สำนักงานทรัพย์สินฯ จับมือ กรุงเทพมหานคร พัฒนาสวนสาธารณะริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณกรมการค้าภายใน(เดิม)ให้เป็นปอดแห่งใหม่ของคนกรุงเทพฯ
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร ทำพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการพัฒนาพื้นที่บริเวณกรมการค้าภายใน(เดิม)เพื่อพัฒนาเป็นสวนสาธารณะแห่งใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาบนพื้นที่อนุรักษ์ให้แก่คนกรุงเทพมหานครได้มีพื้นที่สีเขียวที่อยู่ในบริเวณเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ที่มากด้วยคุณค่าศิลปวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทยอย่างเป็นทางการพร้อมกันในวันนี้ โดยมี นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง พร้อมด้วยพยานการลงนามจากทั้ง 2 ฝ่าย นำโดย ร้อยตำรวจตรีเกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ที่ปรึกษาสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์, นายเขมทัต วิศวโยธิน หัวหน้าฝ่ายบริหารงานอนุรักษ์ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ,นางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ นางสาวอัญชลี ปัทมาสวรรค์ ผู้อำนวยการสำนักผังเมืองกรุงเทพมหานคร.
นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เปิดเผยว่า “สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ในฐานะผู้ดูแลพื้นที่บริเวณกรมการค้าภายใน(เดิม) ถนนมหาราช มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับกรุงเทพมหานครในการสนับสนุนพื้นที่เพื่อพัฒนาสร้างสวนสาธารณะริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่บริเวณพื้นที่รอบเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ให้คนกรุงเทพฯได้มีสวนสาธารณะพื้นที่สีเขียวในการพักผ่อน ออกกำลังกาย ตลอดจนทำกิจกรรมสันทนาการต่างๆของชุมชนร่วมกัน นอกเหนือไปจากการอนุรักษ์และพัฒนารอบเกาะกรุงรัตนโกสินทร์เพื่อเสริมความสง่างามให้กับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการดำเนินงานเพื่อสังคม และ ประโยชน์ส่วนรวม ตลอดจนถึงการอนุรักษ์ของสำนักงานทรัพย์สินฯที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นสร้างสรรค์ประโยชน์การพัฒนาพื้นที่ตามความเหมาะสมและเกิดการพัฒนาแบบยั่งยืน โดยในการนี้สำนักงานทรัพย์สินฯได้สนับสนุนการใช้พื้นที่ในความดูแล ตลอดจนงบประมาณการปรับปรุงพื้นที่ในการรื้อถอนอาคารเดิม และการสืบค้นทางโบราณคดีในบริเวณนี้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการของกรมศิลปากร เนื่องจากเป็นพื้นที่ทีมีประวัติศาสตร์ต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี”
“นอกจากนี้สำนักงานทรัพย์สินฯสนับสนุนพื้นที่ในความดูแลบริเวณลานพลับพลาเจษฎาบดินทร์ให้กรุงเทพมหานครที่มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับภูมิทัศน์ใหม่ที่จะช่วยส่งเสริมความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าของชาติให้กับสังคม ซึ่งสำนักงานทรัพย์สินฯคาดว่าจะมีพื้นที่อีกหลายพื้นที่ที่จะเป็นการร่วมมือกันพัฒนาในรูปแบบโครงการที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและช่วยส่งเสริมภูมิทัศน์ของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาร่วมกันอีกในอนาคต เพราะสำนักงานทรัพย์สินฯตระหนักดีว่าคุณค่าของสถาปัตยกรรม และ ภูมิทัศน์ด้านศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของชาติมีคุณค่าทางจิตใจคนไทยอย่างประเมินค่ามิได้ หากสำนักงานทรัพย์สินฯมีโอกาสร่วมเป็นส่วนหนึ่งก็ยินดีจะดำเนินการด้วยความเต็มใจ ” นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติม
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า “กรุงเทพมหานครขอขอบคุณสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นอย่างยิ่งที่ให้ความร่วมมือสนับสนุนโครงการจัดสร้างสวนสาธารณะบริเวณกรมการค้าภายใน (เดิม) กับกรุงเทพมหานครให้เป็นพื้นที่ปอดแห่งใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาของคนกรุงเทพฯในครั้งนี้ บนเนื้อที่ 3 ไร่ 3 งาน 69.9 ตารางวา (ซึ่งมีพื้นที่ของกรมธนารักษ์ร่วมอยู่ด้วยส่วนหนึ่ง) โดยกรุงเทพมหานครเป็นผู้ดำเนินการส่วนของการพัฒนาก่อสร้างสวนสาธารณะบริเวณกรมการค้าภายใน(เดิม) ด้วยงบประมาณ 44 ล้านบาท โดยมีแนวคิดการพัฒนาสวนสาธารณะแห่งนี้ให้เป็นสวนสาธารณะแบบเปิด เพื่อเป็นทั้งลานกีฬา ลานกิจกรรมอเนกประสงค์ ตลอดจนเป็นสถานที่ช่วยส่งเสริมภูมิทัศน์โบราณสถานสำคัญที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของชาติให้คนไทยและนักท่องเที่ยวได้สัมผัสคุณค่าด้านสถาปัตยกรรมของไทย อาทิ พระบรมหาราชวังและวัดอรุณราชวราราม เพื่อให้คนกรุงเทพมหานครมีพื้นที่สวนสาธารณะ ช่วยลดมลภาวะทางอากาศในบริเวณนี้ โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างประมาณเดือน มี.ค. 51และ แล้วเสร็จในเดือน ก.ย. 51และกรุงเทพมหานครหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งในการทำประโยชน์เพื่อสังคมไทยร่วมกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ในโอกาสต่อไป”
“พื้นที่ก่อสร้างสวนสาธารณะบริเวณกรมการค้าภายใน(เดิม) ถ.มหาราช เขตพระนคร จ.กรุงเทพมหานคร เดิมเคยเป็นที่ตั้งของกรมการค้าภายในซึ่งเป็นผู้เช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และได้ย้ายไปตั้งสำนักงานแห่งใหม่ที่ จ.นนทบุรี เมื่อ พ.ศ.2547 ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าวมีความเสื่อมโทรมจากการใช้งานมาเป็นเวลานาน ต่อมาเมื่อ วันที่ 21 พ.ค. 2540 มีมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติแผนแม่บทเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ กรุงเทพมหานครจึงประสานขอความร่วมมือมายังสำนักงานทรัพย์สินฯ ซึ่งสำนักงานทรัพย์สินฯในฐานะผู้ดูแลที่ดินพร้อมให้ความร่วมมือในการสนับสนุนพื้นที่บริเวณกรมการค้าภายใน(เดิม)ในการพัฒนาให้เป็นสวนสาธารณะริมแม่น้ำเจ้าพระยาตามนโยบายของสำนักงานทรัพย์สินฯในการอนุรักษ์ภูมิทัศน์สถาปัตยกรรมดั้งเดิม ควบคู่กับการดูแลคุณภาพชีวิตของชุมชนและสังคมมาโดยตลอด
