บริษัท เอเอ็มดี (NYSE: AMD) เปิดเผยว่า ขณะนี้เอเอ็มดีได้เริ่มวางจำหน่ายโปรเซสเซอร์ 45nm Quad-Core AMD Opteron? รุ่นใหม่ทั่วโลกแล้ว โปรเซสเซอร์ใหม่จะมีสมรรถนะเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อน 35% และกินไฟน้อยลง 35% ที่สถานะ Idle[2] เพราะการตัดสินใจของฝ่ายไอทีมักขึ้นอยู่กับสมรรถนะของโซลูชั่น ดังนั้นโปรเซสเซอร์ Quad-Core AMD Opteron จึงได้รับการพัฒนาขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือขยายความสามารถของดาต้าเซ็นเตอร์และลดความซับซ้อนของดาต้าเซ็นเตอร์ไปพร้อมๆกัน สิ่งเหล่านี้เป็นผลจากนวัตกรรมใหม่ที่ให้ทั้งสมรรถนะด้าน Virtualization และสมรรถนะต่อวัตต์ในระดับสูงสุด ธุรกิจขนาดเล็กและกลาง ไปจนถึงระดับเอนเตอร์ไพรซ์ สามารถสัมผัสกับเซิร์ฟเวอร์แพลตฟอร์มใหม่ โค้ดเนม “Shanghai” ที่สนับสนุนโปรเซสเซอร์ 45nm Quad-Core AMD Opteron ได้แล้ววันนี้จากผู้ผลิตโออีเอ็มชั้นนำทั่วโลก ที่เริ่มทะยอยวางตลาดผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ใหม่นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงสิ้นปี 2008 ซึ่งมีมากกว่า 25 รุ่นให้เลือกใช้
“การทำงานที่ยอดเยี่ยมของทีมงาน ทำให้เอเอ็มดีวางตลาดโปรเซสเซอร์ 45nm Quad-Core AMD Opteron ได้ก่อนกำหนด นั่นหมายถึงจุดเริ่มต้นของ x86 เซิร์ฟเวอร์เจเนอเรชั่นใหม่ที่ให้สมรรถนะสูงสุดในปัจจุบัน” แรนดี้ อัลเลน (Randy Allen) รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่มคอมพิวติ้งโซลูชั่น บริษัทเอเอ็มดี กล่าวและว่า “ความร่วมมือระหว่างเอเอ็มดีกับผู้ผลิตโออีเอ็มและผู้จัดหาโซลูชั่น ช่วยให้เอเอ็มดีสามารถตอบสนองความต้องการของธุรกิจระดับเอนเตอร์ไพรซ์ได้อย่างตรงจุด ให้พวกเขาสามารถโฟกัสที่ธุรกิจหลักได้อย่างไม่ต้องกังวล ขณะเดียวกันก็มีนวัตกรรมใหม่ที่พวกเขาต้องการสำหรับอนาคตอยู่ในมือ โปรเซสเซอร์ AMD Opteron คือตัวแทนของสมรรถนะการประมวลผลและสมรรถนะต่อวัตต์ที่เพิ่มขึ้นสำหรับทุกผลิตภัณฑ์ของเอเอ็มดีนับตั้งแต่เปิดตัวโปรเซสเซอร์ x86 Dual-Core ตัวแรกของโลกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ง่ายๆแค่นำเสนอเทคโนโลยีที่ถูกต้อง ให้ถูกเวลา และนั่นคือ Quad-Core AMD Opteron”
ผู้นำสมรรถนะ ที่พร้อมตอบสนองทุกๆความต้องการของธุรกิจทุกวันนี้
ความท้าทายของผู้จัดการดาต้าเซ็นเตอร์คือการจัดการกับปริมาณความต้องการใช้งานระบบคอมพิวเตอร์ที่มาจากทุกภาคส่วนขององค์กร ส่วนใหญ่เกี่ยวกับเว็บเซิร์ฟและดาต้าเบสแอพพลิเคชั่น สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือ เพิ่มขีดสมรรถนะสูงสุดให้กับระบบ ด้วยการลงทุนที่น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ภายใต้งบประมาณที่มีอยู่ในปัจจุบัน เทคโนโลยีใหม่ เช่น Cloud Computing และ Virtualization มีอัตราการเติบโตสูงถึง 60% เทียบกับปีที่แล้ว[3] โดยไตรมาส 2 คือช่วงที่มีการขยายตัวมากที่สุด สิ่งที่ลูกค้าต้องการคือโซลูชั่นที่มีความสมดุล คือต้องพร้อมในทุกด้าน โปรเซสเซอร์ Quad-Core AMD Optero ใหม่และสถาปัตยกรรม Direct Connect Architecture ซึ่งได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง คือสิ่งที่พวกเขาต้องการ พร้อมสำหรับทุกๆหน้าที่ มีความยืดหยุ่นสูง รองรับการขยายระบบในอนาคต เพื่อรับมือกับความต้องการที่หลากหลายและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในทุกๆวัน
สมรรถนะ Virtualization ที่ล้ำหน้า
ผ่านการพัฒนา Direct Connect Architecture และนวัตกรรม AMD-Virtualization? (AMD-V?) ทำให้โปรเซสเซอร์ 45nm Quad-Core AMD Opteron เป็นโปรเซสเซอร์ที่ดีที่สุดสำหรับการทำ Virtualization และมีผู้ผลิตโออีเอ็มชั้นนำจำนวน 9 รายที่ใช้โปรเซสเซอร์ 45nm Quad-Core AMD Opteron ใหม่ในเซิร์ฟเวอร์ที่ถูกออกแบบขึ้นเพื่อการทำ Virtualization โดยเฉพาะ โปรเซสเซอร์ใหม่มีตัวเลขเวลา “world switch” ที่เร็วกว่า ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพของเวอร์ชวลแมชชีนโดยตรง, Rapid Virtualization Indexing ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ และนวัตกรรม AMD-V ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายสำหรับซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการทำ Virtualization
ราคาต่อสมรรถนะที่เหนือกว่า
โปรเซสเซอร์ Quad-Core AMD Opteron จะมีสมรรถนะการประมวลผลและสมรรถนะต่อวัตต์สูงขึ้นในทุกๆรุ่นที่ออกสู่ตลาด โดยมีรายละเอียดดังนี้
• เร็วๆนี้ วิวัฒนาการอีกขั้นหนึ่งของ AMD Direct Connect Architecture ด้วย HyperTransport? 3.0 ให้แบนด์วิธกว้างขึ้นเป็น 17.6GB/s สำหรับช่องทางสื่อสารระหว่างโปรเซสเซอร์กับโปรเซสเซอร์ คาดว่าจะออกสู่ตลาดได้ในไตรมาส 2 ปี 2009
• ความถี่สัญญาณนาฬิกาสูงขึ้น โดยยังคงใช้พลังงานเท่าเดิม เทียบกับ Quad-Core AMD Opteron รุ่นก่อนหน้า เป็นผลจากเทคโนโลยีการออกแบบที่ก้าวหน้า, การใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับ 45 นาโนเมตร และทีมงานที่ยอดเยี่ยม
• L3 Cache ใหญ่ขึ้น 200% เป็น 6MB ช่วยให้การทำงานเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะกับแอพพลิเคชั่นที่ต้องการเมมโมรี่เยอะๆ เช่น Virtualization, Database และ Java
• การสนับสนุนหน่วยความจำ DDR2-800 หมายถึงแบนด์วิธที่กว้างขึ้นจากรุ่นก่อน และประหยัดพลังงานมากกว่าเทียบกับเทคโนโลยี Fully-Buffered DIMM ของคู่แข่ง
• เร็วๆนี้ วิวัฒนาการอีกขั้นหนึ่งของ AMD Direct Connect Architecture ด้วย HyperTransport? 3.0 ให้แบนด์วิธกว้างขึ้นเป็น 17.6GB/s สำหรับช่องทางสื่อสารระหว่างโปรเซสเซอร์กับโปรเซสเซอร์ คาดว่าจะออกสู่ตลาดได้ในไตรมาส 2 ปี 2009
ประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ยอดเยี่ยม
นอกเหนือจากสมรรถนะต่อวัตต์ที่ดีที่สุดแล้ว 45nm Quad-Core AMD Opteron ยังใช้พลังงานน้อยลงอีก 35% เมื่ออยู่ในสถานะ Idle เทียบกับรุ่นก่อน ขณะที่ให้สมรรถนะการประมวลผลจะสูงขึ้นอีก 35% ยิ่งกว่านั้นยังมีเทคโนโลยีใหม่ๆมาช่วยในการจัดการด้านพลังงานด้วย ได้แก่ AMD Smart Fetch ลดการใช้พลังงานด้วยการเซ็ตให้ Core อยู่ในสถานะ “Halt” ในขณะที่โปรเซสเซอร์อยู่ในสถานะ Idle โดยไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อการประมวลผลของแอพพลิเคชั่น อีกเทคโนโลยีหนึ่งคือ AMD CoolCore? ที่ช่วยลดการใช้พลังงานด้วยการลดปริมาณพลังงานที่จ่ายเข้าสู่ส่วนที่ไม่ได้ใช้งานบนระบบที่มีการคอนฟิกเหมือนกัน
โปรเซสเซอร์ Quad-Core AMD Opteron 75W จะให้สมรรถนะต่อวัตต์เพิ่มขึ้น 30% เทียบกับแพลตฟอร์มโปรเซสเซอร์ 50W ของคู่แข่ง และในสถานะ Active Idle โปรเซสเซอร์ Quad-Core AMD Opteron Model 2380 จะใช้พลังงาน 138W เทียบกับ Quad-Core Intel ที่ใช้พลังงาน 179W Quad-Core AMD Opteron Model 2380 ทดสอบด้วย SPECpower_ssj?2008 ทำได้ 761 ssj_ops/Watt, (308,089 ssj_ops @ 100% target load) ขณะที่ Quad-Core Intel ทำได้ 561 overall ssj_ops/Watt (267,804 ssj_ops @ 100% target load)[4]
ความเสถียรที่มั่นใจได้
45nm Quad-Core AMD Opteron ได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำของเอเอ็มดี ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตโปรเซสเซอร์ x86 เพียงรายเดียวที่ใช้สถาปัตยกรรมเดียวสำหรับเซิร์ฟเวอร์ตั้งแต่ 2P ไปจนถึง 8P ขณะเดียวกันโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นก็สามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานเดียวกันกับโปรเซสเซอร์รุ่นก่อนหน้าได้ทั้ง Quad-Core และ Dual-Core เช่น ซ็อคเก็ตและระบบระบายความร้อน เป็นต้น ทั้งหมดนี้ช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายและลดความซับซ้อนของระบบลงได้ พร้อมๆกับสมรรถนะของดาต้าเซ็นเตอร์ที่สูงขึ้น โปรเซสเซอร์ใหม่จะใช้ Socket 1207 ซึ่งสถาปัตยกรรมนี้จะถูกใช้ในโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่โค้ดเนม “Istanbul” ด้วย
ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจาก OEM ทั่วโลก
ด้วยความที่โปรเซสเซอร์ AMD Opteron เป็นโปรเซสเซอร์ x86 ที่ได้ชื่อว่าจัดการได้ง่ายที่สุด ดังนั้นผู้ผลิตโออีเอ็ม รวมถึงผู้ผลิตรายย่อย จึงชมชอบและยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการมาของโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ เพราะมันช่วยให้พวกเขาสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดมากขึ้น โดยยังคงใช้สายพานผลิตเดิม คาดว่าผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่ที่ใช้โปรเซสเซอร์ 45nm Quad-Core AMD Opteron จะเริ่มมีให้เห็นในตลาดตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป และจะมีจำนวนรุ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตลอดไตรมาสนี้ไปจนถึงไตรมาสแรกของปี 2009
“ลูกค้าสามารถปรับลดงบประมาณลงได้อีกมากสำหรับ HP ProLiant ที่พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม “Shanghai” ซึ่งนับเป็นผู้กำหนดระดับใหม่ของสมรรถนะและประสิทธิภาพการใช้พลังงานของเซิร์ฟเวอร์” พอล ก็อตเซเจน (Paul Gottsegen) รองประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ บริษัทเอชพี กล่าวและว่า “เอชพีประสบความสำเร็จอย่างมากตลอดเวลา 4 ปีที่ได้ร่วมงานกับเอเอ็มดีเพื่อนำแพลตฟอร์ม AMD Opteron ออกสู่มือลูกค้าทุกระดับ ในเบื้องต้นจากเสียงตอบรับของลูกค้าแสดงให้เห็นว่า “Shanghai” คือผู้ชนะ”
“นวัตกรรมการออกแบบระบบของซันฯ คือการผสมผสาน Solaris และ Quad-Core AMD Opteron เข้าด้วยกันเพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่สำหรับแพลตฟอร์ม x64 ที่มีสมรรถนะสูงสุด, มีความยืดหยุ่นสูง ขยายระบบได้ง่าย และมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีที่สุด” จอห์น ฟอว์เลอร์ (John Fowler) รองประธานกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหาร กลุ่มซิสเต็มส์ บริษัทซันไมโครซิสเต็มส์ (Sun Microsystems) กล่าวและว่า “เซิร์ฟเวอร์ของซันฯที่รันด้วยโปรเซสเซอร์ Quad-Core AMD Opteron ใหม่ จะสามารถจัดการกับข้อมูลที่มีความซับซ้อนมากๆได้อย่างไม่มีปัญหา พร้อมกันนั้นก็ยังพร้อมสำหรับการขยายระบบตามการเติบโตของดาต้าเซ็นเตอร์ และจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าระบบใหม่จะถูกอินทิเกรตเข้ากับระบบ AMD Opteron ที่ใช้งานอยู่ได้อย่างแนบสนิทและสมบูรณ์ 100%”
“เดลล์และเอเอ็มดีมีเป้าหมายร่วมกันคือการมอบสิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า ทั้งความง่ายในการจัดการ และลดค่าใช้จ่ายในการบริหารทรัพยาการด้านไอที” แบรด แอนเดอร์สัน (Brad Anderson) รองประธานกรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับธุรกิจ บริษัทเดลล์ (Dell) กล่าวและว่า “ผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ PowerEdge ของเราได้รับการออกแบบโดยเฉพาะเพื่อดึงเอาความสามารถด้าน Virtualization จากโปรเซสเซอร์ AMD Opteron ออกมาใช้อย่างเต็มที่ ความร่วมมือระหว่างเดลล์กับเอเอ็มดีได้รับการพิสูจน์แล้ว ด้วยสถิติใหม่สำหรับสมรรถนะ Virtualization ที่ได้จากเซิร์ฟเวอร์ PowerEdge 2P และ 4P ทั้งแร็คและเบลด”
“นับตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา ไอบีเอ็มได้พัฒนาความสามารถของโปรเซสเซอร์ AMD Opteron และเทคโนโลยี Direct Connect Architecture อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าทุกระดับ และให้พวกเขามีตัวเลือก” อเล็กซ์ โยสต์ (Alex Yost) รองประธานกรรมการผู้จัดการ กลุ่มเบลดเซ็นเตอร์ บริษัทไอบีเอ็ม (IBM) กล่าวและว่า “ไอบีเอ็มกำลังอยู่ระหว่างการสร้างนวัตกรรมใหม่ที่สุดยอดทั้งประสิทธิภาพการใช้พลังงานและสมรรถนะด้าน Virtualization อันเป็นผลจากโปรเซสเซอร์ใหม่ เพื่อความคุ้มค่าสูงสุดที่ลูกค้าของเราจะได้รับ”
กำหนดวางจำหน่าย
โปรเซสเซอร์ Quad-Core Opteron ใหม่ (75-watt ACP) ความเร็ว 2.3-2.7 GHz มีวางจำหน่ายทันที ส่วนโปรเซสเซอร์ Quad-Core AMD Opteron HE (55-watt) และ SE (105-watt) มีกำหนดวางจำหน่ายในไตรมาสแรกของปี 2009
เดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์รุ่นถัดไป 45 นาโนเมตร
AMD ยังมีแผนนำเทคโนโลยีการผลิตระดับ 45 นาโนเมตรที่ให้สมรรถนะการทำงานและประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงกว่า ไปใช้ในการผลิตเดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่จะวางตลาดในไตรมาสแรกปี 2009 ด้วยภายใต้แพลตฟอร์มที่มีชื่อว่า “Dragon” แพลตฟอร์มดังกล่าวจะเป็นแพลตฟอร์มเดสก์ท็อปสมรรถนะสูงรุ่นที่ 2 ของเอเอ็มดี ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นในทุกจุดเทียบกับรุ่นแรกโค้ดเนม “Spider” ที่เปิดตัวเมื่อปี 2008 แพลตฟอร์ม “Dragon” ได้รับการออกแบบให้ทำหน้าที่เสมือนเซ็นเตอร์ในการเชื่อมนวัตกรรมต่างๆเข้าด้วยกัน ได้แก่ โปรเซสเซอร์ 45nm Quad-Core AMD Phenom? II X4, ชิปเซ็ต AMD 700 Series และกราฟิก ATI Radeon? HD 4000 Series
เอเอ็มดีบนเว็บ
ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสิทธิภาพที่สูงขึ้นของโปรเซสเซอร์ Quad-Core Opteron ของเอเอ็มดี ซึ่งประกอบไปด้วยคำถาม-คำตอบที่มีบ่อยๆ เครื่องมือในการพัฒนา เอกสารสำหรับสื่อมวลชนแบบออนไลน์และข้อมูลทั่วๆ ไป ทั้งหมดนี้อยู่ที่ http://multicore.amd.com ส่วนราคาจำหน่ายสามารถดูได้ที่ http://www.amd.com/pricing.
เกี่ยวกับ AMD
บริษัท แอดวานซ์ ไมโคร ดีไวซ์ หรือเอเอ็มดี (Advanced Micro Devices; AMD) (NYSE: AMD) เป็นบริษัทเทคโนโลยี ที่มุ่งมั่นคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมคอมพิวเตอร์และกราฟิกใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือและทำงานกับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อตอบสนองทุกความต้องการ สำหรับการทำงานที่ออฟฟิศ, ความบันเทิงภายในบ้าน และการเล่นเกม ข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.amd.com
