นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2551 นี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้กำหนดกลยุทธ์ในการขยายฐานผู้ลงทุนชาวต่างชาติ โดยมุ่งเน้นการขยายฐานผู้ลงทุนต่างประเทศต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยในไตรมาสแรกนี้ได้เตรียมไปให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนชาวญี่ปุ่น ทั้งผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายบุคคลรวม 3 งาน ในระหว่างเดือนก.พ. – มี.ค. 2551 นี้
ทั้งนี้ ในระหว่างวันที่ 17-19 มีนาคมนี้ ตลท. จะไปโรดโชว์เพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนสถาบันญี่ปุ่น ณ กรุงโตเกียว ตามคำเชิญของ บล.พัฒนสินและ Nomura Securities โดยจะมีบริษัทจดทะเบียนซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มธุรกิจที่น่าสนใจ อาทิ กลุ่มธุรกิจการเงิน คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กลุ่มทรัพยากร คือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง คือ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นต้น เข้าร่วมให้ข้อมูลความแข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนไทยแก่ผู้ลงทุนสถาบันชาวญี่ปุ่น
ส่วนอีก 2 งาน จะเป็นการเข้าร่วมงานสัมมนา โดยครั้งแรกคืองาน “Daiwa Investment Conference (Tokyo)” สำหรับ ผู้ลงทุนสถาบัน ระหว่างวันที่ 18-20 กุมภาพันธ์นี้ ณ กรุงโตเกียว ตามคำเชิญของ Daiwa Securities SMBC และการไปให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทย สำหรับผู้ลงทุนรายบุคคลและกลุ่มอาชีพเฉพาะ จัดโดยโบรกเกอร์ญี่ปุ่นชื่อ United World Japan K.K. ตามคำเชิญของบริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน)
กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า “ผู้ลงทุนชาวญี่ปุ่นเป็นกลุ่มเป้าหมายแรกของปีนี้ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเดินทางไปให้ข้อมูล เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ให้ความสนใจตลาดหุ้นไทยเป็นอย่างดี เห็นได้จากพฤติกรรมการลงทุนของผู้ลงทุนสัญชาติญี่ปุ่นในไทยมีลักษณะลงทุนแบบระยะยาว และมีมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2548 มีมูลค่าการซื้อขายรวม 3,845 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 4,706 ล้านบาทในปี 2549 และ 6,903 ล้านบาท ในปี 2550 หรือเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 80 จากปี 2548 ”
นอกจากการให้ความสนใจต่อตลาดหุ้นไทยของผู้ลงทุนชาวญี่ปุ่นแล้ว ด้านผู้จัดการกองทุนของบริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทจัดการลงทุนชาวญี่ปุ่นหลายแห่งก็ให้ความสนใจเช่นกัน โดยมีการจัดตั้งกองทุนเพื่อลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยโดยเฉพาะ อาทิ Nomura Asset Management ได้จัดตั้ง Thai Aurora Fund ซึ่งมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การจัดการ (AUM) ประมาณ 4,020 ล้านบาท (121.8 ล้านดอลลาร์ สรอ.) และ Mitsui Sumitomo Asset Management ได้จัดตั้ง Thailand High Income Equity Fund ซึ่งมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การจัดการ (AUM) ประมาณ 1,700 ล้านบาท (51.5 ล้านดอลลาร์ สรอ.)
นางภัทรียากล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีบริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทจัดการลงทุนหลายแห่งในญี่ปุ่นแสดงความสนใจ เกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนเพื่อลงทุนในประเทศไทย โดยได้เข้ามาหารือและขอข้อมูลการลงทุนจากตลาดหลักทรัพย์ฯอีกด้วย ซึ่งความสนใจดังกล่าวส่วนหนึ่งได้สะท้อนให้เห็นจากสถิติการให้บริการเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงปี 2550
ที่มีอัตราการเติบโตของการเข้าใช้เว็บไซต์ที่มีแหล่งที่มาจากประเทศญี่ปุ่นสูงมากเป็นอันดับหนึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ (วัดจาก IP Reference) โดยมีอัตราเติบโตของการเข้าดูข้อมูลในเว็บไซต์ www.set.or.th สูงขึ้นจากปี 2549 ถึงร้อยละ 140 และเข้าดูเว็บไซต์ www.mai.or.th สูงขึ้นถึงร้อยละ 263
นายทาเคชิ นิชิดะ กรรมการอำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การเมืองไทยที่มีความชัดเจนหลังการเลือกตั้ง ทำให้ผู้ลงทุนญี่ปุ่นมีความสนใจการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยมาก และหากได้รับ ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนอย่างใกล้ชิดทั้งจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทจดทะเบียน เชื่อว่าจะช่วยสนับสนุนการตัดสินใจเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยได้เป็นอย่างดี
กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวเพิ่มเติมว่า การตอบรับคำเชิญของบริษัทหลักทรัพย์ Daiwa Securities SMBC เข้าร่วมงาน “Daiwa Investment Conference (Tokyo)” ในวันที่ 18-20 กุมภาพันธ์นี้ ณ กรุงโตเกียว นับเป็นครั้งแรกที่ตลาด หลักทรัพย์ฯ จะได้เข้าร่วมงานดังกล่าว ซึ่งถือเป็นงานประชุมผู้ลงทุนสถาบันที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในญี่ปุ่น คาดว่าจะมีบริษัทจดทะเบียนของญี่ปุ่นเข้าร่วมนำเสนอข้อมูลกว่า 60 บริษัทและบริษัทชั้นนำในเอเชียอีกกว่า 30 บริษัท นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่ตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำในโลกและในเอเชีย อาทิ NYSE Euronext ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน อินเดีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เข้าร่วมให้ข้อมูลภาวะเศรษฐกิจ การลงทุน และแนวทางการพัฒนาตลาดทุนในประเทศนั้น ๆ ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันชาวญี่ปุ่นและต่างชาติ ซึ่งคาดว่าจะเข้าร่วมกว่า 1,000 คนด้วย
สำหรับงานสัมมนาการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทย ในวันที่ 20 มีนาคม 2551 จัดโดย United World Japan K.K. ตาม คำเชิญของบริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) จะจัดขึ้น ณ กรุงโตเกียว โดย ตลท. จะไปให้ข้อมูลในงานนี้แก่ ผู้ลงทุนรายบุคคลและกลุ่มอาชีพเฉพาะ
นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีความมั่นใจว่า การเดินทางไปให้ข้อมูลกับผู้ลงทุนบุคคลครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นให้เกิดความสนใจในกลุ่มผู้ลงทุนที่กำลังมองหาทางเลือกในการลงทุน และจะทำให้เห็นว่าตลาดทุนไทยเป็นแหล่งลงทุนที่น่าสนใจเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นแห่งอื่นในเอเชียที่คนญี่ปุ่นให้ความสนใจและลงทุนอยู่แล้ว ทั้งนี้ จากข้อมูลของ Statistics Bureau ของญี่ปุ่น (http://www.stat.go.jp) ผู้ลงทุน ชาวญี่ปุ่นต้องการหาแหล่งลงทุนที่มีศักยภาพ เพื่อเป็นทางเลือกนอกจากการออมหรือการลงทุนในประเทศ เนื่องจากคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีคนญี่ปุ่นเกษียณอายุกว่า 8 ล้านคน ทำให้มีเม็ดเงินหลังเกษียณจำนวนมากที่ต้องการหาแหล่งลงทุนใหม่ เพราะการฝากเงินในธนาคารญี่ปุ่นให้ผลตอบแทนต่ำมาก
นางภัทรียากล่าวเสริมว่า “การเดินทางไปโรดโชว์และให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนชาวญี่ปุ่นในรอบปี 2551 นี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เตรียมนำเสนอข้อมูลภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ข้อมูลบริษัทจดทะเบียนซึ่งยังคงมีผลประกอบการที่ดีและมีศักยภาพที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งน่าจะได้รับประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมทั้งแนะนำสินค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของตลาดหลักทรัพย์ฯ อาทิ TDEX, SET50 Index Futures และ Options รวมทั้ง สินค้าที่เตรียมออกเพิ่มเติมในปีนี้คือ FTSE SET Index Series, ETF กลุ่มพลังงาน และ Stock Options ด้วย”