ภายใต้โครงการไทย-เยอรมัน เพื่อส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของวิสาหกิจ สำนักงานความร่วมมือทางวิชาการของเยอรมัน (GTZ) ได้จัดนำคณะผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าพบปะผู้บริหารกระทรวงอาหาร เกษตร และการคุ้มครองผู้บริโภค ประเทศเยอรมัน พร้อมเยี่ยมชมร้านค้าจำหน่ายสินค้าอินทรีย์และฟาร์มเกษตรอินทรีย์ เพื่อศึกษาและสอบถามถึงนโยบายภาครัฐสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารอินทรีย์และการนำเข้า พร้อมทั้งศึกษา ทิศทางของตลาดและการบริโภคสินค้าอาหารอินทรีย์ รวมทั้งการจัดการฟาร์มเกษตรอินทรีย์ในประเทศเยอรมัน เพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมตามสภาพการณ์ในประเทศไทย และเพื่อนำข้อมูลการตลาดมาสร้างความมั่นใจให้แก่เกษตรกรไทยถึงโอกาสการส่งออกสินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทยไปยังประเทศเยอรมันและประเทศอื่นๆ ในยุโรปต่อไป
ในยุโรป ประเทศเยอรมันนำเข้าสินค้าอินทรีย์มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง และยังมีอัตราการบริโภคสินค้าอินทรีย์มากที่สุดอีกด้วย การเดินทางในครั้งนี้ GTZ ได้นำคณะผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้การนำของ ดร. รุ่งเรือง อิศรางกูร ณ อยุธยา รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ เข้ารับฟังการบรรยาย และซักถามต่อผู้แทนกระทรวงอาหาร เกษตร และการคุ้มครองผู้บริโภค ประเทศเยอรมัน ถึงนโยบายภาครัฐด้านสินค้าอาหารอินทรีย์ อาทิการสนับสนุนการผลิตและบริโภคอาหารอินทรีย์ภายในประเทศ การวิจัยและพัฒนา กฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ในการนำเข้าสินค้าเกษตรอินทรีย์ การจัดการด้านมาตรฐานสินค้า รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อให้เกิดโอกาสในความร่วมมือกันด้านสินค้าเกษตรอินทรีย์ระหว่างประเทศไทยและเยอรมันต่อไป
คณะผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้เยี่ยมชมร้านค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าอินทรีย์ ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปในประเทศเยอรมัน ภายในร้านจะมีสินค้าอินทรีย์หลากหลายชนิด อาทิ ผัก ผลไม้ ขนม นม เนย กาแฟ ไวน์ เนื้อสัตว์ เครื่องสำอาง นอกจากนี้ คณะผู้แทนยังได้เยี่ยมชมฟาร์มเกษตรอินทรีย์ เพื่อศึกษาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเกษตรกรชาวเยอรมันในการทำการเกษตรแบบอินทรีย์
มร. เยือร์เกน คอคห์ ผู้อำนวยการ GTZ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “การจัดให้คณะผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ ได้พบปะกับหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์อินทรีย์ และศึกษาตลาดสินค้าอินทรีย์ในประเทศเยอรมันในครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรอินทรีย์ของประเทศไทย และเพิ่มโอกาสในการส่งออก สินค้าเกษตรอินทรีย์ของประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในตลาดโลก โดยเฉพาะในยุโรปตะวันตก ซึ่งสินค้าผักและผลไม้เมืองร้อนกำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ความต้องการสินค้าเกษตรอินทรีย์ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วได้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 25 ต่อปี”
GTZ เป็นสำนักงานที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลเยอรมันให้ดำเนินงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยปฏิบัติภารกิจในนามของกระทรวงต่างๆ ภายใต้รัฐบาลเยอรมัน รัฐบาลของประเทศต่างๆ และองค์กรนานาชาติ อาทิ สหภาพยุโรป องค์การสหประชาชาติ ธนาคารโลก ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย รวมทั้งบริษัทเอกชนต่างๆ ในประเทศไทย GTZ ได้เข้ามาดำเนินงานเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว
จากภาพ : นายบัวร์คาร์ด เร้าเชลบัค (ขวาสุด) ผู้อำนวยการ โครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพเชิงนิเวศ สำนักงานความร่วมมือทางวิชาการของเยอรมัน (GTZ) และนางอลิซาเบธ บุนเดอร์ (แถวหลัง ที่สองจากซ้าย) ผู้บริหารระดับสูง กระทรวงอาหาร เกษตร และการคุ้มครองผู้บริโภค ให้การต้อนรับ นายรุ่งเรือง อิศรางกูร ณ อยุธยา (แถวหน้า ที่สามจากซ้าย) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายมนตรี กฤษณีไพบูลย์ (แถวหน้า ซ้ายสุด) ผู้อำนวยการสำนักรับรองมาตรฐานสินค้าและระบบคุณภาพ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ นางเมทนี สุคนธรักษ์ (แถวหน้า ที่สองจากซ้าย) รองผู้อำนวยการสำนักงาน มาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ และ ดร.อดิศร พร้อมเทพ (แถวหลัง ซ้ายสุด) อัครราชฑูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการเกษตร) สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป ในโอกาสเข้าพบและซักถามถึงนโยบายด้านสินค้าอาหารอินทรีย์ของประเทศเยอรมัน การวิจัยและพัฒนา กฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ในการนำเข้าสินค้าเกษตรอินทรีย์ การจัดการด้านมาตรฐานสินค้า รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อให้เกิดโอกาสในความร่วมมือกันด้านสินค้าเกษตรอินทรีย์ระหว่างประเทศไทยและเยอรมันต่อไป