รัฐมนตรีคลังเผยพร้อมร่วมมือหน่วยงานตลาดทุนสร้างความมั่นใจด้านการลงทุน

รมว.คลังเปิดเผยหลังฟังรายงานการดำเนินงานตลท.ว่า เชื่อมั่นในประสิทธิภาพการทำงาน พร้อมยินดีสนับสนุนนโยบายสำคัญพัฒนาตลาดทุน โดยจะเป็นประธานคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทยต่อ ส่งเสริมการมีตราสารครบวงจรในตลาดทุน ทั้งการซื้อขายตราสารหนี้ และตราสารอนุพันธ์ พร้อมส่งเสริมการลงทุนใน Matching Fund เพิ่มเติม เชื่อมั่นการส่งเสริมด้านมาตรการภาษีสำหรับการลงทุนใน LTF และ RMF ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2551 จะช่วยกระตุ้นการลงทุน ด้านตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิด Investor line สายตรงที่ โทร. 0 2654 5351-2 ให้ผู้ลงทุนรับคำแนะนำเชิงวิเคราะห์จากนักวิเคราะห์ ผ่านรายการ Trading Hour ทางสถานีโทรทัศน์ Money Channel ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 10.00-11.00 น. เริ่มจันทร์ที่ 6 ตุลาคมนี้ และเตรียมจัดงาน ตลาดนัดกองทุนรวม ระดมสุดยอดผู้จัดการกองทุนให้คำแนะนำผู้ลงทุน รับสถานการณ์เศรษฐกิจ วันเสาร์-อาทิตย์ที่ 11-12 ตุลาคม 2551 นี้ ที่อาคาร ตลท.

ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช เปิดเผยว่า การได้รับฟังรายงานการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันนี้ ทำให้เชื่อมั่นว่าการดำเนินงานด้านการพัฒนาตลาดทุนจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในการทำหน้าที่เป็นแหล่งระดมทุนของภาคธุรกิจ และการเป็นแหล่งเงินออมที่สร้างผลตอบแทนในระยะยาว

สำหรับการดูแลเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุนในตลาดทุนนั้น รู้สึกชื่นชมตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีการให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ผ่านการจัดกิจกรรมและการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจ ถึงแม้ภาวะการซื้อขายในช่วงที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง ยังมีการดูแลระบบงานต่าง ๆ ที่สามารถรองรับการซื้อขายที่มีความผันผวนในช่วงที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี

“กระทรวงการคลังยินดีสนับสนุนมาตรการสำคัญทั้งระยะสั้น และระยะยาว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุน และระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภาวะที่เกิดวิกฤติทางการเงินเช่นนี้ จะมีการส่งเสริมให้มีผู้ลงทุนประเภทสถาบันเพิ่มมากขึ้น โดยพร้อมสนับสนุนการจัดตั้งกองทุนไทยประเภท Matching Fund ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เริ่มดำเนินการแล้ว และจะมีการดำเนินการเพิ่มเติมต่อไป โดยเชื่อมั่นว่า การส่งเสริมจากภาครัฐในส่วนที่เกี่ยวข้องกับมาตรการภาษีสำหรับการลงทุนใน LTF และ RMFโดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2551 (ตุลาคม-ธันวาคม) จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งตลาดทุน และยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้ประชาชนได้มีเงินเพื่อการใช้จ่ายเพิ่มเติมจากการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเมื่อมีการลงทุนใน LTF และ RMF” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยังกล่าวด้วยว่า พร้อมรับเป็นประธานคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุน เพื่อผลักดันนโยบายการพัฒนาตลาดทุนในระยะยาว เพื่อให้สามารถใช้ตลาดทุนเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ ยังมุ่งส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุนให้มีตราสารที่ครบวงจรและหลากหลาย โดยจะส่งเสริมการลงทุนของผู้ลงทุนบุคคลในตลาดตราสารหนี้ และสนับสนุนการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ ซึ่งจะทำให้มีตราสารทางการเงินใหม่ ๆ ในเร็ว ๆ นี้

นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รายงานข้อมูลด้านสภาวะการซื้อขายว่า ถึงแม้ระดับดัชนีในตลาดหุ้นปีนี้ ลดลงประมาณ 28% นับตั้งแต่ต้นปี แต่ก็เป็นไปตามแนวโน้มเดียวกับตลาดภูมิภาค โดยถึงแม้จะมีความผันผวนค่อนข้างมาก แต่โครงสร้างพื้นฐาน และระบบงานต่าง ๆ ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งระบบซื้อขาย ระบบชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ และระบบการรายงานข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ มีความมั่นคง และสามารถทำหน้าที่รองรับความผันผวนที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี

“สำหรับมาตรการสร้างความมั่นใจแก่ผู้ลงทุนหลังวิกฤติทางการเงินที่ดำเนินการแล้ว ได้แก่ การส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนซื้อหุ้นคืน ซึ่งได้รับความสนใจจากบริษัทต่าง ๆ ประกาศแผนการซื้อหุ้นคืนอย่างต่อเนื่อง การจัดตั้งกองทุนรวมลงทุนในหุ้น (Matching Fund) ซึ่งจะมีมูลค่ารวมถึง 8,250 ล้านบาท การจัดกิจกรรมให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ การส่งเสริมการลงทุนในกองทุนรวม รวมทั้ง การชี้แจงและให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนไทยอย่างต่อเนื่องโดยร่วมกับสมาคมบริษัทจัดการลงทุน สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” นายปกรณ์กล่าว

นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมาตรการเสริมที่จะทำให้ผู้ลงทุนได้รับข้อมูลอย่างเพียงพอและมีความมั่นใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะเปิด Investor line ขึ้นเป็นพิเศษ และจัดให้นักวิเคราะห์จากสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ มาให้คำแนะนำเชิงวิเคราะห์แก่ผู้ลงทุน โดยผ่านสายตรง โทร. 0 2654 5351-2 ซึ่งจะมีการออกอากาศในรายการ Trading Hour ทางสถานีโทรทัศน์ Money Channel (ทาง True Visions ช่อง 80) ระหว่างเวลา 10.00 – 11.00 น. โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ และสมาคมนักวิเคราะห์พร้อมเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2551 นี้เป็นต้นไป

พร้อมกันนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะจัดงาน ตลาดนัดกองทุนรวม Mutual Fund Fair ภายในแนวคิด FIT อีกครั้ง เพื่อรับมือกับสถานการณ์เศรษฐกิจ และกระตุ้นการลงทุนใน LTF และ RMF ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษี สำหรับการลงทุนใน LTF และ RMF ที่จะได้รับ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนหลังของปี 2551 นี้ โดยจะระดมสุดยอดผู้จัดการกองทุน มาให้คำแนะนำแก่ผู้ลงทุน ในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 11 – 12 ตุลาคมนี้ เวลา 9.00 – 17.00 น. ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งนับเป็นโอกาสดีที่จะทำให้ผู้ลงทุนได้เลือกลงทุนใน LTF และ RMF พร้อมรับโปรโมชั่นจากบริษัทจัดการลงทุนต่าง ๆ ในงานเดียวอีกครั้ง

นอกจากนี้ ในเดือนพฤศจิกายน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะจัดงานมหกรรมการลงทุนครบวงจรแห่งปี SET in the City ณ สยามพารากอน เพื่อให้ข้อมูลการลงทุนในตลาดทุนครบทุกด้าน ซึ่งจะเป็นอีกงานหนึ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับคำแนะนำด้านการลงทุนจากทั้งผู้ประกอบธุรกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ซึ่งจะทำให้มีข้อมูลครบถ้วนในการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์การลงทุนในปีถัดไป