เมื่อเร็วๆ นี้ อเมริกัน พาวเวอร์ คอนเวอร์ชั่น คอร์ปอเรชั่น (เอพีซี) ในเครือของชไนเดอร์ อิเล็กทริก ผู้นำธุรกิจด้านพลังงานสำรองฉุกเฉินและระบบควบคุมความเย็นแบบครบวงจรระดับโลกประกาศวันนี้ว่า บริษัทได้แต่งตั้ง คู เต็ง ซีน (ทีเอส คู) ให้นั่งตำแหน่งรองประธานประจำภูมิภาคอาเซียน
โดยภายใต้บทบาทใหม่นี้ คู เต็ง ซีน หรือ ทีเอส คู จะรับผิดชอบด้านการวางกลยุทธ์ธุรกิจในอาเซียน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเอพีซีในสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนามและประเทศไทย จะยังคงมุ่งเน้นในส่วนของลูกค้าและพันธมิตร ที่เป็นคู่ค้าทางธุรกิจเป็นหลัก คู เต็ง ซีน ยังจะเป็นผู้นำทีมในการพัฒนากระบวนการที่ให้ความสำคัญกับลูกค้า การนำเสนอโซลูชันด้านพลังงานที่มีประสิทธิภาพในเชิงสร้างสรรค์ในห้องศูนย์ข้อมูล และการสร้างความสัมพันธ์ที่ประสบความสำเร็จในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของชไนเดอร์ อิเล็กทริก โดยก่อนหน้านี้ คู เต็ง ซีนดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายการบริการประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกและญี่ปุ่น
ทีเอส คู ได้เข้าร่วมงานกับเอพีซีในเดือนพฤษภาคม 2549 โดยได้พกพาประสบการณ์ที่มีในแวดวงอุตสาหกรรมด้านไอทีถึง 17 ปีเต็ม และประสบการณ์อีกกว่า 10 ปีในการจัดการด้านการบริการระดับภูมิภาคทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิก โดยในครั้งแรกคู เต็ง ซีนได้นั่งเก้าอี้ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการบริการ ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก และต่อมาได้ก้าวขึ้นเป็นรองประธานฝ่ายการบริการประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกและญี่ปุ่น ก่อนที่จะสวมบทบาทรองประธานประจำภูมิภาคอาเซียนในเดือนตุลาคม ปี 2008 โดยตลอดอายุการทำงาน คู เต็งซีนได้มีส่วนร่วมเป็นอย่างมากในการสร้าง พัฒนา และปรับปรุงธุรกิจด้านการบริการ
ทีเอส คู กล่าวว่า“ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวชไนเดอร์ อิเล็กทริก เราเปี่ยมด้วยประสบการณ์ในทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ข้อมูล และโครงสร้างพื้นฐานสำหรับอุตสาหกรรม ตั้งแต่ด้านพลังงานไปจนถึงระบบควบคุมความเย็น ตู้แร็ค และระบบรักษาความปลอดภัย และเรายังมีความแตกต่างที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งก็คือ ซอฟต์แวร์สำหรับองค์กรและการบริการ ซึ่งจะช่วยบริษัทต่างๆ ในการเพิ่มความพร้อมในการทำงาน และความน่าเชื่อถือในระบบไอที ด้วยการทุ่มทุนอย่างมากในการวิจัยและพัฒนาโซลูชันด้านพลังงานที่มีประสิทธิภาพสำหรับห้องศูนย์ข้อมูล เอพีซีสามารถทำให้ลูกค้าของเราได้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของมูลค่าทางธุรกิจและผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างแท้จริง”
“ผมรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเป็นผู้นำทีมในอาเซียนในการทำงานร่วมกับลูกค้าของเรา ในฐานะที่เป็นที่ปรึกษาที่น่าเชื่อถือ เพื่อช่วยลูกค้าของเราในการสร้างพลังงานให้มีประสิทธิภาพและมีคุณค่ามากที่สุด”ทีเอส คูกล่าวเสริม
เกี่ยวกับเอพีซี ในเครือของชไนเดอร์ อิเล็กทริก
เอพีซี ผู้นำธุรกิจและบริการด้านพลังงานสำรองฉุกเฉิน และระบบควบคุมความเย็นแบบครบวงจรระดับโลก ในเครือของชไนเดอร์ อิเล็กทริก นำเสนอผลิตภัณฑ์ชั้นนำต่างๆ ซอฟต์แวร์ และโซลูชั่นคุ้มครองและป้องกันการเสียหายของข้อมูล รวมทั้งการเสียหายของฮาร์ดแวร์และการหยุดชะงักของระบบงานให้แก่ตลาดอุตสาหกรรม ศูนย์ข้อมูล องค์กร ธุรกิจตั้งแต่ระดับเล็ก กลาง จนถึงผู้ใช้งานตามบ้าน ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่ง ประสบการณ์ระดับโลกและเครือข่ายทึ่ครอบคลุมมากกว่า ในบริการด้านพลังงานสำรองฉุกเฉินและระบบควบคุมความเย็นของชไนเดอร์ อิเล็คทริค
เอพีซี และ เอ็มจีอี ยูพีเอส ซิสเต็มส์ ได้ผนวกกันเมื่อปี พ.ศ. 2550 เพื่อจัดตั้งหน่วยธุรกิจและบริการด้านพลังงานสำรองฉุกเฉิน และระบบควบคุมความเย็นในเครือของชไนเดอร์ อิเล็คทริค โดยเอพีซี และเอ็มจีอี มียอดจำหน่ายทั่วโลกในปี 2551 ถึง 2.6 พันล้านยูโร (รวมรายได้จาก APC-MGE ที่ 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) และมีพนักงาน 12,000 คนทั่วโลก
โซลูชั่นของเอพีซี ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์เครื่องสำรองกระแสไฟฟ้า หรือ uninterruptible power supplies (UPS) ระบบทำความเย็นภายในตู้แร็ค (precision cooling units) ผลิตภัณฑ์ตู้แร็ค (racks) การบริการออกแบบวางระบบ และซอฟต์แวร์สำหรับบริหารและจัดการภายในห้องศูนย์ข้อมูล รวมถึงเอพีซี InfraStruXure? โซลูชั่นที่ครอบคลุมและตอบสนองความต้องการด้านอุตสาหกรรม ชไนเดอร์ อิเล็คทริค มีพนักงาน 114,000 คนทั่วโลก ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ใน 100 ประเทศ มียอดจำหน่ายรวมทั่วโลกในปี พ.ศ. 2551 ที่ 18.3 พันล้านยูโร รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอพีซี สามารถเข้าชมได้ที่ www.apc.com