บมจ. ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต (SCNYL) ฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจได้อย่างมั่นคง โชว์ผลงานปี 2551 เติบโตทั้งช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ ที่เป็นผู้นำตลาด และช่องทางนอนแบงก์ เบี้ยรับรวมเพิ่มขึ้น 24% เผยกลยุทธ์รับมือปี 2552 เดินหน้าขยายตลาดทุกช่องทาง เน้นคุณภาพธุรกิจ การดูแล และช่วยเหลือลูกค้า เตรียมส่งกรมธรรม์ใหม่ลงตลาด ด้านนโยบายลงทุน ยังยืนหยัดการลงทุนระยะยาว อนุรักษ์นิยม และมีวินัย
นายโดนอลด์ คาร์ดีน กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า แม้จะเผชิญความท้าทายจากวิกฤตเศรษฐกิจ ในปี 2551 ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ ยังมีการเติบโตในทิศทางที่ดี และมีฐานะการเงินแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยมีเบี้ยปีแรกจากทุกช่องทางการขายทั้งสิ้น 6,775 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10% ตามเป้าที่วางไว้ แบ่งเป็น สายงานธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ หรือแบงก์แอสชัวรันส์ 5,317ล้านบาท เติบโต 7% ซึ่งถือว่าน่าประทับใจ เพราะพอร์ทธุรกิจอยู่ระดับที่ใหญ่มาก และเศรษฐกิจก็ถดถอย สายงานตัวแทน มีเบี้ยปีแรก 880 ล้านบาท ขยายตัวสูง และน่าทึ่งที่สุดถึง 40% สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 30% และมากกว่าอัตราเฉลี่ยของตลาดถึง 4 เท่าตัว ซึ่งเป็นผลสำเร็จของการนำระบบ GOLD System ของนิวยอร์คไลฟ์มาใช้ ส่งผลให้สรรหาตัวแทนใหม่ ผลผลิตต่อหน่วยของตัวแทนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ด้านสายงานประกันชีวิตธุรกิจเฉพาะ ซึ่งประกอบด้วย การตลาดองค์กร เทเลมาร์เกตติ้ง เครดิตไลฟ์ และประกันกลุ่ม มีเบี้ยปีแรก 570 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% โดยการตลาดองค์กรเติบโตถึง 30%
ด้านเบี้ยรับปีต่อไป ทำได้ 9,076 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 34% และมีเบี้ยรับรวมทั้งหมด 15,100 ล้านบาท ขยายตัว 24% ซึ่งสูงกว่าอัตราเติบโตเฉลี่ยของธุรกิจถึง 200% อัตราเติบโตของเบี้ยรับปีต่อไป และเบี้ยรับรวมที่สูงเช่นนี้ สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพธุรกิจของบริษัทได้เป็นอย่างดี
เขากล่าวต่อถึงความสำเร็จดังกล่าวว่า นอกจากจะเกิดจากความแข็งแกร่งของกลยุทธ์การจัดจำหน่ายผ่านหลากหลายช่องทาง (Multi-distribution channels) ซึ่งสนับสนุนให้เข้าถึงลูกค้าได้ทุกกลุ่มแล้ว ปัจจัยสำคัญคือ วิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจในระยะยาว คำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ ฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง และความสามารถในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ทำให้รับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ได้อย่างมั่นคง
นายโดนอลด์ ได้กล่าวถึงทิศทางในปีนี้ว่า แม้ว่าเศรษฐกิจยังมีแนวโน้มถดถอย และการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตจะชะลอตัวลง เรามั่นใจว่าจะขับเคลื่อนขยายธุรกิจ และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าเบี้ยรับรวมจะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ไม่ต่ำกว่า 20% และจะนำ 5 กลยุทธ์หลักเป็นแนวทางในการรับมือกับความท้าทาย ซึ่งประกอบด้วย 1) การต่อยอดกลยุทธ์การจัดจำหน่ายผ่านหลากหลายช่องทางให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผลักดันช่องทางตัวแทนเป็นหัวหอกในการสร้างการเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ผ่านการรุกหนักรีครูทตัวแทนใหม่ เพิ่มคุณภาพการฝึกอบรมตัวแทนให้เป็นมืออาชีพ ซึ่งภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จะส่งผลดีต่อโอกาสการรีครูทตัวแทนใหม่ ส่วนผู้บริโภคจะหันมาออมผ่านประกันชีวิต ซึ่งให้ผลตอบแทนแน่นอน มั่นคง และมีความเสี่ยงต่ำมากขึ้น ส่วนการตลาดองค์กร และ เทเลมาร์เกตติ้ง คาดว่าน่าจะเติบโตประมาณ 30% ในขณะเดียวกัน จะยืนหยัดรักษาความเป็นผู้นำตลาดแบงก์แอสชัวรันส์ที่ครองมากว่า 5 ปี โดยเตรียมเจาะฐานลูกค้า และพัฒนากรมธรรม์ใหม่ 2) การดูแล และช่วยเหลือลูกค้า เน้นให้ตัวแทนขายทุกช่องทางดูแล แนะนำ และช่วยเหลือลูกค้าแต่ละรายในการวางแผนการออม และฝ่าฟันวิกฤติด้วยบริการคุณภาพเพื่อความพึงพอใจสูงสุด 3) เน้นคุณภาพธุรกิจในทุกมิติ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน 4) นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ มุ่งเน้นการพัฒนากรมธรรม์คุณภาพที่หลากหลายในช่องทางหลัก เพื่อรองรับภาวะเศรษฐกิจ และความต้องการลูกค้าที่เปลี่ยนแปลง 5) ยืนหยัดนโยบายการลงทุนระยะยาว อนุรักษ์นิยม มีวินัย และระมัดระวัง โดยเน้นการลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่การันตีผลตอบแทนแน่นอน และมั่นคง ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีฐานะการเงินมั่นคงตลอดมา และไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ
ด้านนายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวเสริมว่า ในปีนี้จะเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานร่วมกับสาขาธนาคารฯ ให้ดียิ่งขึ้น นำเสนอผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าทุกกลุ่ม พัฒนาพนักงานขายใหม่เพื่อให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ และเตรียมเปิดตัวกรมธรรม์ใหม่ เพื่อเน้นเจาะกลุ่มที่วางแผนการออมเพื่อเกษียณอายุ ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง
ส่วนนายรุ่งโรจน์ กิติยานุภาพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานตัวแทน กล่าวว่า จะต่อยอดความสำเร็จช่องทางตัวแทนผ่านแคมเปญรีครูทตัวแทนใหม่ชื่อ Sparkling Recruiting ซึ่งจะจัดทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าตัวแทนใหม่ 4,500 คน เน้นการฝึกอบรมตัวแทนคุณภาพ และสร้างผู้บริหารมืออาชีพ พร้อมเตรียมเปิดตัวโครงการขายประกันผ่านระบบอินเตอร์เน็ตที่ทันสมัย หรือเรียกว่า Automate Agent อย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มผลผลิตอีกประมาณ 25% นอกจากนี้จะเปิดสาขาใหม่อีก 8 แห่ง
ขณะที่นายไกดา ศรีเฟื่องฟุ้ง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานประกันชีวิตธุรกิจเฉพาะ เปิดเผยว่า จะเพิ่มพนักงานขายในช่องทางการตลาดองค์กรอีก 50% เตรียมพัฒนากรมธรรม์ใหม่ และเจาะกลุ่มลูกค้าบริษัทเอกชนในกรุงเทพฯ และภาคกลาง ส่วนเทเลมาร์เกตติ้ง จะเพิ่มทีมขาย และเพิ่มกรมธรรม์ใหม่ทั้งแบบประกันอุบัติเหตุ และประกันชีวิต
ปัจจุบัน ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ ติดอันดับ 3 ในด้านเบี้ยใหม่ด้วยส่วนแบ่งตลาด 9.6% และติดอันดับ 4 ในด้านเบี้ยรับรวม มีส่วนแบ่งตลาด 6.8% เพิ่มขึ้นจาก 6% ใน ปี 2550 ณ เดือนกันยายน 2551 มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 35,435 ล้านบาท และมีเงินสำรองประกันภัย 30,867 ล้านบาท