ยุทธศาสตร์ใหม่ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมและประสบการณ์ของลูกค้า นอกจากนั้นสตาร์บัคส์ยังเตรียมชะลอการขยายสาขาร้านสตาร์บัคส์ในสหรัฐอเมริกาและเร่งขยายสาขาในต่างประเทศแทน
คณะกรรมการบริหารของสตาร์บัคส์ คอฟฟี่ คอมพานี (Starbucks Coffee Company) (NASDAQ:SBUX) ประกาศยุทธศาสตร์การเพิ่มมูลค่าผู้ถือหุ้นด้วยการให้ความสำคัญกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครที่ลูกค้าจะได้รับจากสตาร์บัคส์ รวมถึงการพัฒนาบริการบนพื้นฐานของนวัตกรรมที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานของสตาร์บัคส์ และเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว คณะกรรมการบริหารบริษัทจึงแต่งตั้ง โฮเวิร์ด ชูลท์ซ ประธานบริษัท เป็นซีอีโอคนใหม่แทน จิม โดนัลด์ ซึ่งกำลังจะลาออกจากบริษัท โดยมีผลในทันที
“โฮเวิร์ด เป็นผู้ออกแบบแบรนด์สตาร์บัคส์และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแนวคิด ‘ประสบการณ์แบบฉบับสตาร์บัคส์’ ซึ่งถือเป็นหัวใจของความสำเร็จของบริษัท” เครก เวทเธอร์อัพ ประธานคณะกรรมการบริหารของสตาร์บัคส์กล่าว “เราเชื่อเหลือเกินว่า ไม่มีใครสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในสตาร์บัคส์และให้ความสำคัญกับลูกค้าได้ดีเท่าโฮเวิร์ดอีกแล้ว”
โฮเวิร์ด ชูลท์ซ เคยดำรงตำแหน่งเป็นซีอีโอของบริษัทตั้งแต่ปี พ.ศ.2530-2543 โดยบริษัทได้เปิดขายหุ้นไอพีโอต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2535 และเติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้งในสหรัฐอเมริกาและนานาประเทศทั่วโลก และตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 เป็นต้นมา นายชูลท์ซ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานบริษัท ได้ให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์และการขยายการดำเนินงานของบริษัทจนสามารถขยายสาขาในกว่า 43 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ ในฐานะประธานและซีอีโอคนใหม่ของบริษัท นายชูลท์ซจะทำหน้าที่เป็นผู้นำด้านยุทธศาสตร์ของบริษัท โดยให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า นอกจากนั้น มาร์ติน โคลส์ ซีโอโอของบริษัท จะร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับนายชูลท์ซ และรับผิดชอบเกี่ยวกับการดำเนินงานทุกอย่างในบริษัท
“ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้กลับมาดำรงตำแหน่งซีอีโอและได้เป็นผู้นำทีมงานเพื่อสร้างความสำเร็จในระดับโลกอีกครั้ง” นายชูลท์ซกล่าว “เราต้องเผชิญหน้ากับความท้าทาย และเรารู้ว่าเราต้องรับมือกับความท้าทายเหล่านั้นอย่างไร โดยเรากำลังทบทวนว่า อะไรที่ทำให้สตาร์บัคส์และประสบการณ์แบบฉบับสตาร์บัคส์มีความโดดเด่นไม่เหมือนใครเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นการคัดสรรกาแฟคุณภาพสูงระดับโลก การให้ความสำคัญกับลูกค้า การสร้างความไว้วางใจกับพนักงานบริษัท รวมถึงการบุกเบิก พัฒนา และสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นมาตรฐานความสำเร็จของเรา”
ยุทธศาสตร์การดำเนินงานของนายชูลท์ซประกอบด้วย
การพัฒนาธุรกิจในสหรัฐอเมริกาโดยให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้าในร้าน ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการออกแบบองค์ประกอบในร้าน รวมถึงการฝึกอบรมบุคลากรเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์อันสุดยอดตามแบบฉบับสตาร์บัคส์
การชะลอการเปิดสาขาใหม่และยุบสาขาที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะช่วยให้สตาร์บัคส์สามารถให้ความสำคัญกับสาขาที่มีอยู่ได้อย่างทั่วถึง
พัฒนาความผูกพันทางอารมณ์และฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับกาแฟ แบรนด์ พนักงาน และร้านของสตาร์บัคส์ขึ้นอีกครั้ง จัดระเบียบองค์กรและปรับปรุงระบบการบริหารเพื่อรองรับยุทธศาสตร์การดำเนินงานที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก และแบ่งสรรปันส่วนทรัพยากรให้เพียงพอต่อความต้องการของบุคลากรสำคัญ
สุดท้ายคือ การเร่งขยายสาขาและเพิ่มผลกำไรให้กับร้านสตาร์บัคส์นอกสหรัฐอเมริกา รวมถึงการนำเงินทุนสำหรับการขยายสาขาในสหรัฐฯ ไปใช้ในการขยายสาขาในต่างประเทศแทน
“ยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะช่วยพัฒนาและผลักดันสตาร์บัคส์ไปสู่ความสำเร็จ เราเชื่อว่าเราสามารถพัฒนาการดำเนินงานของบริษัทด้วยการทบทวนถึงสิ่งที่ทำให้สตาร์บัคส์ประสบความสำเร็จมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นั่นคือ ความรักในธุรกิจที่ทำ ความใส่ใจลูกค้า และความสัมพันธ์อันดีระหว่างบริษัทกับพนักงาน เราเชื่อว่าเราต้องอาศัยความพยายามและความอุทิศตนของพนักงานทั่วโลกในการผลักดันสตาร์บัคส์ไปสู่ความสำเร็จ” นายชูลท์ซกล่าว
สตาร์บัคส์จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การขยายสาขาและแผนการดำเนินงานอื่นๆ ระหว่างการประชุมรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี พ.ศ.2551 ในวันที่ 30 มกราคมนี้
นายชูลท์ซกล่าวว่า วัตถุประสงค์ที่เขาตั้งเป้าไว้ไม่สามารถทำให้สำเร็จได้โดยง่ายภายในชั่วข้ามคืน “ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะสามารถครองหัวใจของลูกค้าและพันธมิตรทั่วโลกได้อย่างเช่นทุกวันนี้ เราต้องค่อยๆ ทำให้ลูกค้าไว้วางใจในตัวเราผ่านการดำเนินธุรกิจ การปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างเท่าเทียมกัน และการรับผิดชอบต่อสังคม ปัจจุบัน เราให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของทั้งพนักงานประจำและพนักงานชั่วคราว การรับผิดชอบต่อสังคมอย่างดีที่สุด และการสนับสนุนให้ผู้ปลูกกาแฟมีส่วนร่วมในหลักปฏิบัติ C.A.F.E. (Coffee and Farmers Equity) ของแต่ละประเทศ”
“ในนามของคณะกรรมการบริหารและพันธมิตรของสตาร์บัคส์ ผมขอขอบคุณ จิม โดนัลด์ สำหรับคุณประโยชน์ที่เขาได้ทำให้กับบริษัทมาโดยตลอด จิมทั้งรักและทุ่มเทให้กับสตาร์บัคส์อย่างเต็มที่ เราขออวยพรให้เขาประสบความสำเร็จในอนาคตข้างหน้าต่อไป” นายชูลท์ซกล่าวสรุป
โฮเวิร์ด ชูลท์ซ ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะผู้คิดค้นแบรนด์สตาร์บัคส์ ได้เข้าร่วมงานกับบริษัทในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการดำเนินธุรกิจและการตลาดในปี พ.ศ.2525 ในขณะที่บริษัทยังมีร้านสตาร์บัคส์เพียง 4 สาขา หลังจากนั้นในเดือนสิงหาคม ปี พ.ศ.2530 นายชูลท์ซได้เข้าซื้อบริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ คอมพานี เป็นของตนเอง และภายใต้การนำของนายชูลท์ซ สตาร์บัคส์ได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทแห่งแรกๆ ในอเมริกาเหนือที่ให้การคุ้มครองสุขภาพและให้เงินช่วยเหลือในรูปแบบของหุ้นที่เรียกว่า Bean Stock กับทั้งพนักงานประจำและพนักงานชั่วคราว หลังจากนั้นในเดือนมิถุนายน พ.ศ.2535 สตาร์บัคส์กลายเป็นบริษัทกาแฟแห่งแรกที่เปิดขายหุ้นไอพีโอต่อสาธารณชน ปัจจุบัน สตาร์บัคส์เป็นผู้นำการค้าปลีกกาแฟชนิดพิเศษคุณภาพสูงชั้นนำของโลก นอกจากจะมีสาขาในอเมริกาเหนือ ลาตินอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง และกลุ่มประเทศแถบมหาสมุทรแปซิฟิกโดยเฉพาะเอเชียตะวันออก สตาร์บัคส์ยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์กาแฟและชาในร้านค้าที่ได้รับอนุญาตอีกหลายแห่งทั่วโลก
การประชุม Conference Call with Financial Community
บริษัทจะจัดการประชุม Conference Call with Financial Community ในวันนี้ เวลา 17.30 น. (EST) เพื่อทำการพิจารณาพูดคุยเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การดำเนินงานดังกล่าว ท่านที่สนใจสามารถรับฟังการประชุมผ่านส่วนของนักลงทุนสัมพันธ์ ที่เว็บไซต์ http://investor.starbucks.com
หลังการประชุมในวันนี้ บริษัทจะจัดการประชุมเกี่ยวกับผลประกอบการณ์ประจำไตรมาสแรกของปี พ.ศ.2551 และรายละเอียดเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การขยายสาขาและแผนการดำเนินการอื่นๆ ในวันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ.2551 หรือหลังการเปิดเผยผลประกอบการณ์ประจำไตรมาสดังกล่าวต่อสาธารณชน
เกี่ยวกับ สตาร์บัคส์
สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ คอมพานี พร้อมมอบประสบการณ์พิเศษสุดในช่วงเวลาพิเศษของทุกคนด้วยกาแฟแก้วพิเศษ มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์กับเราได้ที่ www.starbucks.com
แถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า
ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับแนวโน้มธุรกิจ รวมถึงแผนการทางธุรกิจ โครงการและวัตถุประสงค์ต่างๆ ของบริษัทในอนาคต แถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้าฉบับนี้อ้างอิงจากข้อมูลการดำเนินงาน สภาพการเงิน และความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในปัจจุบัน ซึ่งอาจมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน โดยผลลัพธ์ในอนาคตอาจแตกต่างจากผลลัพธ์ที่มีการคาดการณ์ไว้เนื่องด้วยปัจจัยต่างๆ เช่น ราคาและปริมาณกาแฟ ผลิตภัณฑ์นม และวัตถุดิบอื่นๆ, ผลสำเร็จของการดำเนินงานในองค์กรและการขยายกิจการ, ความผันผวนของเศรษฐกิจและค่าเงินในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก, ผลกระทบจากโครงการของบริษัทคู่แข่ง, ผลการดำเนินการทางกฎหมาย และความเสี่ยงอื่นๆ ซึ่งระบุในรายงานที่ทางบริษัทได้นื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งรวมถึงรายงาน Form 10-K สำหรับปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2550 ทั้งนี้ บริษัทไม่จำเป็นต้องอัพเดทข้อมูลในแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้าฉบับนี้
ท่านที่ต้องการอ่านจดหมายถึงลูกค้าของสตาร์บัคส์ กรุณาชมที่เว็บไซต์ www.starbucks.com
ติดต่อ:ฝ่ายสื่อสัมพันธ์ของสตาร์บัคส์
วัลเลอรี่ โอนีล
โทร: 206-318-7100
หรือ
ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ของสตาร์บัคส์
โจแอน เดอกรองด์
โทร: 206-318-7893
เว็บไซต์: http://www.businesswire.com/cnn/sbux.shtml
