ตลาดไอทีโล่งอก ‘คอมมาร์ตปลายปี’ กวาดยอดตามเป้า เม็ดเงินสะพัดตลอดงานกว่า 3,200 ล้านบาท

เอ.อาร์. ประกาศความสำเร็จ “คอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2008” ตามเป้าเม็ดเงินสะพัดกว่า 3.2 พันล้านบาท สวนกระแสตลาดไอทีอั้นกำลังซื้อ หลังอัดฉีดงบจัดงานเพิ่มเฉียด 40 ล้าน ดึงผู้เข้าชมงานตามเป้า 1 ล้านคน พร้อมเดินหน้างานคอมมาร์ต’ปี 52 ด้วยมาตรฐานเทียบชั้นระดับอาเซียน ฝั่งผู้ค้าไอทีโล่งอกโกยยอดปลายปีตามเป้า หลังเทกระจาดทุบราคากระตุ้นซื้อคึกคัก เผยโน้ตบุ๊กยังครองแชมป์อันดับ 1 หลังคลอด ‘เน็ตบุ๊ก’ กว่า 9 แบรนด์ ทำยอดขายโน้ตบุ๊กรวมตลอดงาน 42,000 เครื่อง

17 พฤศจิกายน 2551 –นายปฐม อินทโรดม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ.อาร์. อินฟอร์เมชัน แอนด์ พับลิเคชัน จำกัด ผู้จัดงานคอมมาร์ต เปิดเผยถึงความสำเร็จงาน “คอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2008” ครั้งที่ 20 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-16 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมาว่า การจัดงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จตามความคาดหมาย ด้วยเม็ดเงินสะพัดภายในงานตลอด 4 วัน กว่า 3,200 ล้านบาท จากผู้เข้าชมงานทะลุ 1 ล้านคน ภายหลังปรับอัดฉีดเพิ่มงบประมาณโฆษณาประชาสัมพันธ์ กระตุ้นกำลังซื้อก่อนงานเฉียด 40 ล้านบาท พร้อมทั้งผู้ค้าไอทีทั้ง 9 แบรนด์ได้ส่งโน้ตบุ๊กพันธุ์ใหม่ ‘เน็ตบุ๊ก’ เป็นธงนำสร้างสีสันกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภคภายในงาน โดยมียอดขายโน้ตบุ๊กรวม 42,000 เครื่อง ส่งผลให้ตลาดรวมโน้ตบุ๊กปีนี้มียอดรวมกว่า 1.3 ล้านเครื่อง

นับว่างาน “คอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2008” ครั้งนี้ได้ช่วยแก้วิกฤติตลาดไอทีระดับคอนซูเมอร์ปลายปีให้สามารถปิดยอดขายได้ตามเป้า หลังตลาดชะลอซื้อในช่วงที่ผ่านมา และจะคงกระแสความคึกคักให้ตลาดไอทีปี 2552 ยังสามารถเติบโตไปได้อีก เนื่องจากมั่นใจว่าผู้บริโภคยังมีกำลังซื้อเพียงแต่ช่วงที่ผ่านมา ไม่มั่นใจในสภาวะตลาด และเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัว รวมทั้งงานปีนี้ยังได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้ตลาดไอที โดยแจ้งเกิดแบรนด์น้องใหม่หลายแบรนด์ที่คาดว่าจะเข้ามาสร้างสีสันให้ตลาดไอทีปีหน้า ขณะที่โน้ตบุ๊กมวยรองแบรนด์เล็กๆ ได้ปรับกลยุทธ์ขยับคุณภาพสินค้า และทำราคาสุดคุ้มชิงยอดขายจากผู้นำตลาดเพิ่มขึ้น 15-20% จากเดิมที่เคยมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 5-10%

“ตลาดไอทีปีหน้ายังต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะมีน้องใหม่เข้ามาในตลาดหลายแบรนด์ โดยเฉพาะโน้ตบุ๊กแบรนด์หลักๆ ที่จะมีการเพิ่มไลน์สินค้า เพื่อเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มมากขึ้น อาทิ เกตเวย์ รวมทั้งการกลับมาของโน้ตบุ๊กแบรนด์ที่เคยเปิดตัวในตลาดก่อนหน้านี้ จะปรับโฉมและเข้ามาบุกตลาดอย่างจริงจังมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดไอทีปีหน้ามีการแข่งขันแรงขึ้นอีกหลายเท่า” นายปฐมกล่าว

สำหรับสินค้าที่มียอดขายสูงสุดในงาน “คอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2008” แบ่งตามลำดับได้ดังนี้ โดย
โน้ตบุ๊กยอดขายรวม 42,000 เครื่อง, อันดับสองจอแอลซีดี มอนิเตอร์ ยอดขายรวม 166 ล้านบาท, อันดับสามกล้องดิจิตอล ยอดขายรวม 160 ล้านบาท, อันดับสี่พรินเตอร์ ยอดขายรวม 55 ล้านบาท, และอันดับห้า อุปกรณ์ไอทีอื่นๆ ยอดขายรวม 700 กว่าล้านบาท และคิดเป็นยอดรายได้รวมทั้งหมด 3,200 ล้านบาท

ปัจจัยที่ทำให้ เอ.อาร์. ประสบผลสำเร็จในการจัดงานไอทีโค้งสุดท้ายปลายปีครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากความร่วมมือของผู้ค้าไอที พันธมิตรผู้ให้สินเชื่อ และบัตรเครดิตต่างๆ ที่มีโปรโมชั่นหลากหลาย อาทิ ลดแลกแจกแถม มอบบัตรส่วนลดสินค้า บัตรเติมน้ำมัน และเพิ่มอุปกรณ์เสริมไอทีต่างๆ รวมทั้งฟรีดอกเบี้ย 0% 10 เดือน ส่งผลให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้เร็วขึ้น รวมทั้งพฤติกรรมการซื้อสินค้าในครั้งนี้ผู้บริโภคซื้อในรูปแบบการผ่อนชำระมากขึ้นถึง 50% จากเดิมซื้อสินค้าด้วยเงินสดกว่า 65% ผ่อนชำระเพียง 35% ส่วนผู้เข้าชมงานกว่า 80% มีการซื้อสินค้าติดมือกลับบ้าน เนื่องจากมีโปรโมชั่นน่าสนใจ และราคาสินค้าถูกที่สุดเป็นประวัติการณ์

สำหรับทิศทางของการจัดงานคอมมาร์ตในปี 2009 นายปฐมกล่าวว่า เอ.อาร์.ยังคงมุ่งมั่นในการนำเสนองานการจัดงานคอมมาร์ตอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการนำเทคโนโลยีอันทันสมัยในชีวิตประจำวันและทางธุรกิจมาจัดแสดงเป็นประจำตลอดการจัดงานทุกครั้ง รวมทั้งเพิ่มมาตรฐานการจัดงานให้มีคุณภาพเทียบกับระดับอาเซียน เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าชม อาทิ นักธุรกิจ นักท่องเที่ยว และนักศึกษา เป็นต้น