บางกอกแคนแจ้งเกิดนวัตกรรมกระป๋องเครื่องดื่มเพื่อสิ่งแวดล้อม

บริษัท บางกอกแคน แมนนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กระป๋องเครื่องดื่มและอาหารชั้นนำของไทยด้วยมาตรฐานเทคโนโลยีระดับโลก ประกาศเปิดตัวสายการผลิตกระป๋องทัลค์ (TULC: Toyo Ultimate Lightweight Can) ซึ่งเป็นสายการผลิตบรรจุภัณฑ์กระป๋องเครื่องดื่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานรายแรกของโลก นับเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อน

พิธีเปิดสายการผลิตอย่างเป็นทางการได้จัดขึ้นในวันนี้ โดยมี ฯพณฯ พล.อ.อ. กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี เดินทางมาเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายเมฆินทร์ เมธาวิกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ดร. สุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ และ มร. ชุนจิ คาเนโกะ รองประธานบริษัท โตโย ไซกัน ไกชา จำกัด บริษัทผู้คิดค้นนวัตกรรมเทคโนโลยีการผลิตกระป๋องทัลค์ การเปิดสายการผลิตดังกล่าวส่งผลให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกของโลกที่ผลิตกระป๋องเครื่องดื่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับการบริโภคในชีวิตประจำวัน

มร. ซาโตชิ นิชิโนะ ประธานบริษัท บางกอกแคน แมนนูแฟคเจอริ่ง จำกัด กล่าวว่า “บางกอกแคน และกลุ่มโตโย ไซกัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น ได้ร่วมกันสร้างสรรค์กระป๋องคุณภาพที่สามารถตอบโจทย์เรื่องภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของโลกปัจจุบัน” พร้อมเสริมว่า “เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในโลกที่นำเทคโนโลยีล่าสุดมาใช้ผลิตกระป๋อง เพื่อลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังคงมอบความสะดวกสบายในการบริโภคเครื่องดื่มที่โปรดปรานของผู้บริโภคไว้ได้ ดังนั้น กระป๋องทัลค์จึงเป็นกระป๋องคุณภาพที่ไม่เพียงแต่จะปลอดภัยต่อผู้บริโภค แต่ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย”

ทัลค์เป็นเทคโนโลยีผลิตกระป๋อง 2 ชิ้น น้ำหนักเบา สามารถผลิตได้ทั้งจากเหล็กทินฟรีสตีล (TFS: Tin Free Steel) หรืออลูมิเนียม พร้อมประหยัดการใช้น้ำเนื่องจากไม่ต้องใช้น้ำในกระบวนการผลิตขณะที่การผลิตกระป๋องแบบเดิมจำเป็นต้องใช้น้ำจำนวนมากในการทำความสะอาดกระป๋องในระหว่างกระบวนการผลิต

นอกจากนี้ กระป๋องทัลค์ยังเคลือบด้วยแผ่นฟิล์มพีอีที (PET: PolyEthylene Terephthalate) ทั้งด้านนอกและด้านใน ทำให้ไม่ต้องผ่านกระบวนการเคลือบหรืออบสีเหมือนกระป๋องธรรมดา จึงส่งผลให้ลดการเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อันเป็นหนึ่งสาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อน นอกจากนี้ แผ่นพีอีที ที่เคลือบอยู่บนกระป๋อง มีส่วนประกอบของคาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจนเท่านั้น จึงทำให้ไม่ปล่อยก๊าซพิษเมื่อนำไปหลอมละลายเพื่อนำกลับไปใช้ใหม่

ด้วยกระบวนการผลิตกระป๋องทัลค์ที่สั้นกว่ากระบวนการผลิตกระป๋องโดยทั่วไป ยังช่วยลดขยะอุตสาหกรรมและลดการใช้พลังงาน ขณะเดียวกัน ด้วยคุณลักษณะเด่นของกระป๋องทัลค์ ยังสามารถช่วยลดการใช้ทรัพยากรและง่ายต่อการนำกลับไปใช้ใหม่ด้วย

“บริษัทฯ ได้ลงทุนกว่า 800 ล้านบาทเพื่อนำเทคโนโลยีอันล้ำสมัยนี้มาใช้ในการผลิต ทำให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 500 ล้านกระป๋องต่อปี จากเดิมที่ผลิตได้ 1,000 ล้านกระป๋องต่อปี ทั้งนี้ กระป๋องทัลค์จะได้รับการผลิตเพื่อป้อนให้กับผู้ผลิตเครื่องดื่มชั้นนำของไทย ทั้งน้ำอัดลม ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” นายไพโรจน์ มีทวี รองประธานบริษัท บางกอกแคน แมนนูแฟคเจอริ่ง กล่าว

สายการผลิตใหม่นี้ตั้งอยู่ในโรงงานของบริษัท บางกอกแคน แมนนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ที่รังสิต คลองสอง จังหวัดปทุมธานี นอกจากสายการผลิตใหม่นี้แล้ว บางกอกแคน ยังผลิตกระป๋อง 2 ชิ้น กระป๋อง 3 ชิ้น และฝากระป๋องชนิด Ring pull และ SOT อีกด้วย