่อยกับอาหารญี่ปุ่นนานาชนิด และ
*** พลาดไม่ได้!!! กับโปรโมชั่นพิเศษสุด ระหว่างวันที่ 29 – 30 กันยายน ศกนี้ ซื้อสินค้าในร้านลดราคาทั้งร้าน 15% และ 20% สำหรับสมาชิก พร้อมรับสิทธิประโยชน์สำหรับร่วมสนุกกับกิจกรรมต่างๆ และรับของรางวัลมากมาย
“หลังจากประสบความสำเร็จจากกลยุทธ์ ‘รีแบรนดิ้ง’ ครั้งสำคัญของร้านลอฟท์ ที่สยาม-
ดิสคัฟเวอรี่แล้ว ในอนาคต ลอฟท์ยังมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มอีกประมาณ 2 สาขา บนพื้นที่ประมาณ 800 – 1,000 ตารางเมตรต่อสาขาเพื่อตอบสนองการต่ออายุสัญญาแฟรนไซส์ไปแล้วอีก 10 ปีด้วย” นางมยุรี กล่าวสรุป
