ธนาคารไทยพาณิชย์ปิดไตรมาสแรกของปี 2551 อย่างโดดเด่น กำไรสุทธิ 6,787 ล้านบาท

ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารไทยที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ เปิดเผยผลประกอบการเบื้องต้น (งบการเงินรวม) โดยไตรมาสแรกของปี 2551 มีผลกำไรสุทธิ 6,787 ล้านบาท หรือสูงขึ้น 83.5% เทียบกับไตรมาสแรกของปี 2550 ซึ่งนับเป็นกำไรประจำไตรมาสที่สูงกว่าที่ผ่านมา กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นมาจากการดำเนินยุทธศาสตร์

การให้บริการทางการเงินแบบครบวงจร (Universal Banking) การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานควบคู่ไปกับการบริหารค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ ผลประกอบการที่ดีมากยังมาจากกำไรพิเศษจากการขายหุ้นซึ่งเกิดขึ้นเป็นกรณีเฉพาะในไตรมาสนี้อีกด้วย ทั้งนี้ แม้ว่าการขยายตัวของด้านสินเชื่อจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและมีเสถียรภาพ ในด้านการแก้ไขสินเชื่อด้อยคุณภาพ ได้ผลสูงกว่าเป้าหมายสะท้อนถึงคุณภาพสินเชื่อโดยรวมที่ดีขึ้น

ดร. วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ให้ความเห็นต่อผลประกอบการในไตรมาสแรกนี้ว่า : “การที่ธนาคารมีผลประกอบการในเกณฑ์ดีเช่นนี้ เป็นการแสดงถึงความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การดำเนินงานในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยการเป็นธนาคารที่ให้บริการทางการเงินแบบครบวงจร (Universal Bank) สามารถตอบสนองความต้องการทางการเงินที่หลากหลายของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ส่งผลถึงผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ต้องเผชิญกับสภาวะการแข่งขันที่สูงและสภาวะถดถอยทางการเงินโลก

ปัจจัยหลักที่ทำให้ผลประกอบการในไตรมาสนี้ปรับตัวดีขึ้นอย่างเด่นชัด มาจากการนำรูปแบบของการทำธุรกิจการเงินแบบครบวงจรโดยธนาคารและบริษัทในกลุ่มมาปรับใช้ ส่งผลทำให้ธนาคารมีรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะจากผลิตภัณฑ์ด้านประกันและการขายกองทุนรวม และธนาคารยังมีรายได้เพิ่มจากธุรกิจเช่าซื้อและธุรกิจจัดการกองทุน ซึ่งทั้ง 2 ธุรกิจมีการขยายตัวที่ดีและมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ผลประกอบการที่ดียังมาจากกำไรพิเศษจากการขายหุ้นในบริษัทต่างประเทศซึ่งเกิดเป็นกรณีเฉพาะในไตรมาสแรกของปี 2551

ในขณะเดียวกัน ธนาคารสามารถบริหารค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปี 2550 แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของกลยุทธ์ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการบริหารค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้

นอกจากนี้แล้ว ธนาคารยังประสบความสำเร็จอย่างสูงในการจัดการสินเชื่อด้อยคุณภาพ โดยสามารถลดระดับสินเชื่อด้อยคุณภาพจากระดับ 7.9% ณ สิ้นไตรมาสแรกปี 2550 มาอยู่ที่ 5.2% ณ สิ้นไตรมาสแรกปี 2551 การลดลงของสินเชื่อด้อยคุณภาพสะท้อนถึงการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพรวมทั้งการปรับปรุงและการยกระดับการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสินเชื่อของธนาคาร

ในส่วนของสินเชื่อ การให้สินเชื่อของธนาคารขยายตัวที่ 12.1% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2550 โดยที่ธนาคารสามารถบริหารส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย (NIM) ให้ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2550 และใกล้เคียงกับช่วงไตรมาสก่อนหน้า

คุณกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “ณ ปัจจุบัน จากการวัดผลโดย Gallup ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลก ถือได้ว่าธนาคารไทยพาณิชย์เป็นธนาคารที่ดีที่สุดของประเทศในการสร้างความพึงพอใจและความผูกพันให้เกิดแก่ลูกค้าและพนักงาน และด้วยความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่งเช่นนี้ เรามุ่งมั่นที่จะทำให้ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นธนาคารที่ดีที่สุดสำหรับผู้ถือหุ้นด้วย”คุณกรรณิกายังกล่าวเพิ่มอีกด้วยว่า “เป็นการคู่ขนานกับการทำธุรกิจ ธนาคารยังมุ่งที่จะให้ความสนับสนุนการดำเนินโครงการและกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและชุมชนอย่างต่อเนื่อง”

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศที่ให้บริการทางการเงินแบบครบวงจร ก่อตั้งขึ้นโดยพระบรมราชานุญาตในปี พ.ศ. 2449 โดยเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2551 ธนาคารมีมูลค่าตลาดรวม (Market Capitalization) สูงเป็นอันดับที่ 1 ในกลุ่มสถาบันการเงิน (308 พันล้านบาท) มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 (1,196.3 พันล้านบาท) มีเครือข่ายสาขาและจุดให้บริการมากที่สุดในประเทศไทย (สาขารวมทั้งสิ้น 885 สาขา ศูนย์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 141 แห่ง เครื่องเอทีเอ็ม 5,063 เครื่อง) เพื่อให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ลูกค้าบุคคล และลูกค้าธนบดีธนกิจ ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ www.scb.co.th