WD ประกาศความสำเร็จในตลาดเมืองไทยปี 2007

เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ป (WD) หนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมด้านอุปกรณ์การจัดเก็บข้อมูลที่มีชื่อเสียงระดับโลกและเป็นผู้ผลิตฮาร์ดไดร์ฟรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก แจ้งผลประกอบการปี 2007 ระบุรายได้รวมทั้งปีทะลุ 5.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ กวาดยอดขายฮาร์ดไดร์ฟทั่วโลก 96.5 ล้านตัว เฉพาะไตรมาส 4 มียอดขายถึง 24.9 ล้านตัว ขณะที่ไตรมาส 1 ปี 51 ยังรุ่งต่อเนื่อง สินค้าฮาร์ดไดร์ฟเติบโตกว่า 37% ตอกย้ำผู้นำด้านเทคโนโลยีฮาร์ดไดร์ฟ เตรียมขับเคลื่อนสินค้ารุ่นใหม่อีกเพียบ

วันนี้ เวสเทิร์น ดิจิตอล แจ้งผลประกอบการประจำปีงบประมาณ 2550 และของไตรมาส 4 สิ้นสุดวันที่ 29 มิถุนายน 2550 ว่า บริษัทมีผลประกอบการที่ดีเยี่ยม โดยมียอดรายได้รวมทั้งปี 5.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ กล่าวคือ มีรายได้จากส่วนปฏิบัติการ 415 ล้านเหรียญ และรายได้สุทธิที่ 585 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับรายได้สุทธิของปีก่อนหน้าที่เคยทำได้ 395 ล้านเหรียญ ผลประกอบการดังกล่าวนี้ คิดเป็นอัตราการเติบโตของรายได้ที่ 26% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ที่มียอดรายได้รวมอยู่ที่ 4.3 พันล้านเหรียญ ขณะที่ยอดจำหน่ายฮาร์ดไดร์ฟทั่วโลกของ WD เติบโตถึง 32% ด้วยตัวเลขยอดขาย 96.5 ล้านตัว จากเดิมที่ทำสถิติไว้ที่ 73.3 ล้านตัว

ตัวเลขเมื่อสิ้นไตรมาสในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยเติบโตทั้งยอดรายได้และยอดจำหน่ายฮาร์ดไดร์ฟ โดยมีอัตราการเติบโตของกลุ่มตลาดใหม่ถึง 43% จากตัวเลขเดิม 29% โดยกลุ่มตลาดใหม่ที่ว่าครอบคลุมสินค้าโน้ตบุ๊ค สินค้าคอนซูเมอร์ อิเลคทรินิกส์ กลุ่มแอพลิเคชั่นระดับเอ็นเตอร์ไพรส์ และฮาร์ดไดร์ฟแบบติดตั้งภายนอก

มาร์กาเร็ต โค้ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ประจำภาคพื้นเอเชียใต้ บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล (เอส.อี. เอเชีย) พีทีอี จำกัด
กล่าวว่า
“เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งต่อผลประกอบการของปี 2550 ซึ่งในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา องค์กรที่ทรงประสิทธิภาพอย่าง WD ได้ลงทุนในส่วนสำคัญต่างๆ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่เทคโนโลยีและตัวผลิตภัณฑ์ และสำหรับปีที่กำลังจะเข้ามา WD ได้กำหนดลู่ทางไว้เป็นอย่างดีเพื่อการนำเสนอความหลากหลาย และกระตุ้นการเติบโตของการใช้งานฮาร์ดไดร์ฟสำหรับกลุ่มผู้ใช้เชิงพาณิชย์และผู้บริโภคทั่วไป นอกจากนี้ WD ยังได้เข้าซื้อโคแม็ก อิงค์ บริษัทผู้ผลิตสื่อบันทึกชั้นนำ ซึ่งบริษัทมั่นใจต่อการผนวกรวมและประโยชน์ในเชิงกลยุทธ์ ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ WD ในฐานะผู้ผลิตฮาร์ดไดร์ฟประสิทธิภาพสูง เพราะเป็นการรวมกิจการสื่อบันทึกหนึ่งในองค์ประกอบทางเทคโนโลยีอันสำคัญของฮาร์ดไดร์ฟ”

รายได้ไตรมาส 1 ปี 51 ยังพุ่งฉิว
สำหรับตัวเลขรายได้ของไตรมาสที่ 1 ของปี 2551 (สิ้นสุดเดือนกันยายน) WD ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 1.766 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นรายได้จากสินค้าฮาร์ดไดร์ฟ 1.726 พันล้านเหรียญ และอีก 40 ล้านเหรียญจากกลุ่มมีเดียและการจัดจำหน่ายในรูปแบบซับสเตรท สินค้าฮาร์ดไดร์ฟของ WD เติบโตประมาณ 37% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 29.4 ล้านตัว ขยายตัว 29%

นอกจาก WD จะมียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องในกลุ่มสินค้าตั้งโต๊ะ ยังนับเป็นครั้งแรกที่ WD มียอดรายได้จากกลุ่มที่เป็น non-desktop PC เกินครึ่งหนึ่งที่เคยทำได้ในแต่ละไตรมาส กล่าวคือ ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา 53% ของยอดขายฮาร์ดไดร์ฟมาจากกลุ่มโน้ตบุ๊ค สินค้าคอนซูเมอร์ อิเลคทรินิกส์ แอพลิเคชั่นระดับเอนเตอร์ไพรส์ และฮาร์ดไดร์ฟแบบติดตั้งภายนอก สำหรับยอดจำหน่ายฮาร์ดไดร์ฟ WD ในไตรมาส 1 ปี 2551 แยกเป็นฮาร์ดไดร์ฟ 2.5 นิ้วสำหรับอุปกรณ์พกพา จำนวน 5.9 ล้านตัว และขนาด

3.5 นิ้วสำหรับเครื่องบันทึกวีดีโอดิจิตอล จำนวน 3.7 ล้านตัว ขณะที่ฮาร์ดไดร์ฟแบบติดตั้งภายนอกมียอดขายคิดเป็น 18% ของยอดขายทั้งหมดในช่วงไตรมาสที่ 1 มาร์กาเร็ตกล่าวอีกว่า “ผลประการที่ดีเยี่ยมของไตรมาส 1 ชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของ WD ในตลาดฮาร์ดไดร์ฟสำหรับทุกๆ กลุ่มซึ่ง WD ยังคงเดินหน้านำเสนอความหลากหลายให้แก่ผู้ใช้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้เชิงพาณิชย์หรือผู้บริโภคทั่วไป”

WD Scorpio® 320 GB
WD ยังได้เปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่จำนวนหลายรุ่น หนึ่งในนั้นคือ WD Scorpio® ขนาด 2.5 นิ้ว ความจุ 320 GB แบบ SATA (Serial ATA) ที่สูงที่สุดในโลก ด้วยขนาดความบางถึง 9.5 มม. เน้นเจาะตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบพกพาโดยเฉพาะ “ฮาร์ดไดร์ฟ WD Scorpio ความจุ 320 GB แบบ SATA รุ่นล่าสุดนับเป็นผลงานอันน่าภาคภูมิใจจากการลงทุนอย่างมหาศาลของ WD ในส่วนเทคโนโลยีหัวอ่านที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ WD Scorpio ความจุ 320 GB รุ่นล่าสุดยังให้ประสิทธิภาพการถ่ายโอนข้อมูลในอัตราสูงถึง 3 Gb/วินาที และผลิตขึ้นเพื่อใช้กับโน้ตบุ๊คประเภท OEM ที่นำเสนอความจุในการจัดเก็บข้อมูลที่สูงที่สุดในตลาดโลก ” มาร์กาเร็ตกล่าวเพิ่มเติม

WD นำเสนอฮาร์ดไดร์ฟประหยัดพลังงาน
ขณะเดียวกัน WD ได้ประกาศนำเสนอฮาร์ดไดร์ฟใหม่ตระกูลกรีน พาวเวอร์ (GreenPower™) ชูจุดเด่นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ครอบคลุมทั้งฮาร์ดไดร์ฟสำหรับเด็สก์ท้อป กลุ่มองค์กร อุปกรณ์คอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และฮาร์ดไดร์ฟแบบติดตั้งภายนอก ล่าสุดได้เปิดตัว WD RE2 GreenPower (GP) มีให้เลือกตั้งแต่ความจุ 500, 750 กิกะไบต์ จนถึง 1 เทราไบต์ ชูข้อดีช่วยประหยัดไฟสูงสุด กินไฟน้อยกว่าสินค้าคู่แข่ง 4-5 วัตต์ ช่วยให้ผู้ใช้งานมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้เพิ่มขึ้น ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ และมีความน่าเชื่อถือไปพร้อมๆ กับการช่วยประหยัดพลังงาน จากการคาดการณ์ของ WD ระบุว่า WD RE2 GreenPower ช่วยประหยัดค่าไฟคิดเป็นมูลค่าปีละมากกว่า 10 ดอลลาร์ต่อฮาร์ดไดร์ฟ 1 ตัว กล่าวคือ หากเป็นศูนย์ดาต้า เซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีฮาร์ดไดร์ฟ 10,000 ตัว จะสามารถประหยัดค่าพลังงานได้ถึงปีละ 100,000 ดอลล่าร์

“WD RE2 GreenPower ได้รับการออกแบบโดยเน้นคุณสมบัติด้านประหยัดพลังงาน ผู้ใช้สามารถสร้างเซิร์ฟเวอร์พร้อมระบบจัดเก็บข้อมูลย่อยที่มีความจุสูงขึ้น ช่วยให้ต้นทุนในการดำเนินการ (cost of ownership) ต่ำลง เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่จะช่วยให้ลูกค้าตระหนักถึงปัญหาสภาพแวดล้อม ขณะเดียวกัน สามารถมอบประสิทธิภาพและสมรรถภาพการทำงานที่สูงขึ้น มีความน่าเชื่อถือ และยังประหยัดพลังงานไปในตัวพร้อมๆ กัน” มาร์กาเร็ตกล่าวปิดท้าย

ข้อมูลเกี่ยวกับ WD
เวสเทิร์น ดิจิตอล (WD) หนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมด้านอุปกรณ์การจัดเก็บข้อมูลที่มีชื่อเสียงระดับโลก WD จัดจำหน่ายสินค้าและบริการให้แก่บุคคลทั่วไป รวมทั้งองค์กรที่ต้องการรวบรวม จัดการ และใช้ข้อมูลดิจิตอล WD เป็นผู้ผลิตฮาร์ดไดร์ฟที่มีประสิทธิภาพสูงและเชื่อถือได้ในเรื่องคุณภาพ ซึ่งช่วยในการเก็บรักษา ป้องกันการสูญหายของข้อมูลและเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ใช้ WD ถูกก่อตั้งในปี พ.ศ. 2513 โดยผลิตภัณฑ์ด้านจัดเก็บข้อมูลของเวสเทิร์น ดิจิตอลถูกจัดจำหน่ายให้แก่ผู้ผลิตระบบและผู้ขายปลีกระดับชั้นนำที่ได้รับการคัดสรร ภายใต้แบรนด์เวสเทิร์น ดิจิตอล และดับบลิวดี สำหรับข้อมูลในส่วนนักลงทุน สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ (www.westerndigital.com) เพื่ออ่านข้อมูลนักลงทุนและข้อมูลด้านการเงินต่างๆ สำหรับข้อมูลภาษาไทย www.westerndigital.co.th