พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เดินหน้ารุกธุรกิจบริหารโครงการแบบครบวงจร หลังพิสูจน์ฝีมือให้วงการยอมรับนานกว่า 10 ปี พร้อมพัฒนามาตรฐานการบริการอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อเพิ่มมูลค่าโครงการ และยกระดับคุณภาพชีวิตในทุกส่วน ชี้ภาวะเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบัน เอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจบริหารโครงการ คาดปิดท้ายปี 2551 กวาดยอดประมาณ 200 ล้านบาท
นายปิยบุตร เลิศดำริห์การ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน บริษัทฯ ถือเป็นอันดับหนึ่งด้านธุรกิจบริหารโครงการของเมืองไทย โดยมีจำนวนโครงการที่รับบริหารทั่วประเทศอยู่ทั้งสิ้น 140 โครงการ รวมพื้นที่กว่า 5 ล้านตารางเมตร โดยแบ่งเป็นโครงการประเภทคอนโดมิเนียม 50 โครงการ, อาคารสำนักงาน 28 โครงการ, โครงการบ้านจัดสรร 54 โครงการ และโครงการประเภทอื่นๆ อีก 8 โครงการ ซึ่งที่ผ่านมาธุรกิจบริหารโครงการ ถือเป็นงานบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด เนื่องจากมีจำนวนโครงการเกิดขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
“ผมมองว่าธุรกิจบริหารโครงการ ถือเป็นหัวใจหลักของกลยุทธ์การขาย ณ ปัจจุบัน ในช่วงหลังลูกค้ามักจะให้ความสำคัญกับข้อมูลด้านการบริหารโครงการแบบเจาะลึกมากขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่า นอกจากโครงการจะมีมาตรฐานในการก่อสร้างที่ดีแล้ว หลังจากเข้าอยู่ก็ย่อมต้องมีมาตรฐานการบริการเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าด้วยเช่นกัน ซึ่ง พลัส เล็งเห็นความสำคัญในจุดนี้ และมุ่งพัฒนาการบริการให้ดียิ่งขึ้นและพิสูจน์ให้เห็นได้อย่างเป็นรูปธรรมว่าเราสามารถยกระดับโครงการที่อยู่อาศัยด้วยการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์แบบมืออาชีพได้จริง ดังเช่นโครงการพลัส ซิตี้พาร์ค ศรีนครินทร์-สวนหลวง หนึ่งตัวอย่างด้านความสวยงามที่มาพร้อมกับการดูแลด้วยใจ และสะท้อนให้เห็นถึงระบบการบริหารจัดการที่ดี เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการใหญ่ มีจำนวนทั้งสิ้น 312 ยูนิต แวดล้อมไปด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น สวยงาม ตั้งแต่ทางเข้า ที่มีป้ายชื่อโครงการขนาดใหญ่ เกาะกลางถนนที่ปลูกต้นไม้อย่างสวยงาม พื้นที่สวนส่วนกลาง ตั้งแต่สวนหย่อมขนาดย่อม, สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ และสระว่ายน้ำ ขนาด 225 ตร.ม. ซึ่งทั้งหมดได้รับการออกแบบเพื่อให้สร้างความสุข และความอบอุ่นแก่ลูกบ้าน แต่ว่าหากความสวยงามเหล่านี้ ไม่ได้รับการดูแลที่ดีสวนส่วนกลางขนาดใหญ่อาจจะกลายเป็นเพียงพงหญ้าในที่สุด สระว่ายน้ำที่สวยงาม หากว่ามีตะไคร่จับ คงไม่น่ามอง หรือแม้แต่ป้ายหน้าโครงการ หากว่าปล่อยให้ทรุดโทรม ซึ่งทำให้เป็นการลดมูลค่าของหมู่บ้านเช่นกัน ดังนั้น การบริหารจัดการหมู่บ้านจึงเป็นส่วนสำคัญที่ควรคำนึงถึง” นายปิยบุตร เลิศดำริห์การ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าว
ด้วยภาวะเศรษฐกิจดังเช่นปัจจุบันที่ทุกบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ต้องรัดเข็มขัด พร้อมบริหารต้นทุนการพัฒนาโครงการในทุกส่วน เพื่อให้ยังคงได้มาซึ่งผลลัพธ์ด้านธุรกิจให้เป็นไปตามเป้า นายปิยบุตร เลิศดำริห์การ กล่าวเสริมว่า “ผมมองว่าหลายค่ายเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการสร้างจุดขายที่สามารถควบคุมต้นทุนได้ ทุกวันนี้วัสดุ ค่าแรงก่อสร้างเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งถือเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการที่จะวางกลยุทธ์อย่างไรเพื่อสร้างยอดขายให้เป็นไปตามเป้า ผมจึงมองว่า การบริหารโครงการอย่างมีศักยภาพคือคำตอบที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะเป็นกลยุทธ์ที่บริหารต้นทุนได้ดีแล้ว ยังเป็นบริการที่มองเห็นได้ด้วยตา สัมผัสได้จากการใช้บริการ ซึ่งพร้อมจะสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า และพร้อมที่จะสร้างโอกาสทางการขายใหม่ๆ อยู่เสมอผ่านการพูดปากต่อปาก”
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พลัส ได้พัฒนามาตรฐานด้านการบริหารโครงการอย่างสม่ำเสมอ โดยล่าสุด เราได้รับการรับรองมาตรฐานการปฏิบัติงานด้วยระบบคุณภาพ ISO 9001:2001 จาก Bureau Veritas Certification ซึ่งถือเป็นการพิสูจน์ด้านมาตรฐานการบริการในระดับสากลของเรา นอกจากนี้ เรายังพัฒนาศักยภาพทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ ให้มีความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอ อาทิ งานโครงสร้าง, งานช่าง, งานไฟฟ้า, งานสาธารูปโภคต่างๆ เป็นต้น พร้อมทั้งพัฒนาใช้เทคนิค วิธีการ เทคโนโลยี และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ทันสมัยมาช่วยสนับสนุนการปฏิบัติงาน การบำรุงรักษา การควบคุมค่าใช้จ่าย การจัดทำฐานข้อมูลอาคาร ระบบบัญชี และแลกเปลี่ยนข่าวสารกับผู้พักอาศัยภายในโครงการด้วย” กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวสรุป