เชฟโรเลต ผงาดคว้า 3 รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี

บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความสำเร็จ ในการสร้างสรรค์รถยนต์คุณภาพเยี่ยมอีกครั้ง หลังจากรถยนต์เชฟโรเลต 3 รุ่น 3 สไตล์ คว้ารางวัล รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2552 หรือ Car of The Year 2009 มาครองได้ถึง 3 รางวัล จากการตัดสินของคณะกรรมการที่เป็นกลาง จากคณาจารย์และผู้เชี่ยวชาญภาควิชาวิศวกรรมยานยนต์จากสถาบันต่างๆ ซึ่งจัดโดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

รถยนต์ทั้ง 3 รุ่นของเชฟโรเลต ที่ได้รับรางวัล ประกอบด้วย รถกระบะ เชฟโรเลต โคโลราโด CNG เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร CTi ได้รับรางวัล รถกระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ รุ่นเครื่องยนต์ต่ำกว่า 2,500 ซีซี ยอดเยี่ยมแห่งปี เชฟโรเลต แคปติวา เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ได้รับรางวัลรถเอนกประสงค์ เอสยูวี เครื่องยนต์ดีเซล ยอดเยี่ยมแห่งปี และ เชฟโรเลต ออพตร้า CNG ซึ่งให้ทั้งความประหยัดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้รับรางวัลรถยนต์ประเภทสเตชั่น แวกอน CNG ยอดเยี่ยมแห่งปี

มร.อันโตนิโอ ซาร่า รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวหลังจากร่วมพิธีมอบรางวัลในปีนี้ว่า รางวัลที่เชฟโรเลตได้รับในครั้งนี้มีหลากหลายรุ่น ซึ่งแสดงให้เห็นอีกครั้งว่า บริษัทฯ มีการสร้างสรรค์รถยนต์ที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมในทุกประเภท ซึ่งสร้างความหลากหลายสำหรับไว้ให้ลูกค้าเลือกใช้งานตามแต่ความต้องการ

“รถเชฟโรเลตที่ได้รับรางวัล มีทั้งรถประเภทที่สมบุกสมบัน พร้อมลุยงานหนักอย่าง กระบะโคโลราโด CNG รถเอนกประสงค์ขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่ให้ความคุ้มค่าในการใช้งาน รถเอสยูวีที่เพียบพร้อมทั้งความหรูหราและสมรรถนะอย่าง แคปติวา รวมถึงรถยนต์สำหรับครอบครัวคนรุ่นใหม่ อย่าง เชฟโรเลต ออพตร้า เอสเตท CNG ทั้งหมดทั้งปวงสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนารถที่มีคุณภาพครบถ้วนทุกด้าน และทุกสายผลิตภัณฑ์ สำหรับผู้บริโภคทุกคนอย่างแท้จริง” มร.อันโตนิโอ ซาร่า กล่าว

สำหรับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีในแต่ละประเภทนั้น ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการที่เป็นกลางที่มาจาก คณาจารย์และผู้เชี่ยวชาญภาควิชาวิศวกรรมยานยนต์จากสถาบันต่างๆ ที่ได้รับเชิญจากบริษัท กรังด์ปรีซ์ฯ ซึ่งการให้คะแนนจะตัดสินจากรายละเอียดในทุกๆ ด้านของรถยนต์ ตั้งแต่ การออกแบบ ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย ความประหยัดเชื้อเพลิง การบังคับควบคุมรถยนต์ สมรรถนะ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ขับขี่ และความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคาของรถยนต์