แควนตัสกรุ๊ป เผยในวันนี้ว่า เจ็ทสตาร์ สายการบินในเครือแควนตัส ประกาศเดินหน้าขยายเส้นทางบินในประเทศและระหว่างประเทศ โดยใช้ฝูงบินแอร์บัส เอ321รุ่นใหม่ ขนาด 213 ที่นั่งใน 1 ชั้นโดยสาร ทั้งนี้ ฝูงบิน เอ312 รุ่นแรกจะส่งมอบให้แก่เจ็ทสตาร์พร้อมๆ กับเครื่องบิน เอ320 และจะนำออกให้บริการตั้งแต่เดือนมีนาคม 2551 เป็นต้นไป
แควนตัสกรุ๊ป ได้ลงนามส่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสใหม่รวมทั้งสิ้น 108 ลำ ประกอบด้วย เครื่องบินเอ320/เอ321 จำนวน 68 ลำ และจองสิทธิ์เลือกซื้ออีก 40 ลำ ซึ่งรวมถึงการสั่งซื้อเครื่องบิน เอ321 จำนวน 17 ลำให้แก่เจ็ทสตาร์ เพื่อรองรับการขยายเส้นทางบินที่จะมีขึ้นในอนาคต
ปัจจุบัน เจ็ทสตาร์มีฝูงบิน เอ320 รวม 23 ลำ และก่อนหน้านี้ ได้สั่งซื้อเครื่องบิน เอ320 จำนวน 9 ลำ เพื่อนำออกให้บริการในเส้นทางบินภายในประเทศออสเตรเลีย รวมถึงเส้นทางบินใหม่สู่เมืองโกลด์โคสต์ ดาร์วิน และนิวคาสเซิล โดยฝูงบิน เอ320 รุ่นใหม่จะเริ่มนำออกให้บริการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2550 จนถึงเดือนมีนาคม 2552
มร. อลัน จอยซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินเจ็ทสตาร์ กล่าวว่า “การใช้เครื่องบินเอ 321 ที่มีขนาดใหญ่กว่าเอ 320 จะช่วยสนับสนุนเส้นทางบินที่เจ็ทสตาร์เปิดบริการในขณะนี้ ทั้งยังเป็นการรองรับการขยายบริการสู่เส้นทางใหม่ๆ ที่มีลู่ทางการเติบโตอันสดใสในอนาคต”
การสั่งซื้อเครื่องบินขนาดลำตัวแคบของแควนตัสกรุ๊ปจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ตลาดเส้นทางบินระยะใกล้ของเจ็ทสตาร์เติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต ควบคู่กับการขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศระยะไกล ที่ใช้ฝูงบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์จำนวน 15 ลำ
เจ็ทสตาร์มุ่งสร้างการเติบโตในตลาดเส้นทางบินในประเทศและเส้นทางบินระหว่างประเทศระยะใกล้ และด้วยฝูงบินเอ321 ที่มีต้นทุนการดำเนินงานต่ำ จะผลักดันให้เส้นทางบินต่างๆ ที่เปิดบริการขณะนี้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ในอีก 2 ปีข้างหน้า เจ็ทสตาร์เตรียมเปิดฐานบินใหม่รองรับฝูงบินขนาดลำตัวแคบขึ้นในเมืองดาร์วินและเพิร์ธ เพื่อให้บริการเที่ยวบินสู่จุดหมายในภูมิภาคเอเชียที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในทั้งสองเมืองใหญ่ดังกล่าว
สำหรับเครื่องบิน เอ321 เป็นเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูลเอ320 โดยมีสมรรถนะตอบสนองความต้องการของตลาดการเดินทางที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และสนับสนุนให้เจ็ทสตาร์รักษาความเป็นผู้นำในตลาดค่าโดยสารราคาประหยัดไว้ได้อย่างเหนียวแน่น เครื่องบินเอ321 มีต้นทุนคิดเป็นจำนวนที่นั่งต่อกิโลเมตรต่ำสุด เมื่อเทียบกับเครื่องบินโดยสารประเภทเดียวกัน ทั้งยังสามารถปรับเพิ่มจำนวนที่นั่งโดยสารได้อย่างสะดวก และคล่องตัวมากกว่าเที่ยวบินที่ใช้ฝูงบินเอ320
การใช้เครื่องบินเอ321 ทำให้เจ็ทสตาร์ต้องขอเปลี่ยนแปลงใบอนุญาตการบิน ซึ่งในขณะนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนระบบโครงสร้างพื้นฐานภายในองค์กรเพื่อรองรับการใช้เครื่องบินรุ่นใหม่ดังกล่าว ซึ่งประสบความคืบหน้าอย่างมาก และพร้อมให้องค์การความปลอดภัยทางด้านการบินพาณิชย์ (Civil Aviation Safety Authority: CASA) เข้าตรวจสอบอย่างเป็นทางการเพื่อพิจารณาออกใบอนุญาตการบินด้วยเครื่องบินเอ321 รุ่นใหม่อย่างถูกต้อง
“เรามั่นใจว่า เครื่องบินเอ 321 จะเข้ามาเสริมทัพฝูงบินของเจ็ทสตาร์ให้ปฏิบัติงานได้อย่างแข็งแกร่งและราบรื่น โดยไม่ส่งผลกระทบให้บริษัทต้องมีต้นทุนในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากเจ็ทสตาร์สามารถนำทรัพยากรและระบบการทำงานต่างๆ ของฝูงบิน เอ320 ซึ่งได้แก่ ช่างเทคนิค ระบบและเทคโนโลยีสนับสนุนทางด้านวิศวกรรม มาใช้กับเครื่องบินลำตัวแคบเอ 321 รุ่นใหม่ที่มีขนาดใหญ่กว่า ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ” มร. จอยซ์ กล่าว และเสริมว่า “สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกของเจ็ทสตาร์ในสนามบินต่างๆ ก็มีการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยเพื่อรองรับการใช้เครื่องบินรุ่นใหม่ดังกล่าว”
เครื่องบินเอ321 ใช้เครื่องยนต์ไอเออี วี2500 รุ่นเดียวกับเครื่องบินเอ 320 โดยมีอัตราการเร่งเพิ่มขึ้น ซึ่งเจ็ทสตาร์เตรียมจัดอบรมให้แก่ช่างเทคนิคของเครื่องบินเอ320 โดยใช้เครื่องบินเอ321 ที่มีห้องนักบินและคุณลักษณะอื่นๆ เหมือนกับเครื่องบินเอ320