กรมส่งเสริมการส่งออก ประกาศความพร้อมจัดงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ปี 2552 หรือ TIFF 2009 ระหว่างวันที่ 11-15 มีนาคม 2552 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระดมผู้ผลิต ผู้ส่งออกเฟอร์นิเจอร์ไทยและต่างประเทศ มาโชว์ดีไซน์คอลเล็คชั่นใหม่อย่างคับคั่งกว่า 180 บริษัท 700 คูหา ตอบรับแนวคิด Imagine Green Living พร้อมโชว์ไฮไลต์และกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย ตั้งเป้าผู้ซื้อเข้าชมงานรวม 34,000 ราย ยอดขายกว่า 270 ล้านบาท
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า งาน TIFF 2009 (Thailand International Furniture Fair 2009) จะจัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Imagine Green Living ซึ่งแสดงถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไทยที่พัฒนาไปอีกขั้น ซึ่งหมายถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบโดยเน้น Simple เรียบง่ายแต่มีรายละเอียด, Refine สละสลวย ประณีต, Clean สะอาด และ Nature ใช้วัสดุจากธรรมชาติและใส่ใจกับสุขภาพของผู้ใช้ด้วยวัตถุดิบและระบบการผลิตที่ปลอดภัยจากสารพิษและสารตกค้างที่ส่งผลต่อสุขภาพ สอดคล้องกับเทรนด์การออกแบบและผลิตเฟอร์นิเจอร์ทั่วโลก
“การจัดงานครั้งนี้นอกจากจะแสดงถึงความก้าวหน้าด้านออกแบบที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว ยังเป็นสื่อกลางการพบปะระหว่างผู้ผลิต ผู้ประกอบการ นักออกแบบ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องตั้งแต่ชิ้นส่วน อุปกรณ์ เครื่องจักร วัสดุตกแต่งภายในที่มาร่วมแสดงในงาน เพื่อเปิดโอกาสในการเจรจาการค้า หาซัพพลายเออร์รายใหม่และสร้างความสำเร็จธุรกิจร่วมกัน สำหรับนักออกแบบจะได้เปิดโลกทัศน์ใหม่เพื่อพัฒนาตนเองให้ทันกับเทรนด์ของโลก” นายราเชนทร์ กล่าว
นายราเชนทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า งานนี้นับเป็นงานแสดงเฟอร์นิเจอร์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดของไทย เป็นโอกาสสำหรับคู่ค้าต่างประเทศที่จะมาชมความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์จากผู้ผลิตไทยทั่วประเทศซึ่งมีการพัฒนาทั้งรูปแบบงานดีไซน์ที่ก้าวหน้าไปมากและมีเอกลักษณ์เฉพาะ โดยใช้วัสดุหลากหลายประเภทนำมาสร้างสรรค์อย่างกลมกลืน นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์จากต่างประเทศมาร่วมแสดงงานด้วย อาทิ มาเลเซีย ฮ่องกง ไต้หวัน พม่า ลาว และกัมพูชา เป็นต้น
โดยตั้งเป้าหมายว่าจะมีผู้เข้าชมงานจากในและต่างประเทศรวม 34,000 ราย แบ่งเป็นวันเจรจาธุรกิจ 7,000 ราย และวันจำหน่ายปลีก 27,000 ราย โดยผู้เข้าชมงานจากต่างประเทศจะมาจากญี่ปุ่น อเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย อินเดีย แอฟริกา เกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน และอาเซียน และคาดว่าจะมีมูลค่าการสั่งซื้อใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการสั่งซื้อสินค้าในวันธุรกิจกว่า 223 ล้านบาท และการซื้อสินค้าในวันจำหน่ายปลีก 47 ล้านบาท
ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ Design Circle สื่อกลางที่พบปะระหว่างนักออกแบบและผู้ประกอบการในการพัฒนาธุรกิจสู่ความสำเร็จร่วมกัน, DEmark โชว์ผลงานที่ได้รับรางวัล Design Excellence Award ที่แสดงถึงผลงานที่โดดเด่นทางด้านการออกแบบในระดับชาติของไทย, โครงการเปลี่ยนขยะให้เป็นทอง แสดงผลงานเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้, โครงการ American Hardwood Design Camp โชว์ผลงานเฟอร์นิเจอร์จากฝีมือนักศึกษา 10 สถาบัน และนิทรรศการโฮเท็ล คูเลีย ที่รวบรวมเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านภายใต้แนวคิด Ideal Resort Hotel กับ 3 สไตล์ คือ Beach Side, City Hideaway และ Mountain High เพื่อเจาะกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นโครงการโรงแรมหรือที่พักอาศัย ตลอดจนกลุ่มสถาปนิกและมัณฑนากร
สำหรับการส่งออกเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วนในเดือนมกราคม 2552 นั้นมีมูลค่ารวม 70.23 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,409.74 ล้านบาท ลดงลงร้อยละ 29.43 อย่างไรก็ตาม นายไพบูลย์ พินิตกาญจนพันธุ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไทย กล่าวว่า ขณะนี้สัญญาณที่ดีของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์กำลังเริ่มขึ้น เพราะผู้นำเข้าหลายๆ รายกำลังสั่งซื้อจากไทยมากขึ้น เช่น ห้างสรรพสินค้าวอลล์มาร์ทและออฟฟิศดีโป้ มีการสั่งซื้อเพิ่มขึ้น อีเกีย ซึ่งเป็นร้านขายเครื่องเรือนและของใช้ภายในบ้านขนาดใหญ่ของประเทศสวีเดน ได้เซ็นสัญญาสั่งซื้อจากผู้ผลิตไทยมูลค่า 15,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ในประเทศจีน ได้ปิดกิจการไปแล้วประมาณ 8,000-9,000 ราย จึงเป็นโอกาสที่การสั่งซื้อจากประเทศต่างๆ จะเข้ามายังประเทศไทยมากขึ้น โดยคาดว่าอัตราการเติบโตอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ของไทยในปีนี้จะอยู่ที่ร้อยละ 3-5
ทางด้าน นายวีระชัย คุณาวิชยานนท์ รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ดีของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ เนื่องจากสต๊อกที่ผู้นำเข้าจากต่างประเทศที่เคยสั่งเข้าไปจำหน่ายใกล้จะหมดซึ่งจะต้องมีการสั่งเพิ่ม ทางด้านอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบันก็เอื้ออำนวยต่อการส่งออก ขณะเดียวกันคุณภาพเฟอร์นิเจอร์ของไทยก็ได้รับการยอมรับจากผู้นำเข้าโดยเฉพาะเรื่องการออกแบบ ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยได้รับการยอมรับอย่างมาก โดยล่าสุดได้รับเลือกให้ไปแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ที่มิลาน ประเทศอิตาลี เป็นครั้งแรก ซึ่งแสดงถึงการที่อิตาลียอมรับว่าการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ของไทยมีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ทัดเทียมประเทศชั้นนำด้านการออกแบบ
