• เส้นสายคมคายชัดเจน เพิ่มสีสันให้ตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก
• การออกแบบภายในทันสมัย ฉีกกรอบด้วยแรงบันดาลใจจากแผงมาตรวัดรถมอเตอร์ไซด์ ติดตั้งอยู่บนคอพวงมาลัย เสริมความโดดเด่นและแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์
• ห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบายกว่ารถรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน
• ประหยัดน้ำมันด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.0/1.2 ลิตร ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่า 120 กรัม ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยที่ค่อนข้างต่ำ
เปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกแล้วที่งานเจนีวา ออโต้ โชว์ สำหรับ เชฟโรเลต สปาร์ค ใหม่ รถขนาดเล็กที่ได้รับการออกแบบให้สื่อถึงความยิ่งใหญ่ เปี่ยมด้วยสไตล์ ประหยัดน้ำมัน และคุ้มค่า คุ้มราคา เช่นเดียวกับรถเชฟโรเลต ที่มาพร้อมโลโก้ “โบไท” สีทองอร่าม ทุกรุ่น
ด้วยรูปลักษณ์โดดเด่นเหนือใคร ผนวกดีไซน์เส้นสายที่คมชัด สื่อถึงความกระตือรือร้น มีชีวิตชีวา สมกับที่เป็นรถไซส์มินิขับสนุก พร้อมความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของ ด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 และ 1.2 ลิตร มาพร้อมกับตัวถังแบบห้าประตู แฮทช์แบ็ค เพิ่มความเอนกประสงค์ได้เหนือความคาดหมาย ทำให้เชฟโรเลต สปาร์ค เป็นรถที่หมายมั่นว่า จะเข้ามาสร้างสีสันให้ตลาดรถยนต์ขนาดเล็กในยุโรปได้อย่างแน่นอน
เชฟโรเลต สปาร์ค มีกำหนดการผลิตออกจำหน่ายจริงในช่วงต้นปีหน้า ได้รับการพัฒนามาจากรถต้นแบบ เชฟโรเลต บีท ซึ่งเป็นหนึ่งในสามรถยนต์ขนาดเล็ก ที่ได้รับความสนใจสูงสุดจากการออกแสดงในงาน มอเตอร์โชว์ทั่วโลก เมื่อปี 2550 นอกจากนี้ ยังได้รับคะแนนโหวตจากทางอินเตอร์เน็ตกว่า 1.9 ล้านเสียง ที่ยกให้ สปาร์ค เป็นรถในฝันอีกด้วย
“สปาร์ค จะเข้ามาเพิ่มสีสันให้ตลาดรถยนต์ขนาดเล็กในยุโรปอย่างแน่นอน” เวนน์ แบรนนอน รองประธาน เจนเนอรัล มอเตอร์ส และเชฟโรเลต ในยุโรป กล่าว “รถรุ่นนี้มีคุณสมบัติครบถ้วนทั้งในเรื่องความประหยัดน้ำมัน ประโยชน์ใช้สอย และรูปลักษณ์ที่สะดุดตาผสมผสานกับความคุ้มค่า คุ้มราคา”
รถเล็ก ดีไซน์ใหญ่
ภายใต้ ความน่ารัก น่าทะเล้นของรูปโฉมภายนอก สปาร์ค แฝงไว้ซึ่งความเฉียบคมและแข็งแกร่ง ด้วยดีไซน์ที่ท้าทายทุกสายตา เส้นสายคมกริบชัดเจน แตกต่างจากรถซิตี้คาร์ทั่วไปด้วยการออกแบบที่เน้นความดุัดันโดยปราศจากข้อจำกัดเรื่องมิติตัวถังรถ สปาร์ค ถือเป็นนวัตกรรมการออกแบบของเชฟโรเลตที่ได้นำความตื่นตาตื่นใจในเรื่องของการออกแบบผนวกเข้ากับความคุ้มค่าได้เป็นอย่างดี
ตัวถังรถแบบขึ้นรูปชิ้้นเดียวช่วยให้รถดูปราดเปรียว เสริมความสะดุดตาด้วยลอนด้านข้างเสริมสันคม ซุ้มล้อเน้นให้ดูเหมือนงานปั้นประติมากรรมชั้นเลิศ ไฟหน้าทรงหยดน้ำ รูปร่างภายนอกอันน่าตื่นตาของสปาร์ค ปราศจากเส้นสาย หรือลวดลาย และการตกแต่งภายนอกใดๆให้ดูรกรุงรัง ด้านหน้าของตัวรถ โดดเด่นด้วยกระจังหน้่า 2 ช่อง มีเส้นสายนำสายตาจากกรอบไฟหน้าทรงโฉบเฉี่ยวพาดยาวขึ้นไปถึงหลังคา ด้านล่าง สะดุดตาทั้งไฟตัดหมอก และช่องระบายอากาศที่เน้นมุมมองการพุ่งทะยาน ซุ้มล้อคู่หลังสะท้อนความแข็งแกร่ง มีให้เลือกตามความเหมาะสมตั้งแต่ 13, 14, และ 15 นิ้วนั้น ล้วนทำให้รถอยู่ในสถานะเตรียมพร้อมออกตัวได้ทุกเมื่อ
ด้ามจับประตูหลัง ถูกออกแบบให้มีลูกเล่นโดยให้กลมกลืนกับกระจกหลัง ดูลื่นไหลไปกับซุ้มล้อ ส่วนประกอบอื่นอย่าง สปอยเลอร์หลัง และไฟท้ายทรงกลมแบบเชฟวี่อันเป็นที่รู้จักกันดีนั้น เป็นรายละเอียดตกแต่งเพิ่มเติมที่ช่วยเสริมให้สปาร์คดูน่าจับจองเป็นเจ้าของยิ่งนัก
เพราะเพียบพร้อมด้วยความเอนกประสงค์และสมดุล เชฟวี่ สปาร์ค จึงเป็นรถ ซิตี้ คาร์ ที่พรั่งพร้อมไปด้วยทัศนคติอันทันสมัย แม้จะมีขนาดที่เล็ก แต่ความภาคภูมิใจนั้นเกินจะบรรยาย
ห้องโดยสารมีระดับ
ดีไซน์ล้ำหน้าของห้องโดยสารที่มีพื้นที่กว้างขวางของสปาร์คนั้น ได้รับการออกแบบอย่างมีรสนิยมให้เหมาะสมกับรูปลักษณ์ภายนอกของตัวรถ หลักสำคัญที่สุดสำหรับการออกแบบรถคันนี้ คือการใช้วัสดุคุณภาพและการตกแต่งที่เหนือชั้น เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่ารถขนาดเล็กที่มอบคุณค่าเกินตัวนั้น ไม่จำเป็นจะต้องมีการตกแต่งภายในที่มุ่งเน้นเพียงประโยชน์ใช้สอย หรือเรียบง่ายเท่านั้น
นอกจากความสดใสและน่าดึงดูดแล้ว สปาร์ค ยังมีการออกแบบภายในที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของเชฟโรเลต อย่าง “ดูอัล ค็อกพิต” โครงแผงหน้าปัดด้านหน้าออกแบบให้พาดไปตามคอนโซลทั้งสองด้านของรถสู่ประตู ให้ความรู้สึกถึงพื้นที่อันกว้างขวาง
สีสันภายนอกตัวถังรถนั้นพาดยาวเข้ามาภายในบริเวณด้านล่างของแผงหน้าปัด และบานประตู แผงควบคุมนั้นโดดเด่นด้วยสีเฉพาะตัวของเชฟโรเลต หรือสี เชฟวี่ ไอซ์บลู สร้างความปราดเปรียวให้แก่ห้องโดยสารยิ่งขึ้น มาตรวัดได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถมอเตอร์ไซด์สุดหรู ประกอบด้วยมาตรวัดอัตราความเร็วขนาดใหญ่และหน้าปัดดิจิตอลวัดรอบเครื่องยนต์ ซึ่งล้วนเป็นการออกแบบที่ลงตัว
เครื่องเสียง ระบบอุณหภูมิ ระบบระบายอากาศ และระบบนำทางนั้น ถูกออกแบบให้ติดตั้งรวมกันอย่างเหมาะสม บริเวณคอนโซลหน้า ขณะที่พื้นที่คอนโซลด้านล่างประกอบด้วยช่องสำหรับวางแก้ว ช่องเก็บของขนาดพอเหมาะ และช่องคันเกียร์ทำจากอลูมิเนียม เพิ่มความลงตัวที่เข้ากันดีกับพวงมาลัย
สปาร์ค มีระยะห่างฐานล้ออยู่ที่ 2,375 มิลลิเมตร รับกับความยาว 3,640 มิลลิเมตรของตัวถังรถ ซึ่งทำให้ห้องผู้โดยสารมีพื้นที่ช่วงขามากขึ้น ทั้งตอนหน้าและตอนหลังของรถ เบาะโดยสารบุด้วยนวมวัสดุชั้นเลิศ สีสันโดดเด่นสดใส ซึ่งรวมถึงการใช้ตะเข็บตัดเย็บแบบฝรั่งเศสอีกด้วย
ถึงแม้สปาร์คจะมีด้านท้ายที่ยื่นออกมาเล็กน้อย เพื่อความสะดวกสบายในการจอดรถ แต่ก็มีพื้นที่เก็บของท้ายรถความจุมากถึง 994 ลิตร ซึ่งเกินกว่ามาตรฐานถึง 170 ลิตรเลยทีเดียว โดยลดพื้นที่ 60/40 ของที่นั่งพับได้ตอนท้าย ประตูรถทั้งสี่นั้นกว้างพอสำหรับการบรรจุสิ่งของต่างๆ ความเอนกประสงค์ของสปาร์คนั้นสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบยิ่งขึ้นไปอีกโดยการติดตั้งราวหลังคา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่พบค่อนข้างน้อยในรถรุ่นอื่น
อุปกรณ์พิเศษอันหลากหลายยังรวมถึง ที่นั่งคนขับปรับระดับความสูงได้ พวงมาลัยปรับระดับได้ กระจกหน้าต่างด้านข้างควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า เบาะนั่งด้านหน้าปรับอุณหภูมิได้ ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย กระจกมองข้างควบคุมด้วยไฟฟ้าและปรับอุณหภูมิได้ คอมพิวเตอร์วัดระยะทาง และกระจกบานหน้าละลายน้ำแข็งได้
ระบบขับเคลื่อน
เครื่องยนต์เบนซิน อลูมิเนียมทั้งบล็อกรุ่นใหม่ล่าสุด ขนา่ดความจุ 1.0 และ 1.2 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 66 แรงม้า หรือ 49 กิโลวัตต์ และ 78 แรงม้า หรือ 58 กิโลวัตต์ตามลำดับ โดยมีวงจรการเผาผลาญพลังงานผสม ต่ำกว่า 5.0 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร ควบคู่ไปกับ การเผาผลาญก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ที่น้อยกว่า 120 กรัม
เครื่องยนต์มาตรฐาน ยูโร 5 ขนาด 16 วาล์ว ถูกออกแบบมาสำหรับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด สำหรับเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรนั้น สามารถเร่งความเร็วตั้งแต่ 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในช่วงเวลาเพียง 12.4 วินาที
นอกจากจะให้ความประหยัดแล้ว สปาร์คยังมอบสุนทรียภาพในการขับขี่อย่างนุ่มนวลอีกด้วย ซึ่งรวมถึงการลดระดับเสียงรบกวน และแรงสะเทือนเหมือนกับรถสุดหรูขนาดใหญ่ ระบบดูดเสียง 3 ชั้นทำหน้าที่ดีเยี่ยม ป้องกันเสียงรบกวน โดยมีฉนวนดูดซับเสียงจากช่วงล่าง คอนโซลด้านหน้าและเบาะตัวรถด้านใน ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท ขณะที่ด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่น บีม โดยมีระบบควบคุมการทรงตัวด้วยไฟฟ้า (Electronic Stability Control (ESC)) เป็นอุปกรณ์เสริมพิเศษ
อุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐานได้แก่ ถุงลมนิรภัยคู่ ด้านข้างและม่านนิรภัย เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าระบบดึงกลับอัตโนมัติ สำหรับที่นั่งด้านหลังมีการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยถึงสามจุด พร้อมกันนี้ เป็นที่คาดหมายกันว่า สปาร์ค จะได้รับคะแนนค่อนข้างสูงสำหรับการทดสอบความปลอดภัยและการชนของ EuroNCAP
การเติบโตของแบรนด์
ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ยอดขายรถเล็กในยุโรปพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากน้อยกว่า 1 ล้านคัน เป็นเกือบ 1.4 ล้านคัน และมีการคาดคะเนว่า สปาร์ค ซึ่งได้รับประทับตราสัญลักษณ์ “โบไท” สีทองอร่ามนั้น จะเป็นแรงสำคัญในการแผ่ขยายความนิยมของแบรนด์ได้อย่างมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดยุโรปตะวันตก
ในขณะที่รถมินิคาร์ของเชฟโรเลตกำลังกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง สปาร์คนั้นเป็นย่างก้าวสำคัญของโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่นำโดย คอมแพคท์ ซีดาน เชฟวี่ ครูซ ซึ่งจะเปิดตัวในช่วงกลางปีนี้ รถทั้งสองรุ่นนี้โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์การออกแบบเฉพาะตัว ซึ่งในปีหน้า จะมีการรวมตัวกับรถคอมแพคท์ เอ็มพีวี รุ่นใหม่ ซึ่งมีรากฐานมาจากรถต้นแบบ ออร์แลนโด ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว
เชฟโรเลตยังคงเดินอย่างมุ่งมั่นในการเป็นแบรนด์รถยนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดของยุโรป ถึงแม้ในช่วงครึ่งปีหลัง ของ 2551 จะต้องเผชิญกับความท้าทายของตลาดรถยนต์ แต่เชฟโรเลตยังคงมียอดขายต่อปีที่สูงขึ้นเกือบ 11 เปอร์เซนต์ หรือกว่า 500,000 คัน ในยุโรปเป็นครั้งแรก การเปิดตัว สปาร์ค ครูซ และ ออร์แลนโด จะสร้างความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ สานต่อเรื่องราวความสำเร็จอันเลื่องลือนี้ต่อไป