ผลประกอบการของ บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) ประจำปี 2550: บริษัทฯและบริษัทย่อยสามารถรับรู้รายได้จากการขายเป็นจำนวน 1.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 86% ด้วยผลกำไรสุทธิที่เป็นบวกในครึ่งปีหลัง สัดส่วนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 22 และยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้อยู่ถึง 7 พันล้านบาท
จากผลการดำเนินงานและงบการเงินของบริษัทฯประจำปี 2550 ที่ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2551 บริษัทฯมีรายได้รวมเป็นจำนวน 1,730 ล้านบาทในปี 2550 เพิ่มขึ้นร้อยละ 86 จากปี 2549 โดยร้อยละ 91 ของรายได้มาจากการรับรู้รายได้จากการขายโครงการ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ เดอะ ล็อฟท์ เย็นอากาศ ซึ่งเปิดตัวในปี 2548 และเสร็จสมบรูณ์แล้วในปี 2551 โครงการเดอะไฮทส์ ภูเก็ต ซึ่งเปิดตัวในปี 2548 และจะเสร็จสมบรูณ์ในปี 2551 และโครงการ นอร์ทพ้อยท์ พัทยา ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อตอนสิ้นปี 2549 และได้เริ่มมีการรับรู้รายครั้งแรกในไตรมาสที่ 4 ของปี 2550 นี้
เนื่องจากวิธีการรับรู้รายได้ของโครงการอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรฐานบัญชี2 ตัวเลขรายได้ที่รับรู้ตามงบการเงินจึงเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของยอดขายของโครงการทั้งหมด ณ สิ้นปี 2550 โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 บริษัทฯและบริษัทย่อยมียอดขายของโครงการทั้งหมดถึง 8,829 ล้านบาท ขณะที่บริษัทฯยังมียอดขายที่ยังไม่ได้รับรู้รายได้อีกจำนวน 6,995 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งหรือจำนวน 4,571 ล้านบาทเป็นยอดขายของโครงการ เดอะริเวอร์ โครงการเดอะริเวอร์เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและเป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทในปัจจุบัน
ในปี 2550 บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้น จำนวน 544 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกำไรขั้นต้นในปี 2549 ซึ่งมีเพียง 172 ล้านบาท ในครึ่งปีหลังของปี 2550 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 35 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นจากการขาดทุนสุทธิจำนวน 66 ล้านบาทในครึ่งปีแรกของปี 2550 ส่งผลให้ตัวเลขผลประกอบการรวมทั้งปีของบริษัทฯในปี 2550 ปรับตัวขึ้น ด้วยผลขาดทุนสุทธิที่ลดลงจาก 166 ล้านบาท ในปี 2549 เป็น 30 ล้านบาท ในปี 2550
ณ สิ้นปี 2550 สินทรัพย์รวมของบริษัทฯมีจำนวน 7,926 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจาก 4,113 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2549 และสัดส่วนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯมีจำนวน 2,720 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 จากปีที่ผ่านมา
มร. ไนเจิล จอห์น คอร์นิค ประธานกรรมการบริหารบริษัท ไรมอน แลนด์ ได้กล่าวถึงผลการดำเนินงานบริษัทฯในปีที่ผ่านมาว่า
“นับตั้งแต่ปลายปี 2549 ไรมอน แลนด์ ได้ขยับก้าวขึ้นไปอีกขั้น ทั้งในแง่ของการพัฒนาโครงการใหม่ๆและขนาดของโครงการของบริษัทฯ จากโครงการที่ไรมอน แลนด์ มีอยู่แล้วในปัจจุบัน บริษัทฯจะสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 4 หมื่นล้านบาทตลอดเวลา 5 ปีข้างหน้า ด้วยเป้าหมายสัดส่วนผลกำไรสุทธิจากการพัฒนาโครงการ (Target Net Margin) ที่มากกว่าร้อยละ 20 แม้ว่าปี 2550 ถือเป็นปีที่สำคัญที่บริษัทฯสามารถเริ่มกลับมาทำผลกำไรได้อีกครั้ง แต่เนื่องด้วยข้อกำหนดทางมาตรฐานบัญชีเกี่ยวกับวิธีการรับรู้รายได้ของโครงการอสังหาริมทรัพย์ในแนวสูง บริษัทฯจึงยังไม่สามารถรับรู้รายได้ของโครงการที่ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นได้ โดยบริษัทฯคาดว่าผลประกอบการของบริษัทฯจะเริ่มสะท้อนการดำเนินงานของโครงการเหล่านี้ได้จริงในอีก 1-2 ปีข้างหน้า”
