ฟุตบอลยูโร 2008 : เงินพนันสะพัด 41,000 ล้านบาท

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหรือยูโร 2008 ถึงกำหนดเปิดศึกแล้วในระหว่างวันที่ 7-29 มิถุนายน 2551 โดยในครั้งนี้มีประเทศออสเตรียและสวิตเซอร์แลนด์เป็นเจ้าภาพร่วม และมีทีมฟุตบอลจากประเทศในยุโรป 16 ทีมเข้าร่วมการแข่งขันรวม 31 นัด ทั้งนี้ การแข่งขันฟุตบอลยูโรในครั้งนี้แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับปัจจัยด้านราคาสินค้าและบริการโดยเฉพาะบริการภาคขนส่งทั้งรถประจำทาง รถโดยสารระหว่างจังหวัดและค่าโดยสารเรือ ฯลฯ ที่ทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลายรายการอันเป็นผลสืบเนื่องจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น จนส่งผลให้ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวข้องในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร2008 อาทิ ธุรกิจโฆษณา ธุรกิจสื่อสารมวลชน ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ธุรกิจร้านอาหาร สถานบันเทิง ธุรกิจจำหน่ายสินค้าที่ระลึก รวมถึงธุรกิจต่างๆที่เป็นสปอนเซอร์ให้กับการแข่งขัน เป็นต้น ซึ่งต้องปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อส่งเสริมการขายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะไม่เป็นอุปสรรคต่อธุรกิจพนันฟุตบอลที่คาดว่าจะยังคงคึกคักเช่นการแข่งขันครั้งก่อนๆ โดยจากการสำรวจพฤติกรรมเรื่อง ”คนไทยกับการแข่งขันฟุตบอลยูโร2008” จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 2,598 ชุด กระจายตามกลุ่มประชาชนภาคต่างๆทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1-15 พฤษภาคม 2551 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า กลุ่มผู้เล่นพนันฟุตบอลยูโร 2008 จะมีเงินสะพัดเพื่อการเล่นพนันฟุตบอลยูโร2008 ตลอดฤดูการแข่งขันทั่วประเทศประมาณ 41,000 ล้านบาทเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการแข่งขันยูโร 2004 ซึ่งมีเม็ดเงินสะพัดประมาณ 33,000 ล้านบาท ในขณะเดียวกัน มีประเด็นที่น่าสนใจคือโอกาสหรือแนวโน้มความเสี่ยงของการเป็นหนี้จำนวนมากของนักพนันภายหลังจากจบฤดูการแข่งขัน เนื่องจากเงินที่นำมาใช้เล่นพนันฟุตบอลส่วนใหญ่มาจากแหล่งเงินที่กู้ยืมร้อยละ 67.5 โดยมีเพียงร้อยละ 27.0 ของเงินที่ใช้เล่นพนันฟุตบอลที่มาจากเงินเก็บหรือเงินสะสมของตนเอง และร้อยละ 5.5 เป็นเงินได้จากการทำงานพิเศษ อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ กลุ่มผู้ที่จะเล่นพนันฟุตบอลยูโร 2008 ในครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะเลือกเล่นกับโต๊ะพนันซึ่งแตกต่างจากการสำรวจการเล่นพนันฟุตบอลยูโร 2004 ซึ่งในครั้งนั้นกลุ่มผู้ที่เล่นพนันฟุตบอลส่วนใหญ่จะเล่นกับเพื่อนด้วยกันเอง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ปัจจุบันการเล่นพนันผ่านโต๊ะพนันฟุตบอลได้แพร่หลายในสังคมไทยและยังเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยมีปัจจัยส่งเสริมและสนับสนุนจากการแพร่หลายของโต๊ะพนันฟุตบอลที่ตั้งอยู่ตามแหล่งชุมชน สถานศึกษา ที่พักอาศัย ทำให้ปัจจุบันคนไทยสามารถเสาะหาได้ไม่ยากนัก ซึ่งผลสำรวจที่ได้นับเป็นปัจจัยที่น่าเป็นห่วงต่อสังคมไทยในปัจจุบันซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดและจริงจังมากขึ้น เนื่องจากการเล่นพนันฟุตบอลส่งผลเสียต่อปัญหาสังคมและเศรษฐกิจทั้งปัญหาการทะเลาะเบาะแว้งในครอบครัว ระหว่างเพื่อนฝูง ปัญหาการลักขโมยทรัพย์สิน การขายยาเสพติด เพื่อนำเงินมาใช้หนี้พนัน และที่รุนแรงก็คือการทำร้ายร่างกายเพื่อทวงหนี้พนันที่ติดค้างซึ่งพบว่าบางกรณีรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตทีเดียว

ฟุตบอลยูโร 2008 : เซียนพนันคึก…รับศึกฟาดแข้งยอดนิยม

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหรือยูโร 2008 ถือเป็นการแข่งขันฟุตบอลที่คนไทยเฝ้าติดตามลุ้นผลการแข่งขันอย่างใจจดใจจ่อ เนื่องจากรายการแข่งขันนี้เกิดขึ้นเพียง 4 ปีต่อครั้ง อีกทั้งทีมที่เข้าร่วมแข่งขันล้วนแล้วแต่เป็นทีมที่มีทักษะการเล่นที่ดีเยี่ยมของประเทศยุโรป ส่งผลให้การแข่งขันมีความตื่นเต้นเร้าใจ สร้างความสนุกสนานให้กับผู้ที่ติดตามชมมากกว่าการแข่งขันฟุตบอลรายการทั่วไป ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่า ในการแข่งขันฟุตบอลยูโร2008 จะมีเม็ดเงินสะพัดจากการเล่นพนันฟุตบอลเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2004 ครั้งที่ผ่านมาโดย มีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้

1.จำนวนผู้เล่นพนันฟุตบอลรายใหม่เพิ่มขึ้น
ในแต่ละปีจะมีกลุ่มผู้สนใจเล่นพนันฟุตบอลรายใหม่เพิ่มขึ้น ในขณะที่กลุ่มผู้เล่นพนันฟุตบอลรายเดิมก็ยังคงมีแนวโน้มที่จะเล่นพนันต่อเนื่อง ดังจะพิจารณาได้จากผลการสำรวจซึ่งพบว่ากลุ่มผู้ที่เล่นพนันฟุตบอลรายเดิมซึ่งเคยเล่นพนันฟุตบอลยูโร2004 มีแนวโน้มจะตามมาเล่นพนันฟุตบอลยูโร 2008 ในสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 97.6 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจ โดยมีเพียงร้อยละ 2.4 ของผู้ที่เคยเล่นพนันฟุตบอลยูโร2004 ที่ไม่ได้ตามมาเล่นพนันในครั้งนี้ ในขณะที่กลุ่มที่ไม่ได้เล่นพนันฟุตบอลยูโร2004 แต่หันมาเล่นพนันฟุตบอลยูโร 2008 ซึ่งถือได้ว่าเป็นกลุ่มผู้เล่นรายใหม่นั้น จากการสำรวจพบว่ามีสัดส่วนถึงร้อยละ 43.0 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจ ในขณะที่มีสัดส่วนร้อยละ 57.0 ที่ไม่เล่นพนันฟุตบอลยูโรทั้งสองครั้ง ซึ่งผลจากการสำรวจแสดงให้เห็นว่ามีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายรายใหม่ๆสนใจเข้าสู่วงการเล่นพนันฟุตบอลเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงจะถูกชักจูงด้วยการวางเงื่อนไขให้เล่นพนันโดยใช้เงินเริ่มต้นไม่มากนักเพียงหลักสิบหรือหลักร้อยบาทเพื่อให้เข้ามาเป็นลูกค้าประจำก่อน โดยคาดหวังว่าวงเงินพนันจะเพิ่มสูงขึ้นหากกลุ่มนี้มีรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า หากแยกกลุ่มผู้เล่นพนันฟุตบอลตามกลุ่มอาชีพพบว่า กลุ่มที่ไม่เคยเล่นพนันฟุตบอลยูโร2004 แต่หันมาเล่นพนันฟุตบอลยูโร 2008 ในส่วนของกลุ่มนักเรียน/นักศึกษา มีสัดส่วนสูงที่สุดประมาณร้อยละ 52.7 รองลงมาได้แก่กลุ่มอาชีพค้าขาย/กิจการส่วนตัวมีสัดส่วนร้อยละ 42.2 กลุ่มอาชีพข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจสัดส่วนร้อยละ 33.9 อาชีพรับจ้างมีสัดส่วนร้อยละ 33.7 และอาชีพพนักงานบริษัทเอกชนมีสัดส่วนร้อยละ 31.0

2.วงเงินเดิมพันเฉลี่ยต่อคนเพิ่มขึ้นจาก 4,000 บาท เป็น 5,000 บาท
ผลจากราคาสินค้าและบริการที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามปัจจัยด้านราคาน้ำมัน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวมีผลกระทบโดยตรงต่อวงเงินที่นักพนันคาดว่าจะใช้เล่นพนันฟุตบอลยูโร2008 เป็นอย่างมาก กล่าวคือกลุ่มที่คาดว่าจะเล่นพนันฟุตบอลยูโร 2008 จะเพิ่มวงเงินพนันให้สูงขึ้นจากการเล่นพนันฟุตบอลยูโรครั้งก่อน โดยเซียนพนันที่เพิ่มวงเงินเดิมพันมีการคาดหวังว่าหากชนะก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นได้ อีกทั้งผู้เล่นยังมีความเชื่อว่าการเล่นพนันฟุตบอลมีความเสี่ยงน้อยกว่าเล่นหวยใต้ดิน ซึ่งหากแทงเลขท้าย 2 ตัวโอกาสถูกมีเพียง 1 ต่อ 100 ในขณะที่พนันฟุตบอลเลือกเพียง 2 ทางคือทีมใดทีมหนึ่ง ทำให้มีโอกาสชนะมากกว่า ดังนั้นการทุ่มเงินพนันฟุตบอลเพื่อเป็นช่องทางหารายได้เสริมจึงคาดว่าจะมีวงเงินเพิ่มขึ้นในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร2008 โดยจากการสำรวจพบว่าผู้เล่นพนันฟุตบอลยูโร2008 จะใช้เงินในการเล่นพนันฟุตบอลยูโร2008 เฉลี่ยตลอดฤดูการแข่งขันประมาณ 5,000 บาทต่อคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับการแข่งขันฟุตบอลยูโรครั้งที่ผ่านมาที่เล่นเฉลี่ยตลอดฤดูการประมาณ 4,000 บาทต่อคน

3.ความถี่ในการเล่นทุกคู่สูงสุดร้อยละ 31.6
สำหรับความถี่หรือจำนวนคู่ที่มีการเล่นพนันในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2008 พบว่า ส่วนใหญ่นักพนันจะเล่นทุกคู่คิดเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 31.6 ของผู้ตอบแบบสอบถาม รองลงมาได้แก่เล่นเฉพาะคู่ชิงชนะเลิศสัดส่วนร้อยละ 19.7 เล่นรอบ 8 ทีมสุดท้ายสัดส่วนร้อยละ 16.3 เล่นพนันรอบรองชนะเลิศและรอบ 16 ทีมสุดท้ายมีสัดส่วนเท่ากันคือร้อยละ 16.2 ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า กลุ่มที่สนใจเล่นพนันฟุตบอลยูโร2008 ทุกคู่ถือเป็นเซียนพนันที่เล่นเป็นประจำและหวังผลทางด้านรายได้ ในขณะที่กลุ่มอื่นๆจะเป็นกลุ่มที่เล่นพนันเพื่อความสนุกสนานหรือเพิ่มอรรถรสในการชมฟุตบอลโดยไม่หวังผลทางด้านรายได้มากนักโดยเฉพาะกลุ่มที่เล่นพนันเฉพาะรอบรองชนะเลิศหรือรอบชิงชนะเลิศและหากพิจารณาจากผลแบบสอบถามแยกตามอาชีพแล้วจะพบประเด็นที่น่าสนใจว่ากลุ่มอาชีพที่มีแนวโน้มเล่นพนันฟุตบอลยูโร2008 ในสัดส่วนที่สูงคืออาชีพรับจ้าง รองลงมาได้แก่อาชีพค้าขาย/กิจการส่วนตัว พนักงานบริษัทเอกชน และนักเรียน/นักศึกษา ส่วนอาชีพที่มีแนวโน้มจะเล่นพนันทุกคู่คิดเป็นสัดส่วนน้อยที่สุดได้แก่อาชีพข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ

4.กลุ่มที่เล่นพนันฟุตบอลส่วนใหญ่ชอบความเสี่ยง
จากการสอบถามกลุ่มที่มีแนวโน้มเล่นพนันฟุตบอลยูโร2008 พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 99.0 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจจะมีการลงทุนที่มีความเสี่ยงหรือเล่นพนันประเภทต่างๆ และมีเพียงร้อยละ 1.0 ที่ไม่ชอบเล่นพนันหรือลงทุนที่มีความเสี่ยง ดังนั้นเมื่อการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ได้รับความสนใจระดับนานาชาติเวียนมาครบรอบอีกครั้ง จึงส่งผลให้กลุ่มที่ชอบเสี่ยงไม่พลาดที่จะเข้าร่วมด้วย

ทั้งนี้ประเภทของการลงทุนหรือการพนันที่มีการเล่นส่วนใหญ่จะเล่นพนันฟุตบอลในสัดส่วนสูงที่สุดร้อยละ 55.4 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจ รองลงมาได้แก่หวยใต้ดินมีสัดส่วนร้อยละ 14.3 ล็อตเตอรี่มีสัดส่วนร้อยละ 12.3 เล่นไพ่/ไฮโลมีสัดส่วนร้อยละ 9.5 เล่นพนันมวยมีสัดส่วนร้อยละ 5.7 เล่นพนันแข่งม้ามีสัดส่วนร้อยละ 1.7 เล่นหุ้นมีสัดส่วนร้อยละ 0.4 การพนันประเภทอื่นๆอาทิ ตีไก่ กัดปลา สนุ๊กเกอร์ มีสัดส่วนร้อยละ 0.5

5.ความแพร่หลายของแหล่งข้อมูล
ปัจจุบันมีสื่อรูปแบบต่างๆเป็นจำนวนมากอาทิ หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ อินเทอร์เน็ตที่ให้ข้อมูลรายละเอียดของการแข่งขันฟุตบอลคู่ต่างๆทั้งรายละเอียดผู้เล่นแต่ละทีม รายละเอียดความพร้อมของทีม รวมทั้งข้อมูลอัตราต่อรองที่ลงรายละเอียด และที่มีส่วนสำคัญก็คือการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลจากต่างประเทศผ่านสื่อโทรทัศน์ หรืออินเทอร์เน็ต ซึ่งมีแทบจะทุกวันๆละหลายคู่ ทำให้สามารถติดตามและลุ้นผลการแข่งขันได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่จูงใจให้มีการตัดสินใจเล่นพนันฟุตบอลเพิ่มขึ้น

6.รูปแบบของการเล่นพนันฟุตบอลที่จูงใจ ปัจจุบัน โต๊ะพนันฟุตบอลได้มีการพัฒนาเทคนิคและรูปแบบการเล่นพนันให้มีความหลากหลายเพื่อจูงใจนักเล่นที่มีรายได้น้อยในกลุ่มนักเรียน/นักศึกษาให้เข้ามาเล่นพนัน โดยผู้เล่นสามารถใช้เงินจำนวนน้อยเพียง 50 บาทหรือ 100 บาท ก็มีสิทธิที่จะรับผลตอบแทนในอัตราที่สูง โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่โต๊ะพนันแต่ละแห่งตั้งไว้จูงใจอาทิ หากเล่นบอลชุด ทายผล 5 คู่ด้วยจำนวนเงิน 100 บาทหากทายถูกทุกคู่จะได้ผลตอบแทนถึงประมาณ 32 เท่าหรือประมาณ 3,200 บาท แต่หากทายผิดคู่ใดคู่หนึ่งก็จะไม่ได้เงินทันที ซึ่งการเล่นบอลชุดนั้น ส่วนใหญ่ขั้นต่ำจะเริ่มต้นตั้งแต่ 3 คู่ขึ้นไป นอกจากนี้โต๊ะพนันบอลยังมีวิธีเล่นประเภทอื่นๆอาทิ ทายผลรวมของประตูได้เสียว่าจะออกมาเป็นคู่หรือคี่ หรือทายผลรวมการทำประตูแบบสูงต่ำตามอัตราต่อรองที่ตั้งไว้ อาทิ ยิง 2 ประตูถือว่าสูงสำหรับคู่A หรือยิง 3 ประตูจึงถือว่าสูงสำหรับคู่B ที่ระดับฝีมือต่างกันพอสมควร เป็นต้น

ฟุตบอลยูโร 2008 : ภาคประชาชนเตรียมก่อหนี้…ระดมทุนเล่นพนัน

เงินที่ใช้เล่นพนันฟุตบอล : มาจากการกู้ยืมร้อยละ 67.5
จากการสอบถามถึงแหล่งเงินที่คาดว่านักพนันจะหามาเพื่อใช้เล่นพนันฟุตบอลยูโร2008 พบว่าส่วนใหญ่มาจากแหล่งเงินที่กู้ยืมถึงร้อยละ 67.5 ซึ่งในส่วนนี้แยกออกเป็น เงินที่ได้จากการยืมเพื่อนมีสัดส่วนร้อยละ 20.5 ยืมจากญาติ/คนในครอบครัวมีสัดส่วนร้อยละ 13.5 ใช้บริการโรงรับจำนำมีสัดส่วนร้อยละ 10.3 กู้ยืมเงินจากธนาคารมีสัดส่วนร้อยละ 9.7 กู้ยืมจากบัตรเครดิตมีสัดส่วนร้อยละ 7.5 จากเงินกู้นอกระบบมีสัดส่วนร้อยละ 6.0 และมีเพียงร้อยละ 27.0 ของเงินที่ใช้เล่นพนันฟุตบอลที่มาจากเงินเก็บหรือเงินสะสมของตนเองและร้อยละ 5.5 ที่เป็นเงินได้จากการทำงานพิเศษ ซึ่งจากข้อมูลการสำรวจที่ได้ดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงโอกาสหรือแนวโน้มความเสี่ยงของการเป็นหนี้ของนักพนันภายหลังจากจบฤดูการแข่งขันที่สูง และเป็นที่น่าสังเกตว่า กลุ่มอาชีพที่ใช้เงินเก็บและเงินที่ได้จากการทำงานพิเศษเป็นแหล่งเงินเล่นพนันฟุตบอลในสัดส่วนสูงที่สุดได้แก่ กลุ่มข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจและพนักงานบริษัทเอกชนโดยมีสัดส่วนการใช้ร้อยละ 35.3 และร้อยละ 34.6 ตามลำดับ ส่วนอาชีพที่ใช้เงินเก็บและเงินที่ได้จากการทำงานพิเศษเล่นพนันฟุตบอลในสัดส่วนที่ต่ำสุดได้แก่กลุ่มนักเรียน/นักศึกษามีสัดส่วนการใช้ร้อยละ 31.8

รายได้จากการเล่นพนันฟุตบอล : บางส่วนไหลกลับสู่โต๊ะพนัน
จากการสอบถามกลุ่มผู้ที่เล่นพนันฟุตบอลถึงรายได้จากการเล่นพนันฟุตบอลจะนำไปใช้จ่ายในส่วนใดบ้าง ซึ่งจากผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่เงินรายได้จากการเล่นพนันฟุตบอลจะถูกนำไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อน/ญาติมีสัดส่วนร้อยละ 21.3 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจ รองลงมาได้แก่ใช้เป็นทุนในการเล่นพนันครั้งต่อไปมีสัดส่วนร้อยละ 20.2 นำไปเก็บออมมีสัดส่วนร้อยละ 18.0 นำไปใช้หนี้สัดส่วนร้อยละ 16.8 นำไปใช้ซื้อสินค้าที่อยากได้สัดส่วนร้อยละ 15.8 และนำเงินไปท่องเที่ยวต่างประเทศสัดส่วนร้อยละ 7.8 ซึ่งผลจากการสำรวจดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าผู้เล่นพนันจะนำเงินที่ได้ไปชำระหนี้และการเก็บออมเพียงร้อยละ 35 ส่วนอีกร้อยละ 65 จะถูกนำไปจับจ่ายเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการ รวมทั้งนำเงินที่ได้ดังกล่าวไปเล่นพนันฟุตบอลคู่อื่นๆต่อไป ซึ่งหากผู้เล่นพนันไม่มีการบริหารจัดการทางการเงินที่ดีก็อาจมีผลให้ผู้เล่นพนันมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้นเมื่อเสร็จสิ้นฤดูกาลแข่งขันฟุตบอลยูโร2008

โต๊ะบอลยิ้มร่า : เซียนพนันหันมาใช้บริการเพิ่ม
จากการสอบถามพบว่า กลุ่มผู้ที่จะเล่นพนันฟุตบอลยูโร 2008 ในครั้งนี้ ส่วนใหญ่ร้อยละ 58.5 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจจะเล่นกับโต๊ะพนัน(ผู้ตอบแบบสอบถามระบุสถานที่เช่น ที่ทำงาน หน้ามหาวิทยาลัย บริเวณวินมอเตอร์ไซด์แถวบ้าน ตลาดแถวบ้าน และบริเวณที่พักอาศัยแถวบ้าน เป็นต้น) รองลงมาได้แก่เล่นกับกลุ่มเพื่อนด้วยกันเองหรือคนรู้จักคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 41.0 และอื่นๆร้อยละ 0.5 ทั้งนี้ผลสำรวจที่ได้ดังกล่าวมีความแตกต่างจากการสำรวจการเล่นพนันฟุตบอลยูโร2004 ซึ่งในครั้งนั้นกลุ่มผู้ที่เล่นพนันฟุตบอลส่วนใหญ่จะเล่นกับเพื่อนด้วยกันเองคิดเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 62.3 ของผู้ตอบแบบสอบถาม ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวอาจสะท้อนให้เห็นว่า ปัจจุบันโต๊ะพนันฟุตบอลได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นและสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้โดยตรงโดยลดขั้นตอนการผ่านคนกลางหรือคนรับโพยบอล ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า กลุ่มผู้ที่มีรายได้สูงมีแนวโน้มที่จะเล่นพนันผ่านโต๊ะพนันบอลในสัดส่วนที่สูงกว่ากลุ่มที่มีรายได้ต่ำกล่าวคือกลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อเดือนจะเล่นพนันผ่านโต๊ะพนันบอลในสัดส่วนที่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ส่วนผู้ที่มีรายได้มากกว่า 20,000 บาทต่อเดือนส่วนใหญ่จะเล่นพนันผ่านโต๊ะบอลในสัดส่วนที่สูงมากกว่าร้อยละ 60

การพนันฟุตบอล : ผลกระทบเชิงสังคมที่ต้องติดตามใกล้ชิด

ทันทีที่การแข่งขันฟุตบอลยูโร2008 เริ่มต้นขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 7-29 มิถุนายน 2551 ได้ส่งผลกระทบไปถึงธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวข้องอาทิ ธุรกิจโฆษณา ธุรกิจสื่อสารมวลชน ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ธุรกิจร้านอาหาร สถานบันเทิง ธุรกิจจำหน่ายสินค้าที่ระลึก รวมถึงธุรกิจต่างๆที่เป็นสปอนเซอร์ให้กับการแข่งขัน ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจพนันประเภทอื่นๆนอกเหนือจากพนันฟุตบอลก็มีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ถือเป็นข้อดีที่ภาคประชาชนจะสามารถลดวงเงินที่ใช้เล่นพนันต่างๆลงได้บางส่วน อย่างไรก็ตาม ผลเสียที่ต้องติดตามต่อไปนั่นคือวงเงินที่ภาคประชาชนปรับลดจากการเล่นพนันในส่วนอื่นๆได้ถูกปรับมาใช้สำหรับเล่นพนันฟุตบอล ซึ่งนับเป็นประเด็นที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่า ทั้งนี้เนื่องจากการพนันประเภทต่างๆจะมีช่วงเวลาการเล่น อาทิ หวยใต้ดินประมาณ15 วันต่อครั้ง แข่งม้าและแข่งขันมวยที่มีการถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์ประมาณอาทิตย์ต่อครั้ง แต่การเล่นพนันฟุตบอลยูโร2008 มีให้เล่นตั้งแต่คู่แรกที่เริ่มแข่งในวันที่ 7 มิถุนายนไปจนถึงคู่สุดท้ายที่แข่งกันในวันที่ 29 มิถุนายน รวม 31 นัด ซึ่งมากกว่าการเล่นหวยใต้ดินที่มีการเล่นประมาณ 24 ครั้งต่อปีเท่านั้น

ทั้งนี้จากการสอบถามถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเล่นพนันฟุตบอลพบประเด็นที่น่าสนใจสสรุปได้ดังนี้
ผลกระทบจากเล่นพนันฟุตบอล : สูญทรัพย์สินถึงร้อยละ 50.4
จากการสอบถามถึงผลเสียจากการเล่นพนันฟุตบอลจากกลุ่มที่มีการเล่นพนันหรือมีเพื่อนที่เล่นพนันฟุตบอลพบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 50.4 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจเห็นว่าผลเสียที่ชัดเจนจากการเล่นพนันฟุตบอลคือทำให้ผู้เล่นสูญเสียทรัพย์สินทั้งของตนเองและครอบครัว รองลงมาได้แก่ เสียการเรียนมีสัดส่วนร้อยละ 15.8 เสียการงานมีสัดส่วนร้อยละ 11.1 ทำให้เกิดการทะเลาะกับคนในครอบครัวมีสัดส่วนร้อยละ 10.7 ทำให้เสียเพื่อนมีสัดส่วนร้อยละ 7.0 และเสียเครดิตกับสถาบันการเงินมีสัดส่วนร้อยละ 2.9
นักพนันฟุตบอลเคยเล่นเสียแล้วไม่มีเงินจ่ายร้อยละ 22.2
จากการสอบถามถึงกลุ่มผู้เล่นพนันฟุตบอลพบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 77.8 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจไม่เคยติดหนี้พนัน ส่วนที่เคยติดหนี้พนันฟุตบอลมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 22.2 โดยวงเงินที่เคยติดสูงสุดเฉลี่ยประมาณ 5,000 บาทต่อคน โดยหากแยกตามอาชีพแล้วจะพบว่ากลุ่มอาชีพข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจเคยติดหนี้พนันฟุตบอลสูงสุดเฉลี่ยประมาณ 30,000บาทต่อคน รองลงมาได้แก่อาชีพค้าขาย/กิจการส่วนตัวเคยติดหนี้สูงสุดเฉลี่ย 20,000 บาทต่อคน กลุ่มพนักงานบริษัทเอกชนเคยติดหนี้สูงสุดเฉลี่ยประมาณ 10,000 บาทต่อคน กลุ่มอาชีพรับจ้างเคยติดหนี้สูงสุดเฉลี่ยประมาณ 5,000 บาทต่อคน และกลุ่มนักเรียน/นักศึกษาเคยติดหนี้สูงสุดเฉลี่ยประมาณ 2,000 บาทต่อคน

ติดหนี้พนันฟุตบอล : ถึงขั้นเสียทรัพย์และกระทบถึงเพื่อนฝูง
และจากการสอบถามถึงแนวทางการแก้ปัญหาของกลุ่มที่เคยติดหนี้พนันฟุตบอลพบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 27.7 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจจะใช้วิธียืมเงินเพื่อน รองลงมาได้แก่การนำสิ่งของไปจำนำสัดส่วนร้อยละ 19.8 ผ่อนจ่ายเป็นรายงวดสัดส่วนร้อยละ 14.0 ขอเงินจากพ่อแม่สัดส่วนร้อยละ 13.5 ติดเงินพนันไว้ก่อนสัดส่วนร้อยละ 13.1 กู้เงินนอกระบบสัดส่วนร้อยละ 7.2 การขอสินเชื่อจากธนาคารมีสัดส่วนร้อยละ 2.5 หนีการทวงหนี้ไปต่างจังหวัดสัดส่วนร้อยละ 1.6 และย้ายที่อยู่ที่ทำงานสัดส่วนร้อยละ 0.5

สรุปและเสนอแนะ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ไม่เห็นด้วยกับการเล่นพนันฟุตบอล ไม่ว่าจะเล่นเพื่อความสนุกสนานหรือเล่นเพื่อมุ่งหวังทางด้านรายได้ ทั้งนี้เพราะพิษภัยจากการเล่นพนันฟุตบอลนั้นมีมากมาย เพราะแม้ว่าจะเป็นเพียงการเล่นเพื่อความสนุกสนานเพียงหลักร้อยบาทต่อครั้งในวันนี้แต่ก็มีโอกาสที่จะพัฒนาไปสู่การเล่นในหลักพันบาทหรือหมื่นบาทต่อคู่เพื่อมุ่งหวังทางรายได้ในอนาคตข้างหน้า หากกลุ่มที่เล่นพนันมีความเชื่อว่าจะสามารถหารายได้โดยวิธีง่ายๆ ซึ่งท้ายที่สุดก็จะติดในวังวนของการพนันที่ยากจะเลิกได้ เนื่องจากกลุ่มที่เล่นได้ก็จะมีความเชื่อมั่นในดวงหรือโชคของตนเอง ในขณะที่กลุ่มที่เล่นพนันเสียก็จะขวนขวายหาเงินมาเล่นพนันเพื่อให้ได้ทุนคืนจนถลำลึกและถอนตัวไม่ขึ้น สร้างปัญหาทั้งทางด้านครอบครัว สังคม และเศรษฐกิจติดตามมา ดังนั้นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเข้ามาวางมาตรการป้องกันและปราบปรามการเล่นพนันฟุตบอลซึ่งได้แพร่หลายเข้าสู่ระบบและภาคส่วนต่างๆทั้งในสถานศึกษาตั้งแต่ในระดับประถมไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัย รวมไปถึงกลุ่มอาชีพต่างๆทั้งพนักงานบริษัทเอกชน กลุ่มอาชีพค้าขาย/กิจการส่วนตัว อาชีพรับจ้าง กลุ่มข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ รวมทั้งไม่จำกัดทางด้านเพศเพราะมีทั้งกลุ่มผู้ชายและผู้หญิงที่เล่นพนันฟุตบอลในระดับที่ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก
ทั้งนี้ที่ผ่านมาภาครัฐโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ให้ความสนใจติดตามปราบปรามการเล่นพนันฟุตบอลอย่างต่อเนื่อง และยิ่งในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร2008 การเล่นพนันฟุตบอลย่อมจะมีมากกว่าช่วงปกติ ส่งผลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการวางมาตรการป้องกันและปราบปรามการเล่นพนันฟุตบอลในช่วงการแข่งขันยูโร2008 อย่างจริงจัง อาทิ การจัดตั้งศูนย์ปราบปรามการพนันทายผลฟุตบอลยูโร2008 ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเป็นพื้นที่ซึ่งมีการเล่นพนันฟุตบอลและมีเจ้ามือที่เป็นโต๊ะพนันจำนวนมาก โดยจะมีการกวดขันผู้เล่น คนเดินโพยที่ทำหน้าที่รับใบพนันไปส่งต่อ และโต๊ะพนัน รวมไปถึงการใช้กฎหมายฟอกเงินเพื่อยึดทรัพย์เจ้ามือหรือโต๊ะพนันฟุตบอลรายใหญ่อีกด้วย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า การป้องปรามการเล่นพนันฟุตบอลให้บรรเทาเบาบางลงได้ ควรมีการควบคุมกวดขันให้มากเป็นพิเศษ กับโต๊ะพนันฟุตบอลที่ตั้งอยู่ใกล้สถานศึกษาและที่พักอาศัยซึ่งเป็นจุดที่นักพนันส่วนใหญ่จะสามารถเดินทางไปเล่นด้วยตนเองได้ง่าย ทั้งนี้เพราะนักพนันจะให้ความสำคัญกับความสะดวกและความปลอดภัยจากการจับกุมเป็นปัจจัยหลักในการเล่นพนันฟุตบอล ซึ่งหากเห็นว่ามีความเสี่ยงสูงจะช่วยปรามหรือบั่นทอนความต้องการเล่นพนันฟุตบอลให้น้อยลง ในขณะเดียวกันสถาบันครอบครัวและสถาบันการศึกษาควรเข้ามามีส่วนร่วมและมีบทบาทในการสอดส่องดูแลนักเรียน/นักศึกษา และลูกหลานของตนเองมากขึ้น เนื่องจากถือเป็นผู้ที่ใกล้ชิดที่สามารถสังเกตเห็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร2008 อาทิ ความเครียดที่เพิ่มขึ้น การใช้จ่ายเงินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติ ทรัพย์สินเงินทองที่สูญหาย การขาดเรียน การทะเลาะเบาะแว้งของคนในครอบครัว และระหว่างเพื่อน ซึ่งหากทุกฝ่ายดังที่กล่าวข้างต้นร่วมมือและประสานการทำหน้าที่อย่างจริงจัง ปัญหาการเล่นพนันฟุตบอลยูโร2008 ก็จะบรรเทาเบาบางลงได้ในที่สุด