TRT ผู้นำธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า โตไม่หยุดเดือนพฤศจิกายนปีนี้ รับออเดอร์สำหรับส่งมอบงานปี 51 แล้วมากกว่า 1,000 ล้านบาท หลังแจงงบไตรมาส 3 มีกำไร 46.644 ล้านบาท สัดส่วนกำไรพุ่งเกิน 32 % คาดปี 2551 – 2552 มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 15-20 % หรือประมาณมากกว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี
นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้ผลิต และจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดเล็กไปถึงขนาดใหญ่ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 3 สิ้นสุดเดือนกันยายน 2550 ว่า บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 3 เท่ากับ 46.644 ล้านบาท สูงขึ้น 11.290 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 32 ซึ่งเปลี่ยนแปลงมากกว่าร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากอัตรากำไรขั้นต้นคิดเป็นร้อยละ 38 สูงขึ้น เมื่อเทียบกับร้อยละ 22.6 ของไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.46 บาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.35 บาท ส่วนงวด 9 เดือนของปีนี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 57.367 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.57 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 44.087 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากใบสั่งซื้อที่ทยอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในเดือนพฤศจิกายน 2550 บริษัทได้รับคำสั่งซื้อหม้อแปลงไฟฟ้าสำหรับส่งมอบงานในปี 2551 แล้วประมาณ 1,100 ล้านบาท โดยมีรายการสำคัญเช่น การไฟฟ้านครหลวง มูลค่างาน 240 ล้านบาท, SPPMB ประเทศเวียดนาม มูลค่างาน 135 ล้านบาท, บริษัท Hi-tech ประเทศอินเดีย มูลค่างาน 148 ล้านบาท, บริษัท ซีเมนต์ ประเทศปากีสถาน มูลค่างาน 117 ล้านบาท, บริษัท Doosan Heavy ประเทศเกาหลี มูลค่างาน 47 ล้านบาท, บริษัท Mehv Petrochemical ประเทศอิหร่าน มูลค่างาน 42 ล้านบาท, บริษัท ซีเมนต์ ประเทศไทย มูลค่างาน 46 ล้านบาท, บริษัท SECCO H.V. ประเทศไทย มูลค่างาน 43 ล้านบาท
“ปัจจัยที่ทำให้บริษัทมีกำไร เนื่องจากรายได้จากการขายและบริการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งการขยายตัวของอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเพิ่มศักยภาพในการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้ากำลัง และสามารถปรับราคาหม้อแปลงไฟฟ้าให้เหมาะสมกับต้นทุนที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นายสัมพันธ์กล่าว
“เป้าหมายของถิรไทย คือ เป็นผู้ประกอบการที่ให้บริการด้านหม้อแปลงไฟฟ้าอย่างครบวงจรสามารถ ผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าได้ครบถ้วนทุกขนาด และสามารถออกแบบหม้อแปลงไฟฟ้าพิเศษ รวมถึงบริการซ่อมบำรุง ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง และมีความหลากหลาย และเป็นที่ยอมรับในระดับชาติ และระดับสากล ทั้งยังมีการเพิ่มศักยภาพ และขีดความสามารถในการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังให้รองรับการขยายตัวของความต้องการพลังงานไฟฟ้าของประเทศ และภูมิภาคเอเชีย ได้ทุกระดับ จนถึงขนาด 300 เมกะโวลต์แอมแปร์ (MVA) แรงดันไฟฟ้า 230 กิโลโวลต์ (kV) รวมทั้งสามารถผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าพิเศษเช่น หม้อแปลงสำหรับระบบรถไฟฟ้าเป็นต้น”
สำหรับอัตราการเติบโตของรายได้ในปี 2551 – 2552 คาดว่าจะเติบโตประมาณร้อยละ 15-20 หรือประมาณมากกว่า 2,000 ล้านบาท จากรายได้ภายในประเทศจะเติบโตประมาณร้อยละ 10 (บนสมมุติฐาน GDP เติบโตร้อยละ 5 ต่อปี) และรายได้ต่างประเทศที่จะเติบโตประมาณร้อยละ 15 – 20 ต่อปี โดยการเติบโตส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มศักยภาพการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้ากำลัง ในระดับแรงดันไฟฟ้า 230 กิโลโวลต์ (kV) และหม้อแปลงไฟฟ้าพิเศษต่าง ๆ