ดีเอชแอล ได้รับใบอนุญาตให้บริการคลังสินค้าทัณฑ์บน เป็นครั้งแรกในประเทศไทย

ดีเอชแอล ผู้นำธุรกิจขนส่งด่วนและลอจิสติกส์ระดับโลก เปิดเผยว่าขณะนี้ ดีเอชแอล เอ๊กเซล ซัพพลายเชน ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินการด้านการบริการคลังสินค้าทัณฑ์บนอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในประเทศไทยจากอธิบดีกรมศุลกากรแล้ว โดยคลังสินค้าที่เปิดให้บริการใหม่ขนาด 8,650 ตารางเมตรนี้ ตั้งอยู่ที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ห่างจากท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง และหนึ่งในลูกค้าสำคัญของ ดีเอชแอล เอ๊กเซล ซัพพลายเชน คือ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ส่วนบุคคลเพียง 5 กิโลเมตร

“บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ใช้บริการของดีเอชแอล เอ๊กเซล ซัพพลายเชน มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น ดีเอชแอลได้พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการเป็นผู้ให้บริการที่มีความคุ้มค่าทางด้านราคา พร้อมโซลูชั่นที่ดีเยี่ยม” นายทรงศักดิ์ เทพสุววรณวร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายลอจิสติกส์ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “นอกจากนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ดีเอชแอลมีระดับการให้บริการที่ได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจจากเราและมีความเป็นมืออาชีพสูง” นายทรงศักดิ์ กล่าวเสริม

มร. ดาเร็น เพลสเต็ด หัวหน้าส่วนบริการธุรกิจยานยนต์ – ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ดีเอชแอล เอ๊กเซล ซัพพลายเชน กล่าวว่า การได้รับใบอนุญาตการให้บริการในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของดีเอชแอลในประเทศไทย และแสดงให้เห็นถึงคำมั่นสัญญาของบริษัทฯ ที่มีต่อมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) โดยการนำเสนอโซลูชั่นที่พร้อมมอบมูลค่าเพิ่ม และมีความหลากหลาย เพื่อสนับสนุนแผนการสร้างความเติบโตอย่างต่อเนื่องให้กับตลาดภายในประเทศและตลาดเพื่อการส่งออกในประเทศไทย ความสำเร็จในครั้งนี้ จะไม่สามารถลุล่วงไปได้ หากปราศจากการทำงานร่วมกันแบบพันธมิตร และการสนับสนุนอย่างเต็มกำลังของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) รวมทั้งทีมผู้บริหารของดีเอชแอล

“เราเป็นลูกค้าของดีเอชแอล เอ๊กเซล ซัพพลายเชน มาหลายปีแล้ว ความแตกต่างระหว่าง ดีเอชแอล เอ๊กเซล ซัพพลายเชน กับบริษัทอื่นๆ คือ คำมั่นสัญญาที่ดีเอชแอลมีต่อลูกค้า ตั้งแต่เราทำธุรกิจร่วมกับ ดีเอชแอลมา พวกเราได้รับการบริการที่ดีเยี่ยม ทั้งในด้านบริหารจัดการด้านลอจิสติกส์สำหรับสินค้าของเรา และความเป็นมืออาชีพในการดำเนินธุรกิจของดีเอชแอล” นายวิชัย ชูนอง ผู้จัดการฝ่ายลอจิสติกส์ขาเข้า บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริม

ปัจจุบัน ทีมงานด้านโซลูชั่นการให้บริการธุรกิจยานยนต์ของดีเอชแอล บริหารความต้องการด้าน ลอจิสติกส์ของลูกค้า โดยทำงานร่วมกันกับทีมงานฝ่ายควบคุมวัตถุดิบของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ในขั้นตอนของการจัดการขนย้ายวัตถุดิบที่รอการชำระอากรทั้งหมดไปยังคลังสินค้าทัณฑ์บนใหม่ของดีเอชแอล การได้รับการอนุญาตจากกรมศุลกากรในการให้บริการคลังสินค้าทณฑ์บนในครั้งนี้ เป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพของดีเอชแอลในการให้บริการโซลูชั่นทางด้านลอจิสติกส์ ให้กับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้อย่างเต็มรูปแบบของ

ดีเอชแอล เอ๊กเซล ซัพพลายเชน ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2538 ปัจจุบันมีพนักงานกว่า 3,600 คน ทำงานประสานกันกับพนักงานที่ให้บริการอยู่ ณ คลังสินค้า และสำนักงานบริการ ในบริเวณต่างๆ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 272,000 ตารางกิโลเมตร โดยดีเอชแอล เอ๊กเซล ซัพพลายเชน ประเทศไทย มุ่งเน้นในการมอบโซลูชั่นการให้บริการด้านลอจิสติกส์ แก่ลูกค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ สินค้าอุปโภค – บริโภค สาธารณสุข ค้าปลีก และเทคโนโลยี

ข้อมูลเพิ่มเติมดีเอชแอล
ดีเอชแอล ผู้นำระดับโลก ทางด้านอุตสาหกรรมการขนส่งด่วนและลอจิสติกส์ ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญพิเศษในการมอบนวัตกรรมและโซลูชั่นซึ่งได้รับการออกแบบโดยเฉพาะเพื่อสนองตอบความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าจากผู้ให้บริการเพียงรายเดียว ดีเอชแอลเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการขนส่งด่วน การขนส่งทางอากาศ ทางเรือ และทางบก ตลอดจนโซลูชั่นด้านลอจิสติสก์ต่างๆ และบริการไปรษณีย์ระหว่างประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจาก ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญอย่างมากในระดับท้องถิ่น และเครือข่ายในการให้บริการที่มีอยู่ทั่วโลก ปัจจุบัน ดีเอชแอลมีเครือข่ายเชื่อมโยงครอบคลุมมากกว่า 220 ประเทศ และอาณาเขตต่างๆ ทั่วโลก ด้วยบุคลากรกว่า 300,000 คนทั่วโลก ที่พร้อมมอบบริการที่รวดเร็ว วางใจได้ และเกินความคาดหวังของลูกค้า ดีเอชแอล เป็นหนึ่งในตราสินค้าของดอยช์ โพสท์ เวิลด์ เน็ต ซึ่งสามารถทำรายได้ 60 พันล้านเหรียญยูโร ในปี 2006

ดีเอชแอล ประเทศไทย ให้บริการขนส่งและลอจิสติกส์อย่างครบวงจรด้วยศักยภาพของ 3 หน่วยงาน ได้แก่ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ดีเอชแอล โกลบอล ฟอร์เวิร์ดดิ้ง และดีเอชแอล เอ็กเซล ซัพพลายเชน ที่ช่วยให้ลูกค้าได้รับความสะดวกอย่างเต็มที่จากการติดต่อผู้ให้บริการเพียงรายเดียว (one-stop-shop) ซึ่งรองรับการขนส่งทุกรูปแบบ ตั้งแต่เอกสารไปจนถึงตู้คอนเทนเนอร์ โดยมีพนักงาน 4,500 คนให้บริการอย่างมืออาชีพ ผ่านเครือข่ายและจุดบริการมากกว่า 60 แห่ง ที่ให้บริการครอบคลุม 76 จังหวัดทั่วประเทศไทย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์
http://www.dhl.co.th