เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายกฤช กุลเนตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เน็ตเวิร์ค แมเนจเม้นท์ จำกัด และนายวีรชัย วิภาตวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี รีเทล จำกัด ร่วมกันให้การต้อนรับนายศุภกร พุกกะพันธุ์ คอมเมอเชียล แมนเนเจอร์ บริษัท บูโร เวอริทัส เซอทิฟิเคชั่น(ประเทศไทย) จำกัด ในโอกาสเป็นตัวแทนของผู้บริหารมอบใบรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2000 ให้กับบริษัทเอสซีจี เน็ตเวิร์ค แมเนจเม้นท์ จำกัด ฝ่ายประสานงานขายและบริการ และบริษัท เอสซีจี รีเทล จำกัด ในโอกาสที่ทั้ง 2 หน่วยงานๆได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 : 2000 ณ ห้องประชุมของบริษัทท่ามกลางความยินดีของทีมงานที่ร่วมเป็นสักขีพยาน โดยมีนางวิมล นิสภกุลธร กรรมการ บริษัท ควอลิตี้ เทรนนิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ที่ปรึกษาการจัดทำระบบร่วมแสดงความยินดี
นายกฤช กุลเนตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เน็ตเวิร์ค แมเนจเม้นท์ จำกัด ธุรกิจจัดจำหน่ายเครือซิเมนต์ไทย เปิดเผยว่า แม้ว่างานของบริษัทจะเป็นงานด้านบริการ แต่ก็สามารถนำมาตรฐาน ISO 9001:2000 มาใช้ได้เพราะมาตรฐาน ISO 9001 : 2000 เป็นมาตรฐานสากลที่องค์กรธุรกิจทั่วโลกให้ความสำคัญ เพื่อความเป็นเลิศทางด้านคุณภาพ และความมีประสิทธิภาพของการดำเนินงานภายในองค์กร แนวคิดสำคัญของ ISO 9001 : 2000 คือ การจัดวางระบบบริหารงาน เพื่อการประกันคุณภาพซึ่งเป็นระบบที่ทำให้เชื่อมั่นได้ว่ากระบวนการต่างๆ ได้รับการควบคุม และสามารถตรวจสอบได้โดยผ่านเอกสารที่ระบุขั้นตอน และวิธีการทำงาน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบุคลากรในองค์กรรู้หน้าที่ความรับผิดชอบและขั้นตอนต่างๆ ในการปฏิบัติงาน โดยต้องมีการฝึกอบรมให้ความรู้และทักษะในการปฏิบัติงานมีการจดบันทึกข้อมูล รวมทั้งการตรวจสอบการปฏิบัติงานว่าเป็นไปตามที่ระบุไว้ในเอกสารหรือไม่ และมีการแก้ไขข้อผิดพลาดรวมทั้งมีแนวทางในการป้องกันข้อผิดพลาดเดิม โดยประโยชน์ที่ได้รับภายในองค์กรคือ การมีกระบวนการทำงานที่เป็นระบบยิ่งขึ้น , มีคุณภาพสินค้าที่ดีขึ้น , ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากของเสียได้อย่างเป็นรูปธรรม เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานดีขึ้น , มีระบบเอกสารที่ดีขึ้น สำหรัยประโยชน์ที่ได้รับภายนอกองค์กร คือลูกค้าเกิดความมั่นใจในสินค้าและบริการ , ก้าวสู่ตลาดต่างประเทศได้ง่าย , เพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า , สร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน โดยบริษัทเตรียมแผนที่จะพัฒนาระบบมาตรฐานอื่นๆ ต่อเนื่องในอนาคตอันใกล้นี้
นายวีรชัย วิภาตวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี รีเทล จำกัด กล่าวถึงความเป็นมาของบริษัทว่า แต่เดิมเอสซีจี รีเทล เป็นที่รู้จักในชื่อบ.ซิเมนต์ไทยการตลาด จก. ซึ่งมีนโยบายในการพัฒนาช่องทางการค้าปลีกให้กับผู้แทนจำหน่าย โดยจัดตั้งโครงการ Cementhai Home Mart ขึ้น เพื่อสนองตอบพฤติกรรมของลูกค้า ที่ต้องการเลือกซื้อสินค้าเอง และความต้องการในเรื่องความสะดวกซื้อ ไปที่เดียวได้สินค้าครบแบบ One Stop Service โดยพัฒนาร้านผู้แทนจำหน่ายสินค้าเครือซิเมนต์ไทย ให้เป็นร้านที่มีความสะดวกในการเลือกซื้อ ด้วยวิธีการนำเสนอสินค้าให้ลูกค้าเลือกซื้อเองได้ จัดวางเป็นหมวดหมู่ แตกต่างจากร้านค้าวัสดุก่อสร้างทั่วไป มุ่งพัฒนาให้ร้านผู้แทนจำหน่ายมีความครบครัน ในเรื่องของสินค้าเกี่ยวกับบ้าน คือนอกจากวัสดุก่อสร้าง ตกแต่ง ที่เครือซิเมนต์ไทยมีอยู่แล้ว เราได้เริ่มเลือกสรรสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวกับบ้านมาให้ผู้แทนจำหน่าย เพื่อบริการลูกค้าให้ตรงแนวคิด One Stop Service และพัฒนารูปแบบร้านให้ดูทันสมัยขึ้น แตกต่างจากร้านวัสดุก่อสร้างอื่นๆ โดยมีแผนกบริหารผลิตภัณฑ์ เป็นผู้จัดซื้อสินค้าเข้ามาจัดจำหน่ายและแผนกสินค้าเคหะภัณฑ์ เป็นผู้นำเสนอขายให้กับผู้แทนจำหน่าย ในปี 2544 บ.ซิเมนต์ไทยการตลาด จก.ได้มีการปรับโครงสร้างใหม่ โดยรวมแผนกบริหารผลิตภัณฑ์ และแผนกสินค้าเคหะภัณฑ์ พัฒนาเป็น บ.ซิเมนต์ไทยการค้าปลีก จก.เพื่อดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้า เกี่ยวกับบ้านและเคหะภัณฑ์ โดยเฉพาะ (Home Improvement Products) และได้เพิ่มความหลากหลายของกลุ่มสินค้ามากขึ้น เช่น สี ไฟฟ้า ประปา ประตู เซรามิค เป็นต้น ผ่านช่องทางร้านผู้แทนจำหน่ายโดยมีสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดกว่า 90,000 รายการ ต่อมาปี 2550 บ.ซิเมนต์ไทยการค้าปลีก จก.ได้เปลี่ยนชื่อเป็น บ.เอสซีจี รีเทล จก. ได้กำหนดวิสัยทัศน์ให้เป็นผู้นำตลาดในกลุ่มเป้าหมายและให้ตั้งร้านค้าที่ดำเนินการโดยบริษัทฯ ภายใต้ชื่อว่า OK Outlet เพื่อเพิ่มช่องทางการขายปลีกในตลาดให้เพิ่มมากขึ้น และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภค ภายใต้แนวคิด ” ของแท้ ราคาถูก ทุกวัน” สำหรับการได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2000 แสดงให้เห็นถึงจุดยืนของบริษัทต่อการบริการที่ดีเยี่ยมที่จะส่งมอบให้กับลูกค้า
