ทีเอ็นทีเปิดตัวจุดเชื่อมต่อเครือข่ายที่สำคัญในศูนย์กลางสินค้าไฮเทคภายในประเทศเวียดนาม

ทีเอ็นที เอ็กซเพรส ผู้ให้บริการขนส่งพัสดุด่วน ครบวงจรชั้นนำระดับโลก เปิดตัวศูนย์ปฏิบัติการนานาชาติและภายในประเทศแห่งใหม่ทางตอนเหนือของ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม โดยศูนย์ปฏิบัติการแห่งใหม่นี้ ได้รับการออกแบบให้สามารถรองรับกับบริการขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่ หรือน้ำหนักมาก ซึ่งนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การดำเนินงานของทีเอ็นทีที่จะตอบรับกับความต้องการของผู้ประกอบการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ หรือสินค้าที่มีน้ำหนักมากที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างเวียดนาม และประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงจีน และยุโรป เพื่อสร้างการเติบโต และขยายธุรกิจของทีเอ็นทีในภูมิภาคดังกล่าว

ศูนย์ปฏิบัติการแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ในศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมไหมดินห์ (My Dinh) ในเขตอำเภอ ตูเลียม (Tu Liem) ของกรุงฮานอย มีพื้นที่ทั้งหมด 1,200 ตารางเมตรและมีพนักงานประจำ 90 คน ที่จะปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมงในทุกวัน โดยศูนย์ปฏิบัติการแห่งใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนในกรุงฮานอยที่มูลค่ากว่า 1 ล้านยูโร1 (ประมาณ 50.63 ล้านบาท) และเป็นหนึ่งในแผนการลงทุนของทีเอ็นทีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านยูโร (ประมาณ 5,063 ล้านบาท) สำหรับการพัฒนาบริษัทในอีก 5 ปีข้างหน้า เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำในภูมิภาค การลงทุนของทีเอ็นที ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ เริ่มต้นขึ้นในเดือนเมษายนที่ผ่านมาเมื่อทีเอ็นทีได้ปรับเปลี่ยนเส้นทางการบินของเครื่องบินขนส่งรุ่นโบอิ้ง 747-400 ER โดยทำการบินตรงจากศูนย์กระจายสินค้า ทางอากาศของทีเอ็นทีในเมือง Liege ประเทศเบลเยี่ยม สู่ประเทศสิงคโปร์เพื่อขนส่งสินค้า และ จะทำการบินต่อไปยังนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน

มร. ออนโน บูทส์ กรรมการผู้จัดการทีเอ็นทีประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “จากการที่เวียดนามตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศจีนและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเครือข่ายการขนส่งทางบกสายเอเชียของทีเอ็นที การเปิดศูนย์ปฏิบัติการนานาชาติและภายในประเทศของเราทางตอนเหนือของกรุงฮานอยนี้ จึงเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตของทีเอ็นทีในภูมิภาคนี้ โดยศูนย์ปฏิบัติการแห่งใหม่จะดำเนินงานขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์จำนวนมากกว่าร้อยละ 40 ของปริมาณสินค้าทั้งหมดที่มีการขนส่งเข้าและออกจากประเทศเวียดนาม ในขณะที่อัตราการเติบโตมีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นด้วยตัวเลขสองหลักในอีกห้าปีข้างหน้า เนื่องจากศูนย์ปฏิบัติการแห่งนี้ เป็นจุดสำคัญในการเชื่อมต่อเครือข่ายการขนส่งทางอากาศ และทางบกของทีเอ็นที”

สินค้าที่มีการขนส่งผ่านประเทศเวียดนามจะถูกรวบรวมและดำเนินการที่ศูนย์ปฏิบัติการนานาชาติและภายในประเทศแห่งใหม่นี้ ก่อนที่จะถูกจัดส่งต่อไปยังประเทศจีนและประเทศสิงคโปร์ผ่านทางเครือข่ายการขนส่งสินค้าทางบกสายเอเชียของทีเอ็นที เพื่อการขนส่งทางอากาศต่อไปยังยุโรปและประเทศจีนด้วยเครื่องบินขนส่งโบอิ้ง 747-400 ER ซึ่งจะทำการบินระหว่างสิงคโปร์ เซี่ยงไฮ้ และเมือง Liege สัปดาห์ละสามครั้ง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของทีเอ็นทีในภูมิภาคนี้ จะช่วยเพิ่มรูปแบบในการบริการขนส่งสินค้าและพัสดุด่วนที่หลากหลายให้กับลูกค้าในเส้นทางการขนส่งระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน และยุโรป หรือภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เอง รวมทั้งการให้บริการแบบครบวงจร (one-stop-shop) ที่ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าไม่ว่าจะเป็นการจัดส่งสินค้าประเภทใดหรือขนาดใดก็ตาม นอกจากนั้น การพัฒนาดังกล่าวนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งในแผนการดำเนินงานของทีเอ็นทีที่จะสร้างความเป็นผู้นำด้วยการสร้างเครือข่ายการขนส่งที่ครอบคลุมทุกความต้องการ การเชื่อมต่อของเครือข่าย และระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการขนส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

“ศูนย์ปฏิบัติการนานาชาติและภายในประเทศแห่งใหม่ในกรุงฮานอย สามารถเพิ่มขีดความ สามารถในการรองรับการดำเนินงานขนส่งสินค้าได้เพิ่มมากขึ้นถึง 4 เท่าของจำนวนสินค้าที่มีขนาดใหญ่ หรือมีน้ำหนักมาก ทั้งการขนส่งระหว่างประเทศ และภายในประเทศเวียดนามภายใต้ศูนย์ปฏิบัติการแห่งเดียว นอกจากนี้ ศูนย์ปฏิบัติการแห่งใหม่ ยังจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครือข่ายการขนส่งสินค้าทางบกในเอเชียของทีเอ็นทีด้วยเช่นกัน การพัฒนาที่เหมาะสมนี้ทำให้เรามั่นใจได้ว่าทีเอ็นทีจะสามารถช่วยรองรับการเติบโตของธุรกิจในกรุงฮานอย ซึ่งเป็นเมืองที่มีการลงทุนของแบรนด์ชั้นนำจำนวนมาก ทั้งยังเป็นศูนย์กลางของสินค้าประเภทไฮเทคในภูมิภาคนี้ และการเปิดตัวของศูนย์ปฏิบัติการแห่งนี้จึงนับเป็นโครงการแรกในแผนการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเราสำหรับเวียดนามที่จะนำไปสู่การเติบโตใน อนาคต” มร. ออนโน กล่าวเสริม ผู้อำนวยการด้านกลยุทธ์คนใหม่ที่จะช่วยสร้างการเติบโตให้กับภูมิภาค

ภายหลังจากการศึกษาโอกาสการเติบโตในภูมิภาคอย่างละเอียด ทีเอ็นทีจึงเริ่มดำเนินงานตามแผนงานที่ได้ตั้งไว้ เพื่อก้าวสู่เป้าหมาย ศูนย์ปฏิบัติการนานาชาติและภายในประเทศของทีเอ็นทีใน กรุงฮานอยเป็นศูนย์ปฏิบัติการแห่งที่สามที่ได้เปิดตัวขึ้นในระยะเวลาเพียงแค่สามเดือน หลังจากที่ทีเอ็นทีได้เปิดตัวศูนย์กระจายสินค้านานาชาติ และทางบกแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย และ ศูนย์คัดแยกสินค้าในประเทศสิงคโปร์

ทีเอ็นที ได้แต่งตั้ง มาริเคน ครุฟ ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากลยุทธ์ โดยมีวัตถุ ประสงค์ที่จะกำหนดเป้าหมายในการดำเนินงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน มาริเคน จะดูแลรับผิดชอบในการผลักดันปัจจัยในการสร้างการเติบโตของทีเอ็นที ให้เป็นแผนการดำเนินงานเพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทอย่างยั่งยืนในตลอดระยะเวลาห้าปีข้างหน้า

นอกจากนั้น มร. ออนโนยังกล่าวเสริมว่า “มาริเคน มีประสบการณ์อันยาวนานในด้านการดำเนินกลยุทธ์และการพัฒนาธุรกิจ เธอมีบทบาทที่สำคัญในการระบุพื้นฐานการเติบโตที่สำคัญสำหรับตลาดในแต่ละแห่งของเรา รวมถึงการเปลี่ยนแปลงแนวความคิดภายในบริษัท มาริเคนมีส่วนช่วยผลักดันโครงการสำคัญหลายโครงการในสิงคโปร์ให้สำเร็จก่อนจะมาร่วมงานกับเราที่นี่ ซึ่งโครงการเหล่านั้นก็มีผลตอบรับที่ดี และเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มาริเคนจะมาร่วมสร้างการเติบโต และร่วมผลักดันความเป็นผู้นำให้กับทีเอ็นทีในภูมิภาคนี้”

เกี่ยวกับทีเอ็นที

ทีเอ็นที เอ็กซเพรส เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านการจัดส่งพัสดุด่วนให้แก่กลุ่มลูกค้าธุรกิจชั้นนำระดับโลก โดยให้บริการขนส่งพัสดุ เอกสาร และพัสดุขนาดใหญ่จำนวนกว่า 4.4 ล้านชิ้นต่อสัปดาห์ไปยังกว่า ประเทศทั่วโลก ผ่านทางเครือข่ายการขนส่งที่มีศูนย์กระจายสินค้าและคัดแยกสินค้า จำนวน 2,331 แห่ง ทีเอ็นที เอ็กซเพรส มีรถที่ใช้ในการขนส่งทางถนนจำนวน 26,760 คัน และเครื่องบิน 47 ลำ และมีโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่ายการขนส่งทางถนนและอากาศที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป

ทีเอ็นที เอ็กซเพรส มีพนักงานจำนวนกว่า 74,000 คนปฏิบัติงานอยู่ทั่วโลก และนับเป็นบริษัทแรกที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกในด้านการลงทุนเพื่อพัฒนาบุคลากร ในปี 2550 ทีเอ็นที รายงานยอดรายรับที่ 6.5 พันล้านยูโร และเงินรายรับจากปฏิบัติการที่ 599 ล้านยูโร โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 7 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียวกับปีที่ผ่านมา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทีเอ็นที เอ็กซเพรส โปรดเยี่ยมชมที่ http://www.tnt.com/express

ทีเอ็นที เป็นผู้ให้บริการด้านการจัดส่งไปรษณีย์และพัสดุด่วนให้แก่กลุ่มลูกค้าธุรกิจ และลูกค้าทั่วไปชั้นนำระดับโลก โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ นอกจากนี้ ทีเอ็นทียังมีเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพในยุโรป และเอเชีย และกำลังขยายการปฏิบัติงานไปยังทั่วโลกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายต่างๆ ทีเอ็นที เปิดให้บริการอยู่ในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานกว่า 161,500 คนปฏิบัติงานอยู่ทั่วโลก ในปี 2550 ทีเอ็นที รายงานยอดรายรับที่ 11 พันล้านยูโร และเงินรายรับจากปฏิบัติการที่ 1,192 ล้านยูโร ทีเอ็นที เอ็น วี จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของอัมสเตอร์ดัมส์ นอกจากนั้น ทีเอ็นทียังเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับโครงการเพื่อสังคมต่างๆ โดยได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับโครงการอาหารโลก และโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ เพื่อต่อต้านความหิวโหยของผู้ยากไร้และมลพิษต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลก