กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ กำหนดจัดพิธีประกาศเกียรติคุณและมอบรางวัลผู้ส่งออกสินค้าและบริการดีเด่น ประจำปี 2551 หรือ Prime Minister’s Export Award 2008 (PM’s Export Award 2008) ในวันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม 2551 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นายสมัคร สุนทรเวช เป็นประธานในพิธี และมอบรางวัลอันทรงเกียรติดังกล่าว
โครงการประกาศเกียรติคุณผู้ส่งออกสินค้าและบริการดีเด่น หรือ PM’s Export Award ถือเป็นรางวัลสูงสุดที่รัฐบาลไทยมอบให้กับผู้ส่งออก โดยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนส่งเสริมภาพลักษณ์อันดีของสินค้าไทย พร้อมกระตุ้นให้ผู้ส่งออกได้พัฒนาคุณภาพและรูปแบบของสินค้า ให้มีคุณภาพได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับและสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก อันจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ
ในปี 2551 ซึ่งเป็นปีที่ 17 ของการมอบรางวัลนี้ ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการพิจารณารางวัล โดยหลักเกณฑ์ในการพิจารณารางวัลดังกล่าว จะคำนึงถึงทุกมิติของการประกอบการทั้งด้านคุณภาพของสินค้าและบริการ รวมทั้งการผลิตควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม และหลักธรรมาภิบาล ซึ่งผลการตัดสินมีบริษัทที่ได้รับรางวัลทั้งสิ้น จำนวน 31 บริษัท รวม 34 รางวัล แบ่งออกเป็น 5 ประเภทรางวัล ดังนี้
1. ประเภทผู้ส่งออกไทยดีเด่น (Best Exporter) จำนวน 4 บริษัท 4 รางวัล
2. ประเภทที่ใช้ตราสินค้าของตนเอง (Thai-Owned Brand) จำนวน 8 บริษัท 8 รางวัล
3. ประเภทสินค้าที่มีการออกแบบดี (Design Excellence Award) จำนวน 16 บริษัท 18 รางวัล
4. ประเภทธุรกิจบริการดีเด่น (Best Service Provider) จำนวน 3 บริษัท 3 รางวัล
5. ประเภทผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น ที่มีการออกแบบและคุณภาพดี (OTOP Export Recognition) จำนวน 1 บริษัท 1 รางวัล
โดยบริษัทผู้ได้รับรางวัลในปีนี้ ได้รับการคัดเลือกจากธุรกิจหลากหลาย อาทิ อุตสาหกรรมอาหารทะเลแช่แข็ง ของตกแต่งประดับบ้าน เครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงาน เฟอร์นิเจอร์ เซรามิคและอุปกรณ์ เครื่องปรับอากาศ ของเล่นเด็ก โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์อุตสาหกรรม ธุรกิจโรงพยาบาล ก่อสร้าง การศึกษา และเครื่องเบญจรงค์
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า “การประกาศผลรางวัลผู้ส่งออกสินค้าและบริการดีเด่น หรือ Prime Minister’s Export Award ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ตั้งแต่ ปี 2535 เพื่อสนับสนุนและให้กำลังใจแก่ผู้ประกอบการไทย ที่ผลิตสินค้าและบริการที่มีผลงานดีเด่น มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพในการผลิตสินค้าและบริการของตนเอง รวมถึงมีการออกแบบผลิตภัณฑ์จนเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับมาตรฐานคุณภาพสินค้าไทย สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดโลก อันจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม”
“ดังนั้น การให้รางวัลแก่บริษัทไทยนี้ จึงเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเชิงธุรกิจของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี ซึ่งกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ มีความคาดหวังว่าโครงการนี้ จะเป็นแรงผลักดันให้นักธุรกิจและผู้ประกอบการไทยมีกำลังใจในการสร้างตราสินค้าและพัฒนาศักยภาพในการส่งออก และแสวงหาโอกาสและช่องทางการค้าใหม่ๆ เพื่อขยายฐานการส่งออกไปยังตลาดใหม่ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น และทำให้การส่งออกสินค้าและบริการไทยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งในด้านปริมาณและมูลค่า” นายราเชนทร์กล่าว
ผู้ได้รับรางวัลนอกจากจะได้การรับรองคุณภาพจากรัฐบาลไทยแล้ว ยังได้รับสิทธิประโยชน์มากมายจากกรมส่งเสริมการส่งออก อาทิ ได้รับการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษในการสมัครเข้าร่วมกิจกรรมกับกรมส่งเสริมการส่งออก การประชาสัมพันธ์ธุรกิจในหนังสือ PM’s Export Award Directory และวารสารผู้ส่งออกรวมทั้งสื่อต่างๆ มากมายทั้งในและต่างประเทศ การได้รับสิทธิให้ใช้ตราสัญลักษณ์ตราสินค้าไทย (Thailand’s Brand) นอกจากนั้นยังจะได้รับการส่งเสริมการไปดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ (Internationalization) รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาตราสินค้า (Brand) สู่ตลาดโลกจากกรมส่งเสริมการส่งออกอีกด้วย
อนึ่ง โครงการประกาศเกียรติคุณผู้ส่งออกสินค้าและบริการดีเด่น หรือ PM’s Export Award นี้ เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาสินค้าไทยและบริการที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2535 ตลอดระยะเวลา 17 ปีที่ผ่านมา มีบริษัทผู้ส่งออกไทยที่ได้รับการคัดเลือกให้รับรางวัลแล้วกว่า 270 บริษัท รวมทั้งสิ้น 332 รางวัล ซึ่งโครงการนี้ช่วยส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้ส่งออกไทยเป็นที่รู้จักของลูกค้าในตลาดโลกมากขึ้น จนกระทั่งมีผลการดำเนินงานเติบโตและสามารถอยู่ได้ด้วยความมั่นคงทางธุรกิจ