บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศกลยุทธ์การตลาดปี 2552 ของกลุ่มธุรกิจ เทคโนโลยี โซลูชั่นส์ กรุ๊ป ตอกยํ้าความเป็นผู้นำในวงการไอทีของเอชพี โดยประกาศสานต่อแนวคิดเรื่อง Business Technology ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญทางไอทีที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ชัดเจน เน้นการขยายสายผลิตภัณฑ์และการบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยีให้สามารถรองรับการเติบโตทางธุรกิจ นอกจากนั้น เอชพีประกาศถึงความมุ่งมั่นที่จะผนึกกำลังกับพันธมิตรทางการค้า เพื่อขยายความร่วมมือทางธุรกิจ พร้อมให้การสนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม หรือ Green Technology เพื่อสภาพแวดล้อมทางไอทีแบบยั่งยืน และสานต่อการตอบแทนประโยชน์กลับคืนสู่สังคมตามแนวความคิดหลักของ Global Citizenship หรือการเป็นพลเมืองที่ดีของโลก
พร้อมกันนี้ เอชพีได้ประกาศผลประกอบการในไตรมาสที่สี่ซึ่งเป็นไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2551 โดยมีรายได้สุทธิที่ 33.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นมาจากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 19 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16 เมื่อปรับตัวเลขตามกระแสค่าเงิน ส่วนอัตราการเติบโตของรายได้สุทธิประจำปีซึ่งไม่รวมรายได้ของอีดีเอส เพิ่มขึ้นมาจากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 5 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อปรับตัวเลขตามกระแสค่าเงิน
รายได้สุทธิสำหรับตลอดปีงบประมาณ 2551 มีมูลค่ารวม 118.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งแสดงถึงการเติบโตร้อยละ 13 หรือร้อยละ 8 เมื่อมีการปรับตามกระแสค่าเงิน เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนผลกำไรจากการดำเนินงานตาม GAAP มีมูลค่า 10.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ และผลรายได้ต่อหุ้นปรับลด (diluted EPS) ตาม GAAP อยู่ที่ 3.25 เหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 2.68 เหรียญสหรัฐในช่วงปีที่ผ่านมา ส่วนผลกำไรจากการดำเนินงานตาม Non-GAAP มีมูลค่ารวม 11.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ และผลรายได้ต่อหุ้นปรับลดตาม Non-GAAP อยู่ที่ 3.62 เหรียญสหรัฐ ซึ่งสูงขึ้นจาก 2.93 เหรียญสหรัฐในช่วงปีที่ผ่านมา สำหรับข้อมูลทางการเงินแบบ Non-GAAP ไม่รวมมูลค่าที่ปรับหลังการหักภาษีจำนวน 973 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 0.37 เหรียญสหรัฐต่อหุ้นปรับลด ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดจากบัญชีตัดจำหน่ายของสินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่ได้ซื้อมา, ค่าใช้จ่ายในการปรับรื้อโครงสร้าง, ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเข้าซื้อกิจการ และค่าใช้จ่ายในโครงการวิจัยและการพัฒนาที่กำลังดำเนินการ
มร. อลัน เซ็ดจีห์ กรรมการผู้จัดการ และผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจ เทคโนโลยี โซลูชั่นส์ กรุ๊ป บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) กล่าวว่า “แม้สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจในปัจจุบันยังคงมีความผันผวน แต่เอชพีก็ยังสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจในปีที่ผ่านมาได้อย่างดีเยี่ยม โดยสามารถรักษาระดับความเติบโตไว้ได้เป็นอย่างดี อันเป็นผลจากการเสริมทัพพอร์ทโฟลิโอของสายผลิตภัณฑ์และการให้บริการที่มอบโซลูชั่นแบบ end-to-end ให้แก่ลูกค้าพร้อมด้วยโครงสร้างการปฏิบัติงานที่แข่งแกร่ง เน้นการใช้กลยุทธ์ด้านต้นทุน ให้ความสำคัญกับบุคลากร ในการเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจให้แก่เอชพี เพื่อบรรลุเป้าหมายในการเติบโตทางธุรกิจที่ต่อเนื่อง”
ประกาศสานต่อแนวคิด “Business Technology” กุญแจสำคัญสู่ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ชัดเจน
ในฐานะผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจ เทคโนโลยี โซลูชั่นส์ กรุ๊ป (ทีเอสจี) มร. เซ็ดจีห์ กล่าวถึง กลยุทธ์ทางการตลาดของกลุ่มธุรกิจทีเอสจีว่า “ในปี 2552 กลุ่มธุรกิจทีเอสจีจะสานต่อแนวคิด Business Technology หรือ BT ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญทางไอทีที่จะช่วยสร้างความ สำเร็จทางธุรกิจ ซึ่งจากประสบการณ์ที่ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า ในการช่วยบริหารจัดการต่อความเสี่ยงของธุรกิจ เอชพีเข้าใจว่าเทคโนโลยีไม่ได้เป็นเพียงตัวช่วยในการสนับสนุนและลดความเสี่ยงของธุรกิจเท่านั้น แต่เทคโนโลยียังสามารถช่วยขับเคลื่อนและสร้างความเติบโตทางธุรกิจได้”
“ด้วยแนวคิด BT สามารถช่วยซีไอโอในด้านการพิจารณาและประเมินการลงทุนขององค์กรเพื่อสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจ ครอบคลุมด้านการบริหารจัดการความเสี่ยง การเพิ่มการเติบโต และการลดต้นทุน โดยเอชพีได้นำเสนอโซลูชั่นและการบริการภายใต้แนวคิด BT ประกอบด้วย Adaptive Infrastructure, Business Technology Optimisation และ Business Information Optimisation ซึ่งสามารถช่วยลูกค้าในแง่มุมดังที่ได้กล่าวไว้ เพื่อผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีที่สุด” มร. เซ็ดจีห์ กล่าวเพิ่มเติม
เดินหน้าขยายสายผลิตภัณฑ์และการให้บริการ
เอชพีได้รับการยอมรับในด้านสายผลิตภัณฑ์และการให้บริการที่ครบวงจร โดยในปีหน้านี้ เอชพีมุ่งมั่นในการขยายสายผลิตภัณฑ์ และให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่มีความโดดเด่นในอนาคต อันประกอบไปด้วย
• ผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์และสตอเรจสำหรับกลุ่มองค์กรธุรกิจ: เอชพียังคงมุ่งขยายความเติบโตของตลาดสตอเรจ พร้อมชิงส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ในปี 2552
• ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์: เอชพีมีความตั้งใจที่จะสร้างความเป็นผู้นำในโซลูชั่นที่ใช้สำหรับธุรกิจ CME (Communications, Media & Entertainment), โซลูชั่น business information optimization และโซลูชั่นการบริหารจัดการไอทีและระบบการทำงานอัตโนมัติ
• การบริการทางด้านเทคโนโลยี (Technology Service, TS): เอชพีตั้งใจที่จะสานต่อการขยายการบริการที่ซื้อควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์ และต่อยอดจากการจำหน่ายพอร์ทโฟลิโอและโซลูชั่นที่หลากหลายให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น
• ผลิตภัณฑ์ Procurve: เอชพีจะเน้นเพิ่มยอดจำหน่าย และต่อยอดจากการบริการด้านเครือข่ายของหน่วยธุรกิจ TS รวมถึงการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์และสตอเรจควบคู่กัน
“เอชพีมั่นใจว่าจะสามารถรักษาและขยายส่วนแบ่งทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ในแต่ละกลุ่มไว้ได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกัน ยังสามารถควบคุมด้านราคาและโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ นอกจากนั้น เอชพีเล็งเห็นถึงความเติบโตอย่างรวดเร็วในเทคโนโลยีบางกลุ่ม เช่น เทคโนโลยีเบลด, เวอร์ช่วลไลเซชั่น, การแปลงสภาพศูนย์ข้อมูล (Data Center Transformation), โซลูชั่น Scalable and Cloud Computing และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม หรือ Green Technology ที่สำคัญเทคโนโลยีทั้งหมดจะช่วยพัฒนาประสิทธิภาพขององค์กรในด้านการประหยัดพลังงาน ลดค่าใช้จ่าย และรักษาสิ่งแวดล้อม” มร. เซ็ดจีห์ กล่าว
จับมือพันธมิตรทางการค้าเพื่อความสำเร็จทางธุรกิจ
ในปี 2552 รูปแบบการดำเนินธุรกิจที่สำคัญของเอชพี คือ การร่วมมือกับพันธมิตรทางการค้า โดย มร. เซ็ดจีห์ กล่าวว่า “นับจากนี้ เอชพีจะผสานความร่วมมือกับพันธมิตรทางการค้าให้แนบแน่นยิ่งขึ้น เราให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างพันธมิตรทางการค้าในทุกกลุ่ม อาทิ พันธมิตรในกลุ่ม Alliance ประกอบด้วย SAP, Oracle และ BEA พันธมิตรด้านเทคโนโลยี ประกอบด้วย Intel, AMD และ Microsoft คู่ค้าที่เจาะกลุ่มลูกค้าองค์กร รวมทั้ง VAR และ SI เพื่อการรักษาตำแหน่งความเป็นผู้นำของเอชพี ซึ่งการทำงานร่วมกับพันธมิตรทางการค้า ทำให้เราสามารถทำงานประสานร่วมกันได้มากยิ่งขึ้นเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าของเรา”
เอชพีจะมุ่งสู่โอกาสที่เปิดกว้างทั้งในกลุ่มองค์กรธุรกิจ ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก รวมถึงในส่วนของภาครัฐ ซึ่งในปีนี้ เอชพีเล็งเห็นถึงโอกาสทางการตลาดในการขยายส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มพอร์ทโฟลิโอที่มีส่วนต่างค่อนข้างสูง อาทิ ซอฟต์แวร์ สตอเรจ และการบริการของหน่วยธุรกิจ TS
เพิ่มความพึงพอใจสำหรับลูกค้า
มร. เซ็ดจีห์ กล่าวว่า “เอชพีมีความตั้งใจในการรักษาระดับความเติบโตของรายได้ควบคู่ไปกับการเพิ่มความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า เอชพีมีความเป็นผู้นำไม่ใช่เพียงด้านเทคโนโลยีเท่านั้น แต่รวมถึงการให้บริการด้วยเช่นกัน โดยในปีหน้านี้ เอชพีจะมีโครงการใหม่ๆ เพื่อประเมินความพึงพอใจและความเชื่อมั่นของลูกค้าประจำของเอชพี และมุ่งมั่นที่จะเพิ่มความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้าให้มากขึ้น โดยจะทำให้การทำธุรกิจกับเอชพีมีความสะดวกยิ่งขึ้นด้วยแนวทางที่หลากหลาย รวมทั้งการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมในด้านการทำให้บริการด้านไอทีเป็นไปอย่างอัตโนมัติ”
เอชพียังคงมุ่งมั่นในการตอบแทนประโยชน์คืนสู่สังคมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นความแนวคิดหลักในการดำเนินธุรกิจเพื่อเป็นพลเมืองที่ดีของโลก มร. เซ็ดจีห์ กล่าวว่า “เอชพีประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย ซึ่งเป็นที่ที่เราได้อาศัย ได้ทำงาน และได้มีโอกาสตอบแทนคืนสู่สังคม และสืบเนื่องจากโครงการนำร่องที่เราได้ไปจัดตั้งศูนย์คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้ ร่วมกับโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนเมื่อปีที่ผ่านมา เราวางแผนที่จะสานต่อการสร้างศูนย์คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้ และโครงการสร้างสรรค์อีกมากมายเพื่อนำเทคโนโลยีและทักษะความรู้ความเชี่ยวชาญของเอชพีมาสร้างประโยชน์คืนสู่สังคมไทย”
“ขณะนี้ทั่วโลกต่างต้องเผชิญกับความท้าทายจากสภาพเศรษฐกิจอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เอชพีมีความมั่นใจว่าด้วยคุณภาพของพนักงานของเรา ความหลากหลายของพอร์ทโฟลิโอด้านผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นชั้นนำระดับโลก ความร่วมมืออย่างแข่งแกร่งกับพันธมิตรทางการค้า และแนวทางอันมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่หลากหลายของเอชพี จะสามารถเป็นพื้นฐานที่แข่งแกร่งสำหรับการรับมือกับความท้าทายต่างๆ และช่วยรักษาตำแหน่งความเป็นผู้นำในวงไอทีของเอชพีได้ต่อไป” มร. เซ็ดจีห์ กล่าวสรุป
ข้อมูลเกี่ยวกับเอชพี
เอชพีเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดของโลกที่นำเสนอผลิตภัณฑ์สำหรับการพิมพ์และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล รวมถึงบริการทางด้านไอที ซอฟต์แวร์ และโซลูชั่นต่างๆ ซึ่งช่วยให้เกิดประสบการณ์การใช้งานเทคโนโลยีที่สะดวกและง่ายดายสำหรับผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจระดับต่างๆ เอชพีดำเนินการเข้าซื้อกิจการของอีดีเอสโดยเสร็จสมบูรณ์ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอชพี (NYSE, Nasdaq: HPQ) สามารถเข้าชมได้ที่ www.hp.com