“พนมรุ้ง” ผู้นำตลาดข้าวในกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร ประกาศรุกช่องทางค้าปลีกอย่างเป็นทางการ ลั่นปี 2552 ปิดยอดขายได้กว่า 164 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตสูงถึง 107% พร้อมทุ่มงบประมาณกว่า 12 ล้านบาทในช่วงไตรมาสที่สอง เน้นทำตลาดแบบครบวงจร จับกลุ่มลูกค้าครอบครัวและแม่บ้านระดับกลางถึงบน ชูจุดแข็งหุงง่าย คงความนุ่มอร่อยได้เท่ากันทุกถุงตลอดทั้งปี ขยายช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมจัดอีเว้นท์ทอล์กออฟเดอะทาวน์เปิดตัวยิ่งใหญ่
นายวิพุธ หวั่งหลี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบริหารงานขายและการตลาด บริษัท ชัยทิพย์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ข้าวภายใต้แบรนด์ “พนมรุ้ง” เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มทำตลาดผลิตภัณฑ์ข้าวแบรนด์พนมรุ้งมาตั้งแต่ปี 2548 โดยมุ่งเจาะตลาดฟู้ดเซอร์วิส หรือกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา พนมรุ้งถือเป็นแบรนด์ข้าวคุณภาพที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุดในตลาดฟู้ดเซอร์วิส โดยเน้นจุดเด่นในเรื่องของ “คุณภาพข้าวสวยที่นุ่มอร่อยคงที่” โดยเชฟสามารถหุงข้าวพนมรุ้งด้วยอัตราส่วนข้าวต่อน้ำที่เท่ากันตลอดและได้ข้าวสวยที่นุ่มอร่อยเท่ากันเสมอ ในการเจาะตลาดฟู้ดเซอร์วิส พนมรุ้งมุ่งเน้น “การบริการข้าวครบวงจร” เริ่มตั้งแต่การผลิตที่ทันสมัย การขนส่งที่รวดเร็ว ดูแลการจัดเก็บที่ถูกสุขลักษณะ ให้บริการแนะนำวิธีการหุงข้าว และอัตราส่วนข้าวต่อน้ำมาตรฐานของพนมรุ้ง ตอบรับคำร้องเรียนของลูกค้าได้รวดเร็ว และแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที ซึ่งตลอด 4 ปีของการทำตลาดในกลุ่มฟู้ดเซอร์วิสนั้น พนมรุ้งมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยยอดขายเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 20% ต่อปี ในปี 2551 พนมรุ้งมียอดขายจากตลาดฟู้ดเซอร์วิสมากถึง 244 ล้านบาท ปัจจัยหลักของการเติบโตคือจำนวนลูกค้า ซึ่งเพิ่มจาก 0 รายในต้นปี 2548 เป็น 1,440 รายเมื่อสิ้นปี 2551 ลูกค้าหลักของข้าวพนมรุ้งเป็นกลุ่มโรงแรมระดับ 5 ดาว และร้านอาหารชั้นนำมากมาย อาทิ โรงแรมโอเรียลเต็ล โรงแรมคอนราด โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท โรงแรมแลนด์มาร์ค โรงแรมโฟร์ซีซั่น โรงแรมแมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา ร้านเกรย์ฮาวนด์ ร้านโออิชิ ร้านบาร์บีคิว พลาซ่า ร้านบ้านกลางน้ำ ร้านกู๊ดวิว ร้านบ้านกลางกรุง ฯลฯ ทำให้พนมรุ้งคือข้าวของมืออาชีพอย่างแท้จริง
หลังจากประสบความสำเร็จครองตำแหน่ง ผู้นำตลาดข้าวในกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร แล้ว ในปีนี้บริษัทฯ มีนโยบายที่จะสร้างแบรนด์พนมรุ้งในตลาดค้าปลีกอย่างเต็มรูปแบบ โดยชูจุดยืน “พนมรุ้งคือข้าวของมืออาชีพ” พนมรุ้งจำหน่ายข้าวในคุณภาพเดียวกันไม่ว่าจะจำหน่ายให้เชฟมืออาชีพ หรือผู้บริโภค เพราะเชื่อมั่นว่าคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในกลุ่มเชฟมืออาชีพ จะทำให้ข้าวพนมรุ้งเป็นที่หนึ่งในใจผู้บริโภคได้อย่างไม่ยาก โดยในปีนี้พนมรุ้งจะทำการสร้างแบรนด์ด้วยงบประมาณราว 12 ล้านบาท โดยมีการวางแผนโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ ณ จุดขาย ซึ่งจะเป็นการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้โดยตรง อีกทั้งจะมีการแจกสินค้าตัวอย่างกว่า 1 แสนถุงผ่านกลุ่มลูกค้าโรงแรม ร้านอาหารที่ใช้สินค้าพนมรุ้งอยู่
นายวิพุธ ยังกล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของข้าวพนมรุ้งคือ กลุ่มลูกค้าครอบครัวและแม่บ้านระดับกลางถึงบน โดยอาศัยชื่อเสียงการยอมรับแบรนด์พนมรุ้งในหมู่เชฟมืออาชีพ ที่จะรับประกันคุณภาพ และช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อข้าวพนมรุ้งได้รวดเร็วขึ้น ประกอบกับการมุ่งกระจายสินค้าในร้านค้าปลีกสมัยใหม่ และร้านค้าปลีกท้องถิ่นขนาดใหญ่ อย่างเต็มพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑลไม่ว่าจะเป็น เทสโก้ โลตัส คาร์ฟูร์ แม็คโคร ท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต แฟมิลี่มาร์ท 108 ช้อป เดอะมอลล์กรุ๊ป วิลล่า มาร์เก็ต ฟู้ดแลนด์ ฟูจิ ยูเอฟเอ็ม สหกรณ์กรุงเทพ ฯลฯ ส่วนตลาดร้านโชว์ห่วย บริษัทฯ ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ บริษัท ล็อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง จำกัด เพื่อให้บริษัท ล็อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง เป็นตัวแทนจำหน่าย กระจายสินค้าในตลาดร้านโชว์ห่วย ทำให้เชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ข้าวพนมรุ้งจะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ครอบคลุมกับความต้องการ
นอกจากเน้นเรื่องการสร้างแบรนด์และการกระจายสินค้าแล้ว เรายังได้จัดกิจกรรมเปิดตัวข้าวพนมรุ้งอย่างยิ่งใหญ่และถือเป็นทอล์กออฟเดอะทาว์นครั้งแรกในวงการข้าวภายใต้ชื่องาน “พนมรุ้ง ท้าหุง 100 หม้อ” ทั้งนี้เพื่อตอกย้ำจุดเด่นในด้านคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ และจุดแข็งในเรื่องของความนุ่มที่เท่ากันเสมอทุกถุง ผู้บริโภคสามารถหุงข้าวพนมรุ้ง ด้วยอัตราส่วนข้าวต่อน้ำที่เท่ากัน และได้ข้าวสวยที่นุ่มอร่อยเท่ากันทุกครั้ง ซึ่งในงานนี้จะเป็นการท้าพิสูจน์ว่าข้าวพนมรุ้งทุกถุงหุงง่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภค หรือเชฟมืออาชีพ เมื่อหุงข้าวพนมรุ้งด้วยอัตราส่วนข้าวต่อน้ำเดียวกัน จะได้ข้าวสวยที่นุ่มอร่อยเท่ากัน ด้วยการเชิญเซเลบริตี้ ดารา และบุคคลจากหลากหลายสาขาอาชีพ รวม 100 ท่าน ร่วมหุงข้าวเพื่อพิสูจน์ความนุ่ม และตัดสินโดย เชฟจำนงค์ นิรังสรรค์ นายกสมาคมพ่อครัวไทย ซึ่งแนวคิดหลักในการนำเสนอคือ “ปรุงง่ายๆ ได้อย่างเชฟ”
“จากการทำตลาดแบบปูพรมทั้งทางด้านโฆษณา ประชาสัมพันธ์และกิจกรรมต่างๆในครั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าจะทำให้ ผลิตภัณฑ์ข้าวพนมรุ้ง สามารถปิดยอดขายในช่องทางค้าปลีกในปี 2552 ได้กว่า 164 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตสูงถึง 107% เมื่อเทียบกับปี 2551 ส่วนยอดขายในช่องทางตลาดข้าวในกลุ่มโรงแรม ร้านอาหารในและต่างประเทศหรือฟู๊ดเซอร์วิส นั้นคาดว่าจะปิดยอดขายได้ที่ 252 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตอยู่ที่ 4% ทำให้ยอดขายของข้าวพนมรุ้งทั้งสองช่องทางรวมกันในปี 2552 จะปิดอยู่ที่ 416 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 29%” นายวิพุธ กล่าวในที่สุด
