ตลาดรถจักรยานยนต์ปิดตัวเลขปริมาณการจำหน่ายสะสมในไตรมาสแรกเป็นจำนวนทั้งสิ้นกว่า 4.35 แสนคัน ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 2% โดยเป็นผลจากปัจจัยบวกหลากหลายประการ ทั้งการโหมกระตุ้นตลาดของค่ายผู้ผลิต ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ลงสู่ตลาด เนื่องจากเป็นช่วงของฤดูการขาย ประกอบกับสินค้าทางการเกษตรมีราคาสูง ส่งผลให้กลุ่มเกษตรกรซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักมีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้นแล้วจากการที่ภาครัฐบาลเตรียมผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก นับเป็นการส่งสัญญาณถึงแนวโน้มที่ดีของตลาด ทำให้คาดการณ์ได้ว่าตลาดในไตรมาสต่อไปจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยถึงสภาพตลาดรถจักรยานยนต์ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ปรากฏว่า ตลาดมีความคึกคักและตื่นตัวเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เนื่องมาจากมีปัจจัยด้านบวกหลากหลายประการ ส่งผลให้ปริมาณยอดจดทะเบียนป้ายวงกลมสะสมนับตั้งแต่เดือน ม.ค.–มี.ค.มีจำนวนรวมทั้งสิ้นสูงถึง 435,069 คัน เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าซึ่งมีจำนวน 426,172 คันแล้ว มีปริมาณจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้น 8,897 คัน หรือมีอัตราการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น 2%
โดยปัจจัยบวกด้านต่างๆ ที่มีหลากหลายประการนั้น ประกอบด้วยปัจจัยทางด้านสภาพตลาดที่เป็นช่วงของฤดูขาย ส่งผลให้บรรดาค่ายผู้ผลิตรายใหญ่ ต่างโหมกระตุ้นตลาดด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ลงสู่ตลาด พร้อมการจัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายในรูปแบบต่างๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจและเร่งการตัดสินใจซื้อ ในขณะที่กลุ่มเป้าหมายหลักซึ่งโดยส่วนใหญ่คือกลุ่มเกษตรกรนั้น มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น อันเป็นผลเนื่องมาจากมีราคาสูงขึ้นของสินค้าทางด้านการเกษตรหลายชนิด นอกจากนั้นแล้วยังมีปัจจัยเสริมจากความชัดเจนในด้านการเมือง โดยเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ผ่านพ้นการเลือกตั้งและมีการจัดตั้งรัฐบาล จึงส่งผลให้ความเชื่อมั่นในการบริโภคมีเพิ่มมากขึ้น
สำหรับแนวโน้มของตลาดในช่วงไตรมาสต่อไป คาดการณ์ว่ายังคงมีความคึกคักและตื่นตัวเป็นอย่างสูง ทั้งนี้เป็นเพราะว่าสภาพตลาดยังเป็นช่วงต่อเนื่องของฤดูการขาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากนโยบายของทางภาครัฐบาลที่เตรียมผลักดันการกระตุ้นเศรษฐกิจสู่ระดับฐานราก ด้วยการจัดสรรกองทุนเพื่อพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชนขนาดต่างๆ ภายใต้โครงการเอสเอ็มแอล อันเป็นการส่งเสริมให้มีเม็ดเงินไหลหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเป็นปริมาณสูงนั้น นับเป็นการส่งสัญญาณถึงแนวโน้มที่ดีต่อตลาด ซึ่งจะมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากที่ส่งผลให้ตลาดในไตรมาสต่อไปมีการเติบโตและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ในด้านรายละเอียดของยอดจดทะเบียนสะสมในไตรมาสแรกนั้น ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์แบบครอบครัว 218,260 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 50%รถแบบ เอ.ที. (Automatic Transmission) หรือแบบเกียร์อัตโนมัติ 199,836 คัน สัดส่วนตลาด 46%รถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ต 12,358 คัน สัดส่วนตลาด 3%รถแบบสปอร์ต 3,010 คัน สัดส่วนตลาด 1% และรถประเภทอื่นๆ 1,605 คัน
หากแยกเป็นยอดจดทะเบียนตามประเภทของผู้ผลิตแล้ว มีดังนี้คือ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า 298,136 คัน เทียบเท่าอัตราครองตลาด 69% ยามาฮ่า 110,777 คัน อัตราครองตลาด 25% ซูซูกิ 18,861 คัน อัตราครองตลาด 4% คาวาซากิ 2,395 คัน อัตราครองตลาด 1% เจอาร์ดี 1,007 คัน แพล็ตตินั่ม 870 คัน ไทเกอร์ 263 คัน และอื่นๆ 2,760 คัน