แสนสิริ ปิดไตรมาส 1 สวยหรู เป็นไตรมาสแรกที่ดีที่สุดตั้งแต่แสนสิริเคยทำได้ ด้วยยอดขาย 6,100 ล้านบาทตามเป้าที่ตั้งไว้ เผยรายได้หลักมาจากคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในระยะเวลาใกล้เคียงกันทีเดียว 3 โครงการรวด และผลจากการจัดกิจกรรมการตลาดที่หลากหลายและได้ผลดี พร้อมบุกเปิดอีก 7 โครงการแนวราบ มั่นใจปลายปีดันรายได้ไปถึง 17,000 ล้านบาท ตามเป้า พร้อมโชว์ Presale backlog ที่ทำได้แล้วถึง 18,500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ในปี 2552 ถึง 12,600 ล้านบาท
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า “ปี 2552 นี้ แสนสิริตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 17,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อปิดไตรมาสที่หนึ่งไปแล้ว สามารถสร้างยอดขายได้ 6,100 ล้านบาท หรือคิดเป็น 35 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายทั้งปี ทั้งนี้ ผลสำเร็จส่วนหนึ่ง มาจากการรุกเปิดตัวทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม รวม 9 โครงการ โดยยอดขายหลักที่ได้มาจากคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ได้แก่ ควอทโท บาย แสนสิริ, บลอกส์ 77 และ เดอะ เวอร์ติคัล อารีย์ คาดว่ายอดขายอีก 60 % สำหรับอีก 9 เดือนที่เหลือจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน เนื่องจากในอีก 3 ไตรมาสที่กำลังจะมาถึง แสนสิริ มีแผนการเปิดตัวโครงการ อีก 7 โครงการ ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว 5 โครงการ และทาวน์เฮ้าส์อีก 2 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท ส่วนเป้ารายได้ 17,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมียอด Presale Backlog ถึง 18,500 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ได้ทั้งหมดในปี 2552 เป็นจำนวนถึง 12,600 ล้านบาท คิดเป็น 76% ของรายได้ที่จะเข้ามาในปี “
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา แสนสิริได้รุกจัดกิจกรรมการตลาดหลากหลายแนวทางไม่ว่าจะเป็น คอนเสิร์ต Family, Rhythm & Harmony ที่เป็นการจัดงานเพื่อตอบแทนลูกค้าครั้งใหญ่ การจัดงาน Living in Style 2009 เพื่อส่งเสริมการขาย ซึ่งกิจกรรมใหญ่ทั้งสองงานได้รับผลตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าทั้งในแง่ของยอดการขายที่ยังส่งผลต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และการรับรู้ของผู้บริโภคในสภาวะที่ตลาดไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวสักเท่าใดนัก รวมถึงกิจกรรมการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ และภาพยนต์โฆษณา 3 เรื่อง ทุกอย่างล้วนมีส่วนช่วยส่งผลให้แสนสิริสามารถสร้างยอดขายได้จำนวนมาก และสำหรับอีก 3 ไตรมาสที่เหลือ ทางแสนสิริยังคงจะมีกิจกรรมใหม่ๆ พร้อมกับสินค้าใหม่พร้อมที่จะนำเสนอเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคในอนาคตอย่างแน่นอน
“โครงการที่แสนสิริเปิดขายปัจจุบันทั้งคอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว มีทั้งสิ้น 42 โครงการ ซึ่งมีจำนวนเพียงพอสอดรับกับความต้องการของลูกค้า และครอบคลุมทุกระดับราคา และทุกเซ็กเมนท์ของที่อยู่อาศัย ซึ่งนับเป็นจุดแข็งของแสนสิริที่มีสินค้าให้กับลูกค้าได้เลือกจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ดี เรายังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ๆ อีกอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยอีก 7 โครงการ โดยเน้นไปที่แนวราบเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งกลยุทธ์นี้ถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดในภาวะที่เศรษฐกิจการเมืองยังไม่เข้าที่ “เจ้าใหญ่” ที่ออกมาชิงพื้นที่ได้ก่อน ก็จะได้รับการตอบรับที่ดีกว่า ทำให้เราสามารถย้ำแบรนด์แสนสิริให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคสามารถเห็นทางเลือกที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย” นายเศรษฐา กล่าว