25 ปี กับ ความสำเร็จวันนี้ กับ โปลิ-เคม อินเตอร์กรุ๊ป

บริษัท โปลิเคม อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์บริการพิทักษ์ความงาม “โปลิ-เคม” ผู้นำด้านจำนวนศูนย์บริการที่มีมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งทั่วประเทศ และมีผู้ใช้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ ส่งผลให้ศูนย์ โปลิ-เคม เป็นผู้นำศูนย์พิทักษ์ความงามรถยนต์ที่มีสาขามากที่สุด และมีผู้ใช้บริการมากที่สุดในประเทศไทยและเปิดสาขาครอบคลุมศูนย์การค้าชั้นนำ ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงานใหญ่ ซูเปอร์สโตร์ทั่วไปทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ทั้งภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ นายสามารถ บุญธราทิพย์ ประธานกรรมการ บริษัท โปลิเคม อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความสำเร็จของกิจการในวันนี้ว่า

“เราเป็นบริษัทเดียวที่ครองตลาดมานานกว่า 25 ปี เปิดพร้อมเอ็มเค สาขาแรกในเซ็นทรัลลาดพร้าว ถามว่าตอนนี้ก็มีผู้ทำธุรกิจด้านบริการคาร์แคร์กันมากมาย แต่ถามว่าความสำเร็จขึ้นอยู่กับอะไร คือความสำเร็จขึ้นอยู่กับบุคลากรและก็แบรนด์ ที่เป็นกันอยู่ในตอนนี้ ในปัจจุบัน แบรนด์ โปลิเคมเราจะเปิดอยู่ในกลุ่มเซ็นทรัล กับ บิ๊กซี ตอนนี้ก็เห็นชัดว่า ลูกค้าไว้วางใจเราสูง อันเนื่องมาจากเรื่องคุณภาพ และสองเรื่องของบุคลากร

เพราะบริการที่ดี คือหัวใจของธุรกิจคาร์แคร์ คุณสามารถอธิบายเพิ่มเติมว่า การให้บริการจะต้องเน้นคุณภาพเป็นหลัก เพราะลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ จะเกิดการคาดหวังที่สูงกว่าศูนย์บริการทั่วไป ดังนั้น คน จึงเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจบริการ ซึ่งจะต้องผ่านการอบรมอย่างดี มีความเชี่ยวชาญและมีความเข้าใจในการให้บริการของรถยนต์แต่ละยี่ห้อที่มีความแตกต่างกันและสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยในการทำธุรกิจคาร์แคร์ก็คือ “ผลิตภัณฑ์” ที่มีคุณภาพในการดูแลรักษารถยนต์ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของโปลิเคม เป็นสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับสากล และเป็นที่เชื่อถือของผู้บริโภค “ถึงวันนี้ผมสร้างนวัตกรรมใหม่เข้าสู่วงการอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันเรานำ โปลิ-นาโน เข้ามาใช้ในศูนย์ของเรา และไม่แค่จะดูแลรักษารถอย่างเดียว ยังรวมไปดูแลถึงเจ้าของรถ และคนขับรถ เข้าไปด้วย และเราก็เชื่อว่าขณะนี้เราเป็นเจ้าแรกของไทย และเป็นเจ้าแรกของอาเซียนด้วยซ้ำไป ที่ใช้คำว่า “โปลิ นาโน” นี่คือเป็นเรื่องที่ โปลิเคม นำนวัตกรรมใหม่มาใช้กับรถยนต์”

มองการแข่งขันคาร์แคร์ ยุค 2008

คุณสามารถ ให้มุมมองการแข่งขันต่อวงการคาร์แคร์ ในฐานะที่อยู่ในวงการนี้มานานกว่า 25 ปี มองวิวัฒนาการ ตั้งแต่การเปิดร้านตามมุมตึก ในปั๊ม และเข้าห้างสรรพสินค้า ในยุคนี้ “ตอนนี้คาร์แคร์บ้านเรามีการแข่งขันกันสูง แต่เราไม่แข่งกันในด้านนวตกรรมที่จะให้กับรถยนต์ ทุกคนมา มุ่งแต่ว่าการล้าง แต่เรา โปลิเคม จะมุ่งในเรื่องของการดูแล เก่าทำให้ดูใหม่ เราไม่ได้คาร์วอช เราคาร์คลีน ยกตัวอย่างที่เราทำนาโนมาให้บริการกับผู้ขับขี่ยานพาหนะ ลูกค้าไว้วางใจเราสูงมาก จะเห็นว่า ลูกค้ามองภาพว่าวันนี้ไม่ได้ดูแลแค่รถ แต่ดูแลคนขับรถและก็เจ้าของรถ พูดง่ายๆว่า ยานพาหนะนี่ เราดูแลมานานแล้ว แต่เราดูสุขภาพในรถมากกว่า นั่นก็ทำให้เห็นว่าโปลิเคม ก้าวไปมากกว่าคนอื่นแล้ว แล้ววันนี้ คาร์แคร์ ที่อยู่ตามมุมต่างๆของตึก ก็คือคาร์แคร์แค่ล้างรถยนต์มากกว่า แต่เราไม่เน้นเรื่องล้างอย่างเดียว เพราะล้างก็โอเคล้างไป เพราะสถานที่ของเรา คงจะมีมูลค่ามากกว่าที่จะไปทำแค่ล้างรถอย่างเดียว เราก็ต้องแบ่งตลาด พูดง่ายๆ เราหนีไปเลย แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่ดูแลรถ แต่จะเน้นว่ารถที่ขับไปที่คาร์แคร์ดูแลให้เขาไม่ได้ ก็ให้มาใช้บริการที่เรา เช่นห้องเครื่อง เราดูแลมา อย่างรถระดับสูง ถ้าเราใช้น้ำฉีดอันตรายมาก อาจจะมีปัญหาเรื่องอุปกรณ์ต่างๆของรถยนต์ เขาก็จะหนีมาใช้เราในการทำความสะอาดห้องเครื่อง จากการล้างมาเช็คห้องเครื่องมากกว่า นี่ก็ทำให้เห็นภาพว่า การแข่งชันเราไม่ได้แข่งแค่สเตชั่นอย่างเดียว แต่เราแข่งขันด้านคุณภาพ นี่ก็จะชัดกว่าคนอื่น

ส่วนแนวโน้มของตลาดคาร์แคร์ คุณสามารถบอกว่ายังอยู่ในทิศทางที่ดี แต่ผู้บริโภคจะเป็นผู้เลือกว่าจะใช้บริการของคาร์แคร์ ระดับเอ บี หรือซี ซึ่งจะเหมือนกับการกินกาแฟ ที่ผู้บริโภคเลือกกาแฟโบราณหรือสตาร์บัคส์ ส่วนกลุ่มเป้าหมายของโปลิเคมเป็นกลุ่มบีบวก – เอ

ด้านการขยายสาขาของคุณสามารถในปัจจุบัน จะเปิดในศูนย์การค้าใหญ่ๆ เป็นหลัก เช่นร่วมมือกับกลุ่มเซ็นทรัล บิ๊กซี ซึ่งจะเห็นว่าจะเน้นเปิดในช้อปปิ้งมอลล์เป็นหลัก ส่วนนโยบายการเปิดสาขาใหม่นั้น จะเน้นเปิดสาขาเองในประเทศไทย และมีโครงการที่จะขายสิทธิ์แฟรนไชส์ออกสู่ตลาดต่างประเทศ “ผมได้มีโอกาสเดินทางไปดูงานกับผู้บริหารกลุ่มเซ็นทรัลที่ประเทศญี่ปุ่น และได้มีโอกาสเข้าไปดูศูนย์บริการคาร์แคร์ ซึ่งต่างจากประเทศเรามาก ทั้งในรูปแบบและภาพลักษณ์ ซึ่งประเทศเราทำได้มาตรฐานกว่า และสำหรับสาขาที่เปิดในประเทศไทยผมเคยทำเป็นแฟรนไชส์ ซึ่งก็ยุติการขาย และซื้อคืนกลับมาบริหารเองทั้งหมด ส่วนในต่างประเทศนั้น ตอนนี้ผมไปนำร่องเปิดสาขาใน จีนมาเลเซีย และกัมพูชา เป็นการเปิดสาขาในรูปแบบการร่วมทุนทำธุรกิจกับนักธุรกิจท้องถิ่นนั้น โดยคาดการณ์ว่าจะเข้าไปยึดหัวหาดในประเทศนั้นๆ เพื่อสร้างตลาดก่อน โดยยึดหลักการเปิดตามศูนย์การค้าเช่นเดียวกับที่ประสบความสำเร็จมาแล้วนเมืองไทย หลังจากนั้นก็จะมีโครงการเปิดตัวการขายแฟรนไชส์ โดยจะเน้นนักธุรกิจท้องถิ่นนั้นๆ เป็นผู้ลงทุน โดยมีตัวคุณสามารถเป็นที่ปรึกษา และคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์มาเปิดตลาดอย่างต่อเนื่อง

แม้กิจการจะเข้าสู่ระบบที่ได้มาตรฐานตามที่คุณสามารถ ได้วางไว้ แต่คุณสามารถก็บอกว่า ผมไม่เคยมีวันหยุด ผมไปสาขาทุกวัน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน สาขานั้นสาขานี้ เพื่อศึกษาความต้องการของลูกค้าอย่างทันถ่วงที ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งผู้บริหารที่มุ่งมั่นกับตั้งใจกับการทำธุรกิจ อันส่งผลโดยตรงต่อความสำเร็จของธุรกิจ “โปลิ-เคม คาร์แคร์” ในปัจจุบัน