ไมเคิล เดลล์ ระบุ ไอทีสีเขียวเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างระบบเศรษฐกิจแบบประหยัดพลังงาน

เทคโนโลยีสารสนเทศสีเขียว (Green IT) กำลังจะกลายเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดในการบรรลุเป้าหมายการสร้างเศรษฐกิจที่ใส่ใจต่อปริมาณคาร์บอนในอากาศอย่างยั่งยืน ดังที่ ไมเคิล เดลล์ ประธานกรรมการและซีอีโอของเดลล์ ได้กล่าวแก่ผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนาในงาน FORTUNE Brainstorm: GREEN ที่ผ่านมา

“สิบปีจากนี้ไป เมื่อเรามองย้อนกลับจะพบว่า ไอทีสีเขียว นอกจากจะช่วยลดผลกระทบในเรื่องสภาวะอากาศแปรปรวนแล้ว ยังเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้แก่อุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลก โดยช่วยผลักดันให้เกิดการสร้างเศรษฐกิจยุคคาร์บอนต่ำอย่างแท้จริง” เดลล์ กล่าว “นี่ถือเป็นโอกาสที่เราต้องลงมือปฏิบัติ ณ วันนี้โดยทันที”

งานสัมมนาดังกล่าวถือเป็นการจัดงานของนิตยสาร FORTUNE ครั้งแรกที่มุ่งประเด็นมาที่หัวข้อเพื่อสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ และถือเป็นส่วนหนึ่งในงานคุ้มครองโลก (Earth Day) ปีที่ 39 ซึ่งมีการจัดงานกันทั่วโลก นอกจากนี้ ไมเคิล เดลล์ ยังได้นำเสนอคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปขนาดเล็กที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่สุดในงานครั้งนี้ด้วย โดยมีขนาดเล็กกว่าเดกส์ทอปแบบมินิทาวเวอร์ประมาณ 81 เปอร์เซ็นต์ ใช้พลังงานน้อยกว่าเดิม 70 เปอร์เซ็นต์ และมาในบรรจุภัณฑ์ที่เอื้ออำนวยต่อการนำกลับมาใช้ใหม่ โดยคาดว่าจะวางจำหน่ายได้ในปีนี้ ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา คอมพิวเตอร์เดสก์ทอปของเดลล์ได้ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้กว่า 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 22.4 ล้านตัน

จากการศึกษาของสมาคมอเมริกันเพื่อระบบเศรษฐกิจแบบประหยัดพลังงาน หรือ ACEEE (American Council for an Energy-Efficient Economy) พบว่า เทคโนโลยีสารสนเทศได้ช่วยให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ประหยัดพลังงานได้อย่างชัดเจน รายงานดังกล่าวระบุว่า ในการใช้กระแสไฟฟ้าโดยเทคโนโลยีสารสนเทศทุกๆ 1 กิโลวัตต์-ชั่วโมง จะช่วยประหยัดกระแสไฟฟ้าโดยรวมได้กว่า 10 กิโลวัตต์-ชั่วโมง อันเนื่องมาจากประโยชน์ของไอทีในด้านต่างๆ เช่น เวอร์ชวลไลเซชัน ระบบประมวลผลแบบประหยัดพลังงาน การทำธุรกรรมด้านสื่อสารโทรคมนาคม และออนไลน์ เป็นต้น

“การเชื่อมโยงลูกค้า พนักงาน และซัพพลายเออร์เข้าด้วยกัน หมายถึง การเข้าใจและแบ่งปันคำยึดมั่นในการมุ่งสู่นวัตกรรสีเขียวร่วมกัน” ไมเคิล เดลล์ กล่าว “วันนี้ผมอยากร่วมชักชวนให้บริษัทด้านเทคโนโลยีทุกแห่งได้ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม มองให้เป็นเป้าหมายหลักของธุรกิจและร่วมปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพไปจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดูแลปริมาณการปล่อยคาร์บอน และนำเสนอนโยบายรีไซเคิลผลิตภัณฑ์ฟรีแก่ลูกค้า”

คำมั่นของเดลล์ต่อโครงการ ReGeneration
ในวันแห่งสิ่งแวดล้อมโลกปี 2550 เดลล์ได้ประกาศว่าจะร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับโครงการ ReGeneration ซึ่งประกอบไปด้วยผู้คนในทุกช่วงอายุที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม และตั้งเป้าหมายในการเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังได้ให้คำมั่นด้วยว่า เดลล์จะมุ่งเป็นบริษัทแรกที่สร้างสมดุลย์ด้านการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ในการปฏิบัติงานทุกส่วนของบริษัททั่วโลกภายในสิ้นปี 2551

“เรากำลังเข้าใกล้เป้าหมายดังกล่าว” ไมเคิล เดลล์ กล่าว

วันนี้ เดลล์ยังได้ประกาศแผนงานในการเปิดประชุมกลุ่มคณะกรรมการที่ปรึกษาของโครงการ ReGeneration เพื่อให้คำแนะนำและชี้แนวทางในการบรรลุเป้าหมาย ซึ่งในคณะกรรมการที่ปรึกษาดังกล่าวประกอบไปด้วย Alexandra Cousteau ประธานของเอิร์ธแอ็คโค อินเตอร์เนชั่นแนล (EarthEcho International) และเป็นหลานสาวของนักชีววิทยาทางทะเลอย่าง Jacques Cousteau, Chuck Leavell มือคีย์บอร์ดของวง Rolling Stones และนักปลูกต้นไม้และนักอนุรักษ์ธรรมชาติตัวยง และ Laura Turner Seydel ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้ชีวิตอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเป็นประธานกรรมการของมูลนิธิกัปตันแพลนเน็ท (Captain Planet Foundation) นอกจากนี้เดลล์ยังเตรียมเชื้อเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องและนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรายอื่นๆ ให้มาเข้าร่วมในกลุ่ม ReGeneration เพิ่มขึ้นด้วย

วันเดียวกันนี้ เดลล์ยังได้ประกาศ 5 ผลงานการออกแบบคอมพิวเตอร์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่เข้ารอบสุดท้ายในการแข่งขันนานาชาติด้านการออกแบบเทคโนโลยีเพื่อการประมวลผลแบบประหยัดพลังงาน (International Green Computing Technology Design Competition) ด้วย สำหรับรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับคณะกรรมการที่ปรึกษาและการประกวดการออกแบบ สามารถเรียกดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ReGeneration.org

ผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมตัวจริง
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เดลล์ประกาศว่าสำนักงานใหญ่ของบริษัทได้ใช้พลังงานสีเขียวครบสมบูรณ์เรียบร้อยแล้วเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ปริมาณการปล่อยคาร์บอนของเดลล์ยังอยู่ในกลุ่มต่ำสุดของบริษัทในกลุ่ม FORTUNE 50 ทั้งยังทิ้งห่างจากคู่แข่งรายที่ใกล้เคียงกันถึงกว่าครึ่งหนึ่งด้วย

นอกจากนี้ เดลล์ยังได้ช่วยให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการลดผลกระทบด้านคาร์บอนภายใต้โครงการ Plant a Tree for Me เพื่อสร้างสมดุลย์ให้แก่พลังงานไฟฟ้าที่จำเป็นต้องใช้ร่วมกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และยังได้ร่วมสมทบทุนกับผู้บริโภคและบริษัทธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กเป็นเงิน 2 เหรียญสหรัฐฯ เมื่อซื้อคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก และ 6 เหรียญสหรัฐฯ เมื่อซื้อคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปในวันคุ้มครองโลกด้วย

ในเดือนกันยายน 2550 ที่ผ่านมา เดลล์ได้เปิดตัวโครงการ Plant a Forest for Me ซึ่งช่วยให้องค์กรต่างๆ ทั่วโลกสามารถร่วมแบ่งปันแนวปฏิบัติที่เหมาะสม และมีส่วนร่วมในการปลูกต้นไม้เพื่อการฟื้นคืนป่าที่สมบูรณ์อย่างยั่งยืน โดยมีพาร์ทเนอร์สำคัญหลายรายตั้งแต่เอเอ็มดี, เอบีเอ็น แอมโร, อาคดอตคอม (Ask.com), ซีจีไอ, สเทปเปิล, เซลฟอร์ซดอตคอม (Salesforce.com), ทาร์กัส และเวลล์พอยท์

ที่สำคัญเดลล์ยังเป็นบริษัทแห่งเดียวในวงการไอทีที่นำเสนอโครงการรีไซเคิลฟรีสำหรับลูกค้า โดยตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา เดลล์ได้รีไซเคิลอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั่วโลกกว่า 78 ล้านปอนด์ เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ถึงกว่า 93 เปอร์เซ็นต์ และตัวเลขดังกล่าวคาดว่าจะทำให้ปริมาณการรีไซเคิลผลิตภัณฑ์ของเดลล์ถึงระดับ 275 ล้านปอนด์ได้ในปี 2552

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำสัญญาของเดลล์ในการก้าวสู่บริษัทเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด สามารถเรียกดูได้ที่ www.dell.com/earth และหากคุณต้องการเป็นหนึ่งในผู้คนที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและอยากร่วมกันดูแลรักษาโลกของเราใบนี้ สามารถแวะไปได้ที่ www.regeneration.org

เกี่ยวกับเดลล์
เดลล์รับฟังความต้องการของลูกค้าและส่งมอบนวัตกรรมเทคโนโลยีและการบริการที่มีค่าให้กับลูกค้า ภายใต้การทำตลาดผลิตภัณฑ์และบริการสู่ลูกค้าทั่วโลกด้วยโมเดลการขายตรง ทำให้ปัจจุบันเดลล์เป็นผู้นำในด้านระบบและบริการระดับโลก เดลล์ได้รับการจัดอันดับที่ 34 จากฟอร์จูน 500 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเดลล์ ผลิตภัณฑ์ และการบริการ เยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.dell.com