หากท่านผู้อ่านบางคนกำลังรู้สึกว่าองค์กรที่ทำงานอยู่นั้นช่างไม่ยุติธรรม ใช้งานก็โหดเหลือกำลัง ต้องกลับบ้านมืดค่ำ ส่วนผลตอบแทนก็แทบเทียบไม่ได้กับสุขภาพที่เสียไป บางทีอาจต้องลองมาฟังทางนี้ เมื่อรองประธานฝ่ายอินเตอร์เนชันแนลของเสี่ยวหมี่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ชั่วโมงการทำงานของบุคลากรที่เสี่ยวหมี่นั้นอย่างต่ำคือ 12 ชั่วโมงต่อวัน!!!
ฮิวโก บาร์รา (Hugo Barra) ในฐานะรองประธานฝ่ายอินเตอร์เนชันแนลของเสี่ยวหมี่ได้เผยถึงวัฒนธรรมองค์กรว่า ชั่วโมงการทำงานของพนักงานเสี่ยวหมี่นั้นเริ่มตั้งแต่ 09.30 น. ไปจนถึง 21.30 น.
“การทำงานตั้งแต่ 09.30 น. ไปจนถึง 21.30 น. เป็นชั่วโมงการทำงานมาตรฐานของเรา และหากคุณมาที่ออฟฟิศของเราในเวลา 23.00 น. คุณจะได้เห็นว่ายังมีพนักงานประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ยังคงทำงานอยู่ ซึ่งสิ่งที่ทำให้พวกเขายังอยู่ก็คงเป็นเพราะเขารู้สึกว่างานนั้นสำคัญมากสำหรับพวกเขานั่นเอง” บาร์รากล่าวให้สัมภาษณ์
ชั่วโมงการทำงานของพนักงานเสี่ยวหมี่นี้อาจกล่าวได้ว่าไม่ต่างจากแอปเปิล (Apple) โดยอดีตพนักงานระดับผู้บริหารของแอปเปิลสองรายได้เคยเปิดเผยถึงการทำงานในแอปเปิลว่า พนักงานของแอปเปิลนั้นมักจะได้รับอีเมลจากผู้บริหารในเวลาที่แปลกประหลาด เช่น ตอนตีหนึ่ง-ตีสอง และถูกคาดหวังว่าจะต้องรีบตอบเดี๋ยวนั้นด้วย ขณะที่เย็นวันอาทิตย์ก็กลายเป็นเวลาทำงานไปโดยปริยาย เนื่องจากพนักงานต้องเตรียมพร้อมรับมือการประชุมที่จะมีขึ้นในทุกเช้าวันจันทร์
ดอน เมลตัน (Don Melton) อดีตผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของแอปเปิลซึ่งเคยเผยถึงวัฒนธรรมด้านการทำงานของแอปเปิลระบุว่า เย็นวันอาทิตย์คือวันที่คุณจะได้อยู่กับคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์ ไม่ว่าคุณจะมีรายการโปรดรออยู่หรือไม่ก็ตาม
“พนักงานแอปเปิลต้องพร้อมทำงานตลอด 24 ชั่วโมง”
นอกจากนั้นเขายังเล่าเรื่องขำขันเกี่ยวกับวัฒนธรรมด้านการทำงานของแอปเปิลไว้ด้วยว่า เวลาที่มีใครมาพบเขาเพื่อขอตำแหน่งผู้จัดการ เขาจะถามว่า เมื่อคืนคุณหลับสบายไหม หากอีกฝ่ายตอบว่า หลับสบายดี เขาจะตอบว่า ยินดีด้วย เพราะนั่นจะเป็นคืนสุดท้ายที่คุณจะได้รับสิทธิ์นั้น
อย่างไรก็ดี ไม่เฉพาะแค่พนักงานระดับผู้จัดการ หรือวิศวกรที่ไม่ค่อยมีเวลาพัก เพราะแม้แต่ซีอีโออย่างทิม คุกเองก็มักจะออนไลน์ตลอดวัน และมาถึงที่ทำงานเช้ามากๆ ด้วย
อดีตพนักงานแอปเปิลซึ่งไม่ค่อยมีความสุขกับชั่วโมงการทำงานสุดโหดยังเคยคาดการณ์ด้วยว่า ทิม คุกน่าจะได้นอนวันละ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น
ที่มา : http://manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9580000008739
