แอร์โรเฟลกซ์ อินเตอร์เนชันแนล ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ประดับยนต์ชั้นนำของประเทศ ปฏิวัติวงการประดับยนต์ไทยเปิดตัวแอร์โรคลาส เอบีเอส คาโนปี้ (AeroKlas ABS Canopy) นำนวัตกรรมเอบีเอส 2 ชั้น (ABS Double Shell) มาใช้ในการผลิตหลังคารถกระบะ ชูคุณสมบัติพิเศษเหนือกว่าวัสดุเดิมในตลาด ตั้งเป้าเป็นหมายเลข 2 ในตลาดหลังคารถกระบะภายใน 1 ปี
นางสุภาวดี วิทูรปกรณ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์โรเฟลกซ์ อินเตอร์เนชันแนล จำกัด เปิดเผยว่า เนื่องจาก แอร์โรเฟลกซ์ อินเตอร์เนชันแนลเล็งเห็นศักยภาพอันโดดเด่นของนวัตกรรม Engineered ABS ที่ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมยานยนต์และอากาศยานทั่วโลก ประกอบกับความพร้อมในด้านวัสดุและความรู้ด้านการผลิตและออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ทำจาก เอบีเอส ของบริษัทฯ จึงได้ตัดสินใจได้เปิดสายผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ หลังคารถกระบะ เอบีเอส 2 ชั้น โดยใช้ชื่อสินค้าว่า “AeroKlas ABS Canopy”
เอบีเอส (Acrylonitrile Butadiene Styrene) เป็นเทอร์โมพลาสติกชนิดหนึ่งที่ได้จากการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลิเมอร์ของโมโนเมอร์ 3 ชนิด คือ อะคริโลไนไตรล์ (Acrylonitrile) บิวทาไดอีน (Butadiene) สไตรีน (Styrene) ซึ่งโดยทั่วไปพลาสติกจะมีลักษณะแข็งแต่เปราะ หรือแข็งเหนียวแต่อ่อนนิ่ม แต่เอบีเอสจะมีความสมดุลทั้งในเรื่องความแข็งและความเหนียวทำให้มีคุณสมบัติทนแรงกระแทก คงสภาพรูปร่างได้ดี และทนความร้อน เพราะเหตุนี้เอบีเอสจึงเป็นที่นิยมในหลายอุตสาหกรรม เช่น อากาศยาน ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์
แอร์โรเฟลกซ์ อินเตอร์เนชันแนลได้นำเอบีเอสมาผลิตแอร์โรคลาส เอบีเอส คาโนปี้โดยขึ้นรูปเป็นหลังคาชิ้นเดียวตลอดทั้งหลัง ไร้รอยต่อ 2 ชั้น ทำให้แอร์โรคลาส เอบีเอส คาโนปี้เป็นหลังคากระบะรายแรกของโลกที่เสริมหลังคาเอบีเอสถึง 2 ชั้น และเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น บริษัทฯ ยังมีการเสริมโครงเหล็กภายใน ติดตั้งอยู่ตรงกลางของชั้นนอกและชั้นใน เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และความสามารถในการรองรับน้ำหนักถึง 100 กิโลกรัม พร้อมรองรับการติดตั้งตะแกรงหลังคา (SUV Roof Rack) และการติดตั้งเครื่องปรับอากาศอีกด้วย
ภายในห้องโดยสารก็ผลิตจากวัสดุเอบีเอสคุณภาพสูงเช่นเดียวกับภายนอก ทำให้ทนทานต่อการขีดข่วน ไม่ขาด อับชื้น หรือเป็น เชื้อรา ดูแลรักษาง่ายและอายุการใช้งานยาวกว่าไวนิลหรือพีวีซี
ในส่วนของกระจก ทีมวิศวกรด้านการออกแบบของแอร์โรเฟลกซ์ได้ออกแบบให้มีกระจกทั้งหมด 4 ด้าน ได้แก่ กระจกข้าง 2 ด้าน กระจกฝาท้าย และกระจกบานหน้าแบบเลื่อน โดยกระจกข้างเป็นกระจกนิรภัยแบบบานเลื่อน 2 ชิ้น กรอบกระจกผลิตจากวัสดุอัลลูมิเนียม พร้อมแถบยางกันน้ำ ส่วนกระจกฝาท้ายก็เป็นกระจกแบบนิรภัยเช่นกัน พร้อมอุปกรณ์ระบบไล่ฝ้าพร้อมสวิตช์เปิด ปิด กระจกฝาท้ายสามารถเปิดปิดขึ้น ลง ด้วยโช๊คอัพ 2 ตัว พร้อมไฟเบรกแอลอีดีแบบฝังลงในชิ้นงานหลังคา ช่วยเพิ่มความปลอดภัยเวลาขับขี่
ส่วนข้อดีของกระจกบานหน้าแบบเลื่อนคือช่วยย่นระยะเวลาในการติดตั้งหลังคา เพราะไม่จำเป็นต้องใช้ยางหีบเพลงหรือกาวซีลิโคนที่มีอายุการใช้งานที่จำกัด เป็นสาเหตุทำให้น้ำซึมเข้ารถเมื่อเสื่อมสภาพ และต้องใช้คัตเตอร์กรีดและสารทำลาลายสำหรับการลอกยางหีบเพลง นอกจากนี้แอร์โรคลาส เอบีเอส คาโนปี้ยังสามารถติดตั้งกับรูของพื้นปูกระบะได้เลยไม่ต้องเจาะพื้นปูกระบะ ดังนั้นเมื่อต้องรื้อหรือถอดผลิตภัณฑ์ รถก็จะไม่ถลอก และแอร์โรคลาส เอบีเอส คาโนปี้ ยังใช้เวลาติดตั้งเพียง 45 นาทีเท่านั้น รวดเร็วกว่าหลังคารถกระบะที่ใช้วัสดุอื่นที่ต้องใช้เวลาติดตั้งมากกว่า 2 ชั่วโมง
ปัจจุบันแอร์โรคลาส เอบีเอส คาโนปี้มีทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ แบบสไตล์ลิช (Stylish) คือแบบมีกระจก ราคา 26,000-28,000 บาท รวมทำสีและติดตั้ง และแบบคอมเมอร์เชียล (Commercial) ซึ่งเป็นตัวทึบไม่มีกระจก ราคา 22,000-24,000 บาท สำหรับโตโยต้า วีโก้ และอีซูซุ ดี-แมค ซึ่งราคาถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับราคาวัสดุ ทั้งนี้เพื่อเป็นการเผยแพร่นวัตกรรมและสร้างกระแสตลาดหลังคารถกระบะเอบีเอส ในช่วงเปิดตัว โดยผู้ที่สนใจสินค้าแอร์โรคลาส เอบีเอส คาโนปี้ สามารถหาซื้อได้ที่เครือข่ายช่องทางจำหน่ายของ แอร์โรเฟลกซ์กว่า 400 แห่งทั่วประเทศ
ทั้งนี้ในช่วงงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ 2008 ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม – 6 เมษายน 2551 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค แอร์โรเฟลกซ์ยังจัดโปรโมชั่นพิเศษให้แก่ลูกค้าที่ซื้อแอร์โรคลาส เอบีเอส คาโนปี้ รุ่นสไตล์ลิช โดยจะได้รับของแถมเป็น SUV Roof Rack มูลค่า 4,500 บาท กระจกมองถอยมูลค่า 2,500 บาท และเสื้อโปโลมูลค่า 500 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 7,500 บาท ส่วนรุ่นคอมเมอร์เชียลมีของแถมเป็นกระจกมองถอยมูลค่า 2,500 บาท และเสื้อโปโลมูลค่า 500 บาท รวมมูลค่าของแถม 3,000 บาท
“ด้านแผนการเปิดตัวสินค้าใหม่ ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้เราจะนำแอร์โรคลาส เอบีเอส คาโนปี้ออกสู่ตลาด 3 รุ่น สำหรับ นิสสัน ฟอร์ด และมาสด้า และจะออกผลิตภัณฑ์ครบสำหรับรถกระบะทุกยี่ห้อภายในสิ้นปี 2551 นี้ โดยคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ กว่า 300 ล้านบาท รวมทั้งตลาดในประเทศและส่งออก” นางสุภาวดีกล่าว
“แอร์โรเฟลกซ์ อินเตอร์เนชันแนล ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำตลาดหลังคารถกระบะเอบีเอส เพราะเชื่อมั่นว่าในอนาคตประเทศไทยจะนิยมหลังคารถกระบะเอบีเอสอย่างแน่นอน เนื่องจากคุณสมบัติที่โดดเด่นของนวัตกรรม โดยเราตั้งเป้าว่าจะสามารถครองอันดับ 2 ของ ตลาดหลังคารถกระบะในประเทศภายใน 1 ปีอย่างแน่นอน” นางสุภาวดี กล่าวทิ้งท้าย