สภาพัฒนาการค้าฮ่องกง ( HKTDC ) และ Hong Kong International Arbitration Centre (HKIAC) ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมการค้าไทย – ฮ่องกง และสภาธุรกิจไทย – ฮ่องกง จัดสัมมนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับหน่วยงานรัฐและนักธุรกิจไทยในหัวข้อ “Arbitration in Asia-The Hong Kong Advantage : การประณีประนอม ข้อพิพาททางด้านการค้าของบริษัทต่างประเทศที่ทำธุรกิจกับประเทศจีน ”
นางสาวลอเร็ตต้า วาน ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียตะวันออกเชียใต้และอินเดีย สภาพัฒนาการค้าฮ่องกง กล่าวว่า “ การขจัดปัญหาเพื่อลดข้อโต้แย้งทางธุรกิจเชิงการค้า เริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้นในประเทศแถบเอเชีย เนื่องมาจากมีบริษัทต่างประเทศได้ทำธุรกิจการค้ากับประเทศจีนเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ปัจจุบันฮ่องกงเป็นหนึ่งในเวทีที่มีการตัดสินข้อพิพาทโต้แย้งทางการค้าระหว่างจีนกับผู้ประกอบธุรกิจกับต่างประเทศ เนื่องด้วยมีข้อได้เปรียบทางด้านข้อกฎหมาย ”
ฮ่องกงมีโครงร่างรัฐธรรมนูญที่สนับสนุนข้อกฎหมายของฮ่องกง โดยการปกครองพิเศษของรัฐ นั่นคือ เป็นหนึ่งประเทศแต่มีสองระบบ ด้วยกฎหมายนี้ทำให้สามารถใช้ระบบพื้นฐานข้อกฎหมายอังกฤษและเป็นระเบียบปฎิบัติต่อระบอบทุนนิยม ขณะเดียวกันความเกี่ยวเนื่องทางเศรษฐกิจการค้าของฮ่องกงและจีนมีความใกล้ชิดกันแนบแน่น ทำให้ฮ่องกงเป็นหนึ่งในทางเลือกของการเป็นศูนย์กลางการเจรจาประณีประนอม การตัดสินข้อพิพาทธุรกิจทางการค้าระหว่างประเทศจีนกับผู้ประกอบการค้าต่างประเทศที่เหมาะสม
จำนวนกรณีพิพาทการค้าโดยความช่วยเหลือของศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทการค้า ระหว่างประเทศฮ่องกง ( HKIAC ) มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในรอบสิบปีที่ผ่านมา โดยมี 197 กรณี ในปี 1996 และเพิ่มเป็น 394 กรณี ในปี 2006 และคาดว่า ในปี 2007 จะเพิ่มขึ้น ถึง10 – 20%
ดร.ไมเคิล มอเซอร์ ประธานบริหาร ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทการค้าระหว่างประเทศฮ่องกง ( HKIAC ) เปิดเผยว่า “ ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทการค้าระหว่างประเทศ ( HKIAC ) ขึ้นมาในปี 1985 เพื่อเป็นเวทีที่จะอนุญาตให้ผู้ตัดสินข้อพิพาทได้ใช้ประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญในการช่วยสะสางปัญหา และไกล่เกลี่ยข้อโต้แย้งที่ซับซ้อนระหว่างธุรกิจการค้าต่างประเทศ โดยใช้อรรถาธิบายตัดสินปัญหาทางการค้า ฮ่องกงเป็นผู้นำสำหรับมติของข้อโต้แย้งที่เกี่ยวเนื่องกับประเทศจีน โดยใช้กรณีศึกษาเป็นตัวแสดงผล ”
นายคริสโตเฟอร์ โท เลขาธิการ ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทการค้าระหว่างประเทศฮ่องกง ( HKIAC ) กล่าวเสริมว่า ฮ่องกงเป็นสถานที่ได้รับความนิยมสำหรับการตัดสินข้อพิพาทการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะข้อโต้แย้งที่เกี่ยวเนื่องกับประเทศจีน เนื่องจากหลากหลายเหตุผลด้วยกัน อาทิ ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางทางการค้าที่ผู้คนรู้จักกันมานาน ยังมีการติดตามกฎหมายการตัดสินข้อพิพาท ตั้งอยู่บนรากฐานของ UNCITRAL Model Law โดยผู้พิพากษาและผู้เชี่ยวชาญการตัดสินข้อพิพาท เพื่อรับฟังกรณีพิพาทและได้ใช้กฎหมายทั่วไปประกอบการพิจารณาอีกด้วย ทั้งยัง บุคลากรทางด้านภาษาครบทุกภาษาและมีนักกฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพสูง เป็นต้น
ทั้งนี้ ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทการค้าระหว่างประเทศ ( HKIAC ) มีบทบาทและหน้าที่เป็นผู้ช่วยในการจัดการให้อำนาจกับผู้ตัดสินข้อพิพาท โดยจะอยู่ภายใต้ UNCITRAL Model Law และมีอำนาจและยังสามารถชี้ขาดในการแต่งตั้งจัดการโดยปราศจากความล่าช้าและมีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากนั้น ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทการค้าระหว่างประเทศ ( HKIAC ) ไม่ได้กำหนดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ตัดสินข้อพิพาท ดังนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายไม่สามารถปฎิเสธการตัดสินชี้ขาดจากผู้ตัดสินข้อพิพาท โดยกำหนดจากการค่าธรรมเนียมดำเนินการ ผู้พิพาททั้งสองฝ่ายไม่สามารถบังคับให้ตัดสินข้อพิพาทโดยการดำเนินการให้เสร็จสิ้นในกำหนดระยะเวลาที่มีขีดจำกัด อันทำให้ไม่สามารถ
บรรลุได้ และศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทการค้าระหว่างประเทศ ( HKIAC ) ยังไม่สามารถ
ร้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียมค่าใช้จ่ายเพิ่ม ได้เหมือนองค์กรอื่นๆ ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นทำให้ฮ่องกงเป็นสถานที่เป็นจุดศูนย์กลางการตัดสินข้อโต้แย้งในแถบเอเชีย
