ธนาคารเกียรตินาคิน ประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2551 กำไร 1,867 ล้านบาท โดยตั้งสำรองในไตรมาส 4 เพิ่มขึ้น 500 ล้านบาท เพื่อรองรับภาวะเศรษฐกิจซบเซา ส่งผลให้กำไรลดลง 11.6% จากปีก่อน ด้านสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ยังคงเติบโตได้ในระดับ 33.5% ส่วนหนี้สินรวม (เงินฝาก หุ้นกู้ ตั๋วบีอี และหนี้สินอื่นๆ) เพิ่มขึ้นเกือบ 40% ขณะที่ NPL สุทธิลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4.5% ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่จะควบคุมและรักษาคุณภาพสินทรัพย์
นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ในปี 2551 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 1,867 ล้านบาท ลดลง 11.6% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิสำหรับปี 2551 เนื่องจากธนาคาร ได้ทำการตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 500 ล้านบาทเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกผันผวน ขณะที่รายได้รวมจากการดำเนินธุรกิจอยู่ที่ 6,210 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6% จากปีก่อน และมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Interest Spread) ที่ 4.6% ลดลงจากปีก่อนที่ 5.2% เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงระบบการบันทึกบัญชีอัตราผลตอบแทนเงินให้สินเชื่อเช่าซื้อ จากการบันทึกรายได้ดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าซื้อเป็นวิธีอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงจากเช่าซื้อจากการรับรู้ตามวิธีผลรวมจำนวนงวด ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารหลังหักสำรองยังคงปรับลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 4.5% จากปีก่อนอยู่ที่ 9.2% ซึ่งถือเป็นความสำเร็จตามนโยบายที่จะควบคุมและรักษาคุณภาพสินทรัพย์ให้ดีขึ้น”
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบเป้าหมายการดำเนินธุรกิจที่ธนาคาร ได้ประกาศไว้ ณ ตอนต้นปี 2551 เปรียบเทียบกับผลการดำเนินงาน ณ ธันวาคม 2551 พบว่าธนาคารมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 114,733 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.5% จากสิ้นปี 2550 ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของเงินให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ มีมูลค่า 57,139 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.5% จากสิ้นปี 2550 สำหรับยอดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่อนุมัติใหม่ในปี 2551 มีจำนวน 29,878 ล้านบาท โดยธนาคารมีอัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของสินเชื่อเช่าซื้ออยู่ที่ 2.5% ซึ่งเทียบเท่ากับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ส่วนทางด้านหนี้สินรวม (เงินฝาก หุ้นกู้ ตั๋วบีอี และหนี้สินอื่นๆ) อยู่ที่ 97,565 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.8% โดยเงินฝากและเงินกู้ยืมเท่ากับ 91,104 ล้านบาท ขยายตัว 42.4% จากสิ้นปี 2550 เป็นผลจากการระดมเงินเพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตและสำรองสภาพคล่องเพื่อรองรับภาวะสภาพคล่องตึงตัวที่อาจจะเกิดขึ้น โดยธนาคารได้มีการออกโปรโมชั่นเงินฝาก ตั๋วแลกเงิน และหุ้นกู้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ธนาคาร ได้ทำการเปิดสาขาใหม่จำนวน 10 สาขา ส่งผลให้ปัจจุบันธนาคารมีสาขารวมทั้งสิ้น 37 สาขา
ทั้งนี้ ธนาคารยังคงดำรงเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ระดับ 15.34% และล่าสุด บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้ประกาศยืนยันอันดับเครดิตองค์กร และหุ้นกู้ไม่มีประกันของ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) คงเดิมที่ระดับ “A-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ ระบบการบริหารความเสี่ยงที่เป็นที่ยอมรับ และความสามารถในการทำกำไร
เกียรตินาคิน ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2514 เปิดดำเนินธุรกรรมธนาคารพาณิชย์ภายใต้ชื่อ “ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)” เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2548 ปัจจุบันมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเท่ากับ 15.34% สินทรัพย์รวมเท่ากับ 114,733 ล้านบาท มีสาขาทั่วประเทศ 37 แห่ง เป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ ให้บริการครอบคลุมทั้งด้านเงินฝากประเภทออมทรัพย์ ประจำ กระแสรายวัน ตั๋วเงินฝาก กองทุน และสินเชื่อที่ธนาคารฯ มีความเชี่ยวชาญได้แก่ บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ บริการสินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย บริการสินเชื่อธุรกิจ และบริการทรัพย์สินรอขาย เป็นต้น