ผลประกอบการของ บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) ในไตรมาสที่หนึ่งของปี 2551 บริษัทฯ มีรายได้รวม 736 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 จากไตรมาสที่สี่ของปี 2550 โดยมีผลกำไรสุทธิรวม 68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสสุดท้ายของปี 2550 ถึงร้อยละ 340 และมีรายได้ส่วนที่ยังไม่ได้รับรู้ถึง 8.6 พันล้านบาท ในส่วนของงบการเงินเฉพาะบริษัทฯ ไรมอน แลนด์ มีกำไรสุทธิ 169 ล้านบาท ในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว ซึ่งบริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 62 ล้านบาท
จากผลการดำเนินการและงบการเงินของบริษัทฯ ประจำไตรมาสที่หนึ่งของปี 2551 ที่ได้รายงานแก่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2551 บริษัทฯ มีรายได้รวมในไตรมาสที่หนึ่งจำนวน 736 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 18 จากไตรมาสที่สี่ของปี 2550 และคิดเป็นกว่าสองเท่าของระดับรายได้ที่รับรู้ในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ ได้เริ่มรับรู้รายได้จากโครงการเดอะริเวอร์ ซึ่งเป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดของ ไรมอน แลนด์ ในปัจจุบัน และบริษัทยังมีการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องสำหรับโครงการนอร์ทพ้อยท์ ในพัทยา โดยที่รายได้จากทั้งสองโครงการนี้รวมกันมีมูลค่าเกินกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมดของบริษัทฯ ในไตรมาสแรก ปี 2550
เนื่องจากวิธีการรับรู้รายได้ของโครงการอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรฐานบัญชีของประเทศไทย ตัวเลขรายได้ที่รับรู้ตามงบการเงินจึงเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของยอดขายโครงการทั้งหมด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2551 ยอดขายทั้งหมดของโครงการปัจจุบันทั้งสี่โครงการของ ไรมอน แลนด์ มีมูลค่าถึงประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้มีการรับรู้เป็นรายได้เพียง 2.4 พันล้านบาท โดยยอดขายในส่วนที่ยังไม่รับรู้รายได้กว่า 6 พันล้านบาทเป็นของโครงการเดอะริเวอร์
ปัจจุบัน ไรมอน แลนด์ มีผลกำไรจากการดำเนินงานติดต่อกันสามไตรมาส โดยมีผลกำไรสุทธิในไตรมาสนี้หลังหักสัดส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเป็นจำนวน 68 ล้านบาท ในขณะในไตรมาสที่หนึ่งของปี 2550 บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิ 37 ล้านบาท
สัดส่วนผู้ถือหุ้นรวม (ตามมูลค่าทางบัญชี) ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเป็น 2,781 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสที่หนึ่งของปี 2551 โดยอัตราส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยสุทธิ (หลังหักเงินสด) ต่อส่วนของผู้ถือหุ้นตามมูลค่าทางบัญชี อยู่ที่ประมาณ 1.2 ต่อ 1
มร. ไนเจิล จอห์น คอร์นิค กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงผลการดำเนินงานบริษัทฯ ในไตรมาสนี้ว่า
“ในสองไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการนอร์ทพ้อยท์และโครงการเดอะริเวอร์ และบริษัทยังสามารถสร้างผลกำไรได้อีกครั้ง อย่างไรก็ดี ผมมั่นใจว่านักลงทุนส่วนมากจะตระหนักได้ว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการรับรู้รายได้และผลกำไรจากโครงการเหล่านี้เท่านั้น ซึ่งจากสองโครงการนี้ บริษัทมียอดขายที่ยังไม่รับรู้รายได้อยู่ถึง 8.45 พันล้านบาท”