‘เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์’ โชว์กำไรครึ่งปีแรก 239.83 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 134.23 % “สุริยน” เผยพอใจผลงานโตต่อเนื่องทุกไตรมาส ไม่หวั่นเศรษฐกิจชะลอ เดินหน้าดันยอดขายขยายตัวตามเป้า ล่าสุดตั้งบริษัทย่อยรุกธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ท-สปา หวังต่อยอดธุรกิจคอนโดฯ ประเดิมโครงการแรกที่หัวหิน มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติระดับ A+
นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2551 (มกราคม-มิถุนายน 2551) ว่า MJD สามารถทำรายได้รวมจำนวน 1,298.49 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนซึ่งมีรายได้รวม 834.06 ล้านบาท คิดเป็น 55.68% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 239.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 137.44 ล้านบาท หรือ 134.23% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 102.39 ล้านบาท
ส่วนในไตรมาส 2 ของปี 2551 (เมษายน – มิถุนายน 2551) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 128.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69.32 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 59.27 ล้านบาท คิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 116.96 % ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 683.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.18% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2550 ที่มีรายได้ 461.56 ล้านบาท
“กำไรที่เพิ่มขึ้นเนื่องมาจากบริษัทฯ มีรายได้จากการขายโครงการเพิ่มขึ้นกว่า 465.21 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 56.48% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่น่าพอใจ โดยมีปัจจัยการเติบโตมาจากที่ บริษัทมีการรับรู้รายได้เพิ่มจาก 3 โครงการเดิมคือ โครงการวอเตอร์มาร์ค เจ้าพระยาริเวอร์ ทาวเวอร์ เอ,โครงการแมนฮัตตัน ชิดลม และ โครงการฟูลเลอตัน สุขุมวิท และอีก 4 โครงการใหม่ในปีนี้ คือ โครงการวอเตอร์มาร์ค เจ้าพระยาริเวอร์ ทาวเวอร์ บี, โครงการวินด์ สุขุมวิท 23, โครงการวินด์ รัชโยธิน และ โครงการมิคโคนอส หัวหิน รวมถึงผลจากภาษีธุรกิจเฉพาะและค่าธรรมเนียมการโอน ที่ลดลงจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่มีการลดภาษีธุรกิจเฉพาะและค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์เหลือร้อยละ 0.11 และ 0.01 ตามลำดับ ซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2551” นายสุริยน กล่าว
ขณะเดียวกันในไตรมาส 2 นี้ MJD ยังมียอดขาย Presale จำนวนมาก หลังจากการเปิดตัวโครงการใหม่ครบแล้วทั้ง 3 โครงการ ได้แก่ โครงการรอยซ์ ไพรเวท เรสซิ เดนท์ส สุขุมวิท 31, โครงการ มาราเกซ (Marrakesh) หัวหิน และโครงการ “รีเฟล็คชั่น จอมเทียน บีช พัทยา
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MJD กล่าวอีกว่า ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ถือว่าเติบโตได้ดี ถึงแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจ และการเมืองจะอยู่ในภาวะผันผวน ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับยอดขายของบริษัทฯ เพราะโครงการของ MJD เป็นสินค้าระดับไฮเอนด์ ซึ่งมุ่งขายให้กับลูกค้าที่มีกำลังซื้อมาก ซึ่งจะเห็นได้จากยอดขายครึ่งปีแรก ก็เป็นที่พอใจ เนื่องจากทุกโครงการของบริษัทฯ ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี และมีความโดดเด่นเฉพาะตัวในการออกแบบ ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่ายอดขายทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้
“ต้องยอมรับว่าหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้เราเป็นที่รู้จักมากขึ้น บวกกับการที่หุ้น MJD ติดรายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนี SET100 ก็ส่งผลดีต่อบริษัทฯ เนื่องจากเป็นปัจจัยที่กระตุ้นความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันได้เป็นอย่างมาก” นายสุริยน กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนในการรุกธุรกิจโรงแรม ซึ่งเป็นการต่อยอดธุรกิจเดิมของบริษัทฯ โดยล่าสุดได้จัดตั้งบริษัทย่อย คือ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ทส์ จำกัด เพื่อรองรับการลงทุนในธุรกิจโรงแรมระดับ 5 ดาว ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลักดันผลการดำเนินงานในอนาคตให้เติบโตอย่างมั่นคง
“เรามองว่า คอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยม กับธุรกิจโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว เป็นธุรกิจที่ไปด้วยกันได้ โดยที่ถ้ามีที่ดินแปลงไหนทำคอนโดฯ และโรงแรมได้ด้วย บริษัทฯ จะพัฒนาไปพร้อมๆ กัน ซึ่งจะเน้นทำเลเมืองท่องเที่ยวเป็นหลัก เช่น หัวหิน พัทยา เป็นต้น ซึ่งคาดว่าภายใน 2 ปี จะสามารถรับรู้รายได้จากบริษัทย่อยได้”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MJD กล่าวทิ้งท้าย
บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของคนไทยที่มุ่งเน้นพัฒนาที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย ประเภทคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ โดยเน้นพัฒนาโครงการที่มีจุดขายที่แตกต่างและชัดเจน มุ่งเน้นการนำเสนอนวัตกรรมและแนวคิดใหม่ๆ ในการเพิ่มคุณค่าของโครงการ เพื่อประโยชน์สูงสุดกับผู้พักอาศัย และได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าระดับบนเสมอมา โดยยังคงเน้นที่คุณภาพระดับพรีเมี่ยมที่เป็นจุดเด่นและความเป็นมืออาชีพของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์
