แอคคอร์ บริษัทบริหารโรงแรมที่มีเครือข่ายมากที่สุดในประเทศไทย แถลงข่าววันนี้เพื่อเปิดตัวโครงการโรงแรมเพิ่มอีก 4 แห่งในประเทศไทย ร่วมกับ ฟิโก้ คือ โนโวเทล กรุงเทพ ฟีนิกซ์ เพลินจิต, โนโวเทล กรุงเทพ ฟีนิกซ์ สีลม, เมอร์เคียว สมุย ฟีนิกซ์, และ โฮเต็ล มิวส์ กรุงเทพ (สมาชิกของเอ็มแกลเลอรี่ คอลเลคชั่น)
นายไมเคิล ไอเซนเบิร์ก ประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารของแอคคอร์ เอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่ได้กระชับความสัมพันธ์กับ ฟิโก้ ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าของโรงแรม เลอฟีนิกซ์ ในกรุงเทพฯ ภายใต้การบริหารงานของแอคคอร์ตั้งแต่ปี 2550 โครงการโรงแรมใหม่เหล่านี้จะเติมเต็มความต้องการของนักเดินทางเพื่อธุรกิจและนักท่องเที่ยวทั่วไปที่เดินทางมายังกรุงเทพฯ ประเทศไทย และประเทศใกล้เคียง ภายใต้แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีในประเทศไทย”
3 ใน 4 โรงแรมจะตั้งอยู่ในใจกลางกรุงเทพฯ
โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ ฟีนิกซ์ เพลินจิต (380 ห้อง) ตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต ใกล้แหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ และแหล่งบันเทิง ด้วยทำเลและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน คาดว่าโรงแรมจะเป็นที่นิยมทั้งในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วไปและนักธุรกิจ และพร้อมจะให้บริการในปี 2553
อีกหนึ่งโครงการในกรุงเทพฯ คือ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ ฟีนิกซ์ สีลม (ก่อนหน้านี้รู้จักในนามโรงแรมสีลม พลาซ่า) ซึ่งจะได้รับการปรับปรุงและเปิดในปี 2553 เช่นกัน โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ย่านธุรกิจ แม่น้ำเจ้าพระยา และทางขึ้นลงทางด่วนอีกด้วย โดยโรงแรมจะมี 225 ห้อง ร้านอาหาร 1 ร้าน บาร์ เลาน์จ สระว่ายน้ำ ฟิตเนสเซ็นเตอร์ และบิสสิเนสเซ็นเตอร์
โรงแรม โฮเต็ล มิวส์ กรุงเทพ (166 ห้อง) จะเป็นสมาชิกแห่งที่ 2 ของเอ็มแกลเลอรี่คอลเล็คชั่นในกรุงเทพฯ (ร่วมกับโรงแรมวี โฮเต็ล กรุงเทพ ซึ่งเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่ปลายปี 2551) โรงแรมจะเน้นในเรื่องการออกแบบตกแต่งและจะตั้งอยู่ในใจกลางย่านที่มีชีวิตชีวาที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ บนถนนหลังสวนซึ่งมีแหล่งบันเทิงและร้านอาหารเลิศรสมากมายให้เลือก โดยโรงแรมมีแผนจะเปิดให้บริการได้ในปี 2554
โรงแรม โฮเต็ล มิวส์ กรุงเทพ และโรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ ฟีนิกซ์ เพลินจิตเป็นโรงแรมสร้างใหม่
โรงแรมเมอร์เคียว สมุย ฟีนิกซ์ เคยรู้จักในนาม สมุย พาร์ค ตั้งอยู่บนหาดละไม โรงแรมมี 52 ห้อง 8 วิลล่า พร้อมห้องประชุม สระว่ายน้ำ สระเด็ก ร้านอาหารและบาร์ คาดว่าโรงแรมจะพร้อมให้บริการกลางปีนี้หลังการปรับปรุงและเปลี่ยนชื่อโรงแรม
“เมื่อรวม 4 โรงแรมใหม่นี้แล้ว แอคคอร์มีโครงการจะเปิดโรงแรมและรีสอร์ทในประเทศไทยทั้งสิ้น 11 แห่ง ซึ่งเป็นการแสดงความมั่นใจในศักยภาพการท่องเที่ยวไทย ประเทศไทยยังมีสายการบินมากมายให้บริการทั้งในภูมิภาคและระยะไกล มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมายพร้อมสาธารณูปโภคเพื่อการท่องเที่ยวครบครัน และทำเลวิวสวยเหมาะสำหรับรีสอร์ทมากมาย ประเทศไทยเสมือนเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักในด้านความปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยวและค่าครองชีพที่ไม่สูงจนเกินไป ทั้งยังเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวมักกลับมาเยี่ยมเยือน และพวกเขาจะต้องกลับมาในอีกไม่ช้านี้” นายไอเซนเบิร์ก กล่าวเสริม
เมื่อเดือนที่ผ่านมา แอคคอร์เปิดตัว 7 โครงการใหม่ในกรุงเทพฯ เกาะสมุย ภูเก็ต และกระบี่ ภายใต้แบรนด์โนโวเทล เมอร์เคียว และไอบิส โรงแรมเหล่านี้คือ โรงแรมโนโวเทลกรุงเทพแพลตตินั่ม, โรงแรมโนโวเทลภูเก็ต กมลา เบย์, โรงแรมเมอร์เคียวสมุยบุรี, โรงแรมออลซีซั่นส์สมุย เชวง, โรงแรมไอบิสกรุงเทพนานา, โรงแรมไอบิส กะตะ ภูเก็ต และ โรงแรมไอบิส กระบี่ ทุกโรงแรมคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2554 ทั้ง 11 โครงการจะเป็นส่วนขยายให้เครือข่ายแอคคอร์ที่ปัจจุบันมีแล้วกว่า 39 โรงแรมและรีสอร์ททั่วประเทศ
แอคคอร์ คือผู้นำด้านธุรกิจโรงแรมทั้งในยุโรปและของโลก อีกทั้งยังเชี่ยวชาญในระดับโลกอีกเช่นกันในธุรกิจการให้บริการกับลูกค้าองค์กรธุรกิจและสถาบันของรัฐ ซึ่งมีการดำเนินงานครอบคลุมในเกือบ 100 ประเทศทั่วโลก มีพนักงานในเครือรวมกันกว่า 150,000 คน แอคคอร์ให้บริการกับลูกอย่างมืออาชีพด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปีในธุรกิจหลักสองประเภท ได้แก่
– ธุรกิจโรงแรม ภายใต้ชื่อ โซฟิเทล, พูลแมน, เอ็มแกลเลอรี่, โนโวเทล, เมอร์เคียว, สวีทโฮเทล, อีบิส, ออลซีซั่นส์, เอตัปโฮเท็ล, ฟอร์มูล 1 และโมเทล 6 มีโรงแรมกว่า 4,000 แห่ง ห้องพักเกือบ 500,000 ห้อง ใน 90 ประเทศ รวมทั้งธุรกิจทางด้านอาหาร เช่น เลอโนท อีกด้วย
– ธุรกิจบริการ แอคคอร์เซอร์วิสให้บริการแก่ลูกค้ามาแล้วมากกว่า 30 ล้านคนใน 40 ประเทศทั่วโลก ทั้งด้านทรัพยากรมนุษย์ การบริการด้านการตลาดและบริหารจัดการค่าใช้จ่าย
