ซิกน่าประกันภัย เปิดตัวซีอีโอคนใหม่ พร้อมประกาศทิศทางการดำเนินธุรกิจ – แผนกลยุทธ์ 3 ปี

ซิกน่าประกันภัย เปิดตัว CEO คนใหม่ พร้อมประกาศแผนกลยุทธ์ 3 ปี มุ่งสร้างบริษัทให้เป็นบริษัทประกันอุบัติเหตุและประกันสุขภาพ “ที่ดีที่สุด” ในช่องทางเทเลมาร์เก็ตติ้งและช่องทางจัดจำหน่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เน้นกลยุทธ์ 6 ด้านหลัก “ขยายธุรกิจกับคู่ค้าในปัจจุบันรวมถึงในอนาคต -เพิ่มช่องทางการตลาดทางตรงให้หลากหลายมากขึ้น – สร้างความแตกต่างด้านผลิตภัณฑ์และบริการ – บริหารคอลล์เซ็นเตอร์ตามหลักมาตรฐานสากล – สร้างความแตกต่างด้วยระบบวิเคราะห์และจัดการฐานข้อมูลลูกค้า (Customer Value Management) – พัฒนาบุคลากรทุกๆ ฝ่ายอย่างต่อเนื่อง” มั่นใจสามารถสร้างบริษัทฯ ให้แข็งแกร่งและเพิ่มยอดเติบโตได้ปีละ 40 % ตลอด 3 ปีข้างหน้า

นายแกรี่ เวนย์ เด็นสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ซิกน่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ซิกน่า คอร์ปอเรชั่น และ ซิกน่าอินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า กลุ่มซิกน่าได้เริ่มเข้าดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 โดยเริ่มต้นในนามของ บริษัท ซิกน่า อินเตอร์เนชั่นแนล มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินธุรกิจการตลาดให้แก่บริษัทประกันภัยชั้นนำต่าง ๆ ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านทางโทรศัพท์ (เทเลมาร์เก็ตติ้ง) โดยมีทีมงานฝ่ายขายทางโทรศัพท์ (เทเลเซลส์) ของตนเอง ทั้งนี้ภายหลังจากที่ซิกน่าได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยเมื่อปลายปี พ.ศ. 2549 ซิกน่าจึงได้เริ่มขยายธุรกิจในด้านประกันภัย ภายใต้ชื่อ บริษัท ซิกน่า ประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยได้จับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญหลายราย ทั้งกลุ่มสถาบันการเงิน และกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจอื่น ๆ เพื่อนำเสนอความคุ้มครองด้านการประกันภัยอุบัติเหตุและประกันสุขภาพให้แก่กลุ่มลูกค้าของพันธมิตรดังกล่าว ซึ่งได้รับการสนับสนุนและความร่วมมืออย่างดีจากพันธมิตรทุกราย และล่าสุด หลังจากที่ตนเองได้เข้ามารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้จัดการประจำประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2551 ที่ผ่านมา ตนและคณะผู้บริหารของบริษัทฯ ได้กำหนดแผนกลยุทธ์ 3 ปีที่จะพัฒนาบริษัทฯ ให้เป็นผู้นำในด้านการประกันอุบัติเหตุและประกันสุขภาพในช่องทางเทเลมาร์เก็ตติ้งและช่องทางจัดจำหน่ายอื่นๆ โดยได้กำหนดกลยุทธ์หลักของบริษัทฯ เป็น 6 ด้าน ได้แก่

1.การขยายธุรกิจกับคู่ค้าทางธุรกิจที่มีอยู่ในปัจจุบันและเพิ่มคู่ค้าทางธุรกิจรายใหม่ๆ ทั้งนี้ เนื่องจากรูปแบบหนึ่งของโมเด็ลธุรกิจที่บริษัทซิกน่าดำเนินการอยู่ทั่วโลกนั้น เน้นการทำการตลาดแบบ “การตลาดเชิงความสัมพันธ์” (Affinity Marketing) ผ่านช่องทางการตลาดทางตรง เช่น ช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านทางโทรศัพท์และช่องทางอื่น ๆ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยไปยังผู้บริโภคของคู่ค้าทางธุรกิจ ดังนั้น การเพิ่มจำนวนของคู่ค้าทางธุรกิจจึงเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการทำการตลาดแนวดังกล่าว และเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของคู่ค้าทางธุรกิจในปัจจุบันให้ได้มากที่สุด กลุ่มซิกน่าจึงได้กำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของซิกน่าประเทศไทย โดยแยก เป็น 2 บริษัท ได้แก่

? บริษัท ซิกน่า อินเตอร์เนชั่นแนล มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการด้านการตลาด โดยมีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการด้านการตลาด และทำการตลาดประกันภัยผ่านช่องทางเทเลมาร์เก็ตติ้งให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจ

? บริษัท ซิกน่า ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทรับประกันภัยที่ดำเนินธุรกิจด้านการรับประกันภัยอุบัติเหตุและประกันสุขภาพผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายและการตลาดอื่น ๆ ในประเทศไทย

2. การเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายของการตลาดทางตรงให้หลากหลายมากขึ้น เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากที่สุด ด้วยการเลือกช่องทางจัดจำหน่ายที่ตรงกับพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละกลุ่มมากที่สุด ทั้งนี้ เนื่องจาก กลุ่มซิกน่ามีจุดแข็งหลักในการทำการตลาดประกันภัยผ่านช่องทางการตลาดทางตรง หรือ ไดเร็กต์มาร์เก็ตติ้ง ซึ่งมีความหมายครอบคลุมช่องทางการจัดจำหน่ายหลากหลายช่องทางนอกเหนือจากช่องทางเทเลมาร์เก็ตติ้ง ดังนั้น ซิกน่า ประเทศไทย จึงกำหนดกลยุทธ์ในการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ ๆ เพิ่มเติมจากช่องทางเทเลมาร์เก็ตติ้งที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบันด้วย ได้แก่ ช่องทางการขายตรงผ่านโฆษณาทางสื่อต่างๆ เช่น ไดเร็กทีวี ไดเร็กเมล์ และช่องทางการตลาดแบบอี-คอมเมิร์ซ เช่น การขายออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ การทำการตลาดผ่านอีเมล์ ฯลฯ โดยบริษัทฯ ได้เริ่มรุกช่องทางการขายตรงผ่านโทรทัศน์ (ไดเร็กต์ เรสปอนส์ ทีวี) มาแล้วตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และจะรุกช่องทางการจัดจำหน่ายอื่น ๆ ดังกล่าวข้างต้น อย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป

3. การสร้างความแตกต่างของบริษัทในด้านผลิตภัณฑ์ประกันภัยและบริการเสริมต่างๆ ให้มีความโดดเด่นจากคู่แข่ง โดยที่ผ่านมา ซิกน่าได้ให้ความสำคัญกับการเลือกสรรผลิตภัณฑ์ประกันภัยและบริการเสริมต่าง ๆ จากพันธมิตรระดับโลก มานำเสนอให้แก่ผู้บริโภคมาโดยตลอด เช่น แผนประกันสุขภาพฟัน ซึ่งซิกน่าเป็นบริษัทประกันภัยเพียงรายเดียวในประเทศไทยในปัจจุบันที่มีความคุ้มครองแผนประกันสุขภาพฟันส่วนบุคคลดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีการออกบริการเสริม “บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทั่วโลก” ที่ซิกน่าจับมือกับ บริษัท แอสซิสท์ อเมริกา เพื่อสร้างความต่างให้แก่แผนประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล และในเร็วๆ นี้ จะนำเสนอ “บริการความเห็นที่สองทางการแพทย์” (Medical Second Opinion) ที่ซิกน่าได้จับมือกับ บริษัท เมดิไกด์ อเมริกา โดยที่ผู้ถือกรมธรรม์ของซิกน่าสามารถขอรับคำวินิจฉัยเกี่ยวกับการรักษาโรคร้ายแรงที่ตนเองประสบอยู่จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการแพทย์ชั้นนำระดับโลก ที่มิใช่แพทย์ที่รักษาอยู่ในปัจจุบันซึ่งอาจจะให้คำวินิจฉัยที่แตกต่างไป เพื่อให้ผู้ถือกรมธรรม์สามารถตัดสินใจเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด ทั้งนี้ ซิกน่ายังคงเดินหน้าในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยและการให้บริการเสริมที่แตกต่างให้แก่ผู้บริโภคอีกอย่างต่อเนื่อง

4. การพัฒนาคอลล์เซ็นเตอร์และเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายประกันภัยทางโทรศัพท์ให้เป็นมืออาชีพตามมาตรฐานสากล เนื่องจากซิกน่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการขายประกันผ่านช่องทางเทเลมาร์เก็ตติ้งทั่วโลกเป็นระยะเวลายาวนาน ซิกน่าประเทศไทยจึงสามารถนำระบบการจัดการคอลล์เซ็นเตอร์ที่เป็นมาตรฐานสากลมาใช้สำหรับการดำเนินงานในประเทศไทย เช่น ระบบการรักษาความปลอดภัยสูงสุดของข้อมูล ระบบการควบคุมคุณภาพของสายสนทนา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายฯ นำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยด้วยความถูกต้องตามกฏระเบียบของคอลล์เซ็นเตอร์และตามกฏของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรมการพัฒนาเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายฯ เพื่อให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยแก่ผู้บริโภคได้อย่างมืออาชีพตามมาตรฐานสากล

5. การสร้างความแตกต่างด้านการบริหารฐานข้อมูลลูกค้า ด้วยระบบวิเคราะห์และจัดการฐานข้อมูลลูกค้า (Customer Value Management) เพื่อให้สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์ประกันภัยและการให้บริการที่ตรงต่อความต้องการของลูกค้ามากที่สุด นอกจากนี้ ซิกน่ายังให้ความสำคัญกับระบบรักษาความปลอดภัยในฐานข้อมูลของลูกค้า ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำตลาดเชิงความสัมพันธ์ โดยปัจจุบัน ซิกน่า อยู่ในระหว่างขั้นตอนการขอการรับรองระบบบริหารความมั่นคงของข้อมูล ตามมาตรฐาน ISO 27001 มาใช้ในงานที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงฐานข้อมูลลูกค้า ซึ่งคาดว่าจะได้รับการรับรองภายในสิ้นปี 2551 และภายหลังจากที่ซิกน่าได้รับการรับรองมาตรฐานดังกล่าวแล้ว ซิกน่าจะเป็นบริษัทประกันภัยเพียงรายเดียวในประเทศไทยในปัจจุบันที่ได้รับมาตรฐานการรับรองและตรวจสอบดังกล่าว ซึ่งสามารถเพิ่มความมั่นใจถึงระบบการรักษาความปลอดภัยของฐานข้อมูลให้แก่คู่ค้าทางธุรกิจของซิกน่าได้เป็นอย่างดี

6. การพัฒนาบุคลากรให้มีความเป็นเลิศในทุกด้าน ซิกน่าให้ความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายประกันภัยทางโทรศัพท์และพนักงานในฝ่ายสนับสนุนอื่น ๆ เป็นอย่างมาก โดยได้จัดหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างทักษะและกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายฯ มาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ซิกน่ายังให้การสนับสนุนนโยบายการรับผู้ที่ทีความพิการทางร่างกายมาเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายฯ ของบริษัทฯ ด้วย เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้แก่ผู้พิการทางร่างกายให้มีโอกาสทางด้านอาชีพมากขึ้น

“ เรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยกลยุทธ์ทั้ง 6 ด้านของเราดังกล่าวข้างต้นจะช่วยให้ซิกน่าเป็นบริษัทประกันภัยที่ดีที่สุดพร้อมเป็นทางเลือกของคู่ค้าและลูกค้าของเรา ซึ่งหมายถึงว่า เมื่อจำนวนคู่ค้าทางธุรกิจและลูกค้าของซิกน่ามากขึ้น ธุรกิจของเราก็จะเติบโตมากขึ้น ซึ่งเรามั่นใจว่า เราจะสามารถสร้างบริษัทให้มีความแข็งแกร่งและเติบโตได้ภายใน 3 ปี โดยบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตตลอดช่วง 3 ปีนี้ไว้ว่า จะต้องมียอดขายเพิ่มขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ในทุก ๆ ปี โดยภายในปี พ.ศ.2553 จะเป็นปีที่บริษัทฯ ก้าวไปถึงจุดคุ้มทุน จากในปัจจุบันที่อยู่ในช่วงของการลงทุนการก่อตั้งบริษัท ทั้งนี้ ซิกน่าจะเพิ่มจำนวนคู่ค้าทางธุรกิจให้มากที่สุด และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมมากที่สุด โดยจะเน้นการทำตลาดเพื่อเจาะกลุ่มฐานลูกค้าระดับล่างให้มากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่ยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก การที่ซิกน่าขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังช่องทางอื่นๆ จะยิ่งช่วยให้ซิกน่ามีความแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นๆ ในตลาด รวมถึงจะส่งผลดีต่อผู้บริโภคชาวไทยที่จะมีโอกาสซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยในราคาที่คนส่วนใหญ่สามารถจ่ายได้ เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองกันโดยถ้วนหน้าอย่างแท้จริง“ นายแกรี่ เด็นสัน กล่าวสรุปในตอนท้าย