ในงานคอมพิวเท็กซ์ 2009 ร็อบ ครุก รองประธานและผู้จัดการทั่วไปแผนกลูกค้าองค์กร บริษัท อินเทล คอร์ปอเรชั่น กล่าวถึงนวัตกรรมต่างๆ ในวงการอุตสาหกรรม อันเป็นผล มาจากความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีจากโปรเซสเซอร์ของอินเทล ซึ่ง ร็อบ ครุก ได้ยกตัวอย่าง ระบบที่พัฒนาสำหรับเกมระดับไฮเอนด์ อุปกรณ์แบบออล-อิน-วัน (all-in-ones) และเน็ตท้อป นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ เพื่อรองรับการเจริญเติบโตในอนาคตอีกด้วย ซึ่งไฮไลท์จากการบรรยายของร็อบ ครุกได้แก่
• สิ้นยุคของคอมพิวเตอร์แบบเดสก์ท้อปแล้ว – ขณะนี้ตลาดคอมพิวเตอร์แบบเดสก์ท้อปทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงจากตลาดกลุ่มใหญ่เพียงกลุ่มเดียว แตกออกเป็น 4 กลุ่มเล็กที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ได้แก่
o กลุ่มองค์กร: ตลาดกลุ่มนี้มุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพ ความสามารถในการบริหาร และระบบรักษาความปลอดภัยเป็นหลัก
o เน็ตท้อป: กลุ่มผู้ใช้งานที่มุ่งเน้นการติดต่อสื่อสารผ่านทางอินเทอร์เน็ต
o อุปกรณ์สำหรับใช้ในชีวิตประจำวันและมีรูปทรงขนาดเล็ก (Small Form Factor-SFF) : สำหรับผู้ใช้ที่ของอุปกรณ์ที่มีดีไซน์ทันสมัย สามารถรองรับคอนเทนท์ได้หลายประเภท และประหยัดพลังงาน
o นักประกอบเครื่องเอง: เป็นกลุ่มที่ใช้คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับการเล่นเกมและการสร้างคอนเทนท์ชนิดต่างๆ ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่เพื่อรองรับการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม สำหรับรองรับความสามารถใหม่ๆ ในอนาคต ผู้ใช้กลุ่มนี้มีความรู้ด้านเทคนิคอย่างลึกซึ้ง สำหรับบางกลุ่มยังชอบการโอเวอร์คล็อกและปรับแต่งระบบของตนเพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่าปกติอีกด้วย
• อินเทลเปิดตัวอินเทล? คอร์? ไอเซเว่น โปรเซสเซอร์ (Intel? Core? i7 processor) รุ่นใหม่จำนวน 2 รุ่น: ประกอบด้วยรุ่น 975 มีความเร็ว 3.33 GHz และรุ่น 950 มีความเร็ว 3.06 GHz อินเทล คอร์ ไอเซเว่น โปรเซสเซอร์เป็นที่ยอมรับในวงการอุตสาหกรรมว่าเป็นโปรเซสเซอร์ที่ทันสมัยที่สุดและมีประสิทธิภาพสูงที่สุดในโลก
• สถาปัตยกรรม ‘เนฮาเลม’ พร้อมแล้วสำหรับพีซีรุ่นเมนสตรีม: โปรเซสเซอร์ ลินน์ฟิลด์ (Lynnfield) และ Intel? P55 Express ชิปเซ็ตที่จะเริ่มจำหน่ายในเร็วๆ เป็นการนำสถาปัตยกรรมเนฮาเลมลงสู่พีซีรุ่นเมนสตรีม โดยจะเริ่มการผลิตภายในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 นี้ โดยโปรเซสเซอร์แบบคว๊อดคอร์ที่มี 8 เธรด และมีเทคโนโลยี อินเทล? เทอร์โบ บูสต์ (Intel? Turbo Boost Technology ) นี้ จะช่วยให้เสริมประสิทธิภาพในการทำงานแบบหลายอย่างพร้อมกัน (multi-tasking) การสร้างสรรค์สื่อดิจิตอลและการเล่นเกม ซึ่งชิปเซ็ต Intel P55 Express จะเป็นชิปเซ็ตสำหรับคอมพิวเตอร์เดสก์ท้อปในตระกูล Intel 5 Series รุ่นแรกที่รองรับการทำงานของ โปรเซสเซอร์ ลินน์ฟิลด์ได้ และยังเป็นโซลูชั่นชิปเพียงตัวเดียวที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นและใช้พลังงานลดลง เมื่อนำเอาโปรเซสเซอร์ ลินน์ฟิลด์ ไปทดสอบโดยใช้โปรแกรม SPECint*rate_base 2006 พบว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าโปรเซสเซอร์ในตระกูลเพนริน1 ซึ่งเป็นรุ่นเมนสตรีมในช่วงปลายปี 2551 (แพลตฟอร์มที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Core Q9650) ถึงร้อยละ 40 เลยทีเดียว
• ริชาร์ด มาลินาวสกี นำเสนอแนวโน้มของชิปเซ็ตในอนาคต: ริชาร์ด มาลินาวสกี รองประธาน แผนกโมบิลิตีกรุ๊ปและผู้จัดการทั่วไปฝ่าย Client Components ของอินเทล ขึ้นบรรยายถึงวิวัฒนาการของแพลตฟอร์ม ชิปเซ็ตตระกูล Intel 5 Series ซึ่งเป็นโซลูชั่นสำหรับชิปเซ็ตแบบ single-chip รุ่นแรกของอินเทลที่นำเอาส่วนประกอบสำคัญทุกอย่างทั้งในด้านนวัตกรรมและคุณสมบัติต่างๆ มารวมในชิปเซ็ตเพียงตัวเดียว การแปลงระบบจากการใช้ชิป 3 ตัวไปเป็นการใช้ชิป 2 ตัวส่งผลทำให้พีซีมีขนาดเล็กลง และใช้พลังงานน้อยลง
• อุปกรณ์ที่มีขนาดเล็กลง: อินเทลมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเดสก์ท้อปให้มีดีไซน์เก๋ไก๋มากขึ้น ใช้พลังงานอย่างประหยัด โดยยังคงประสิทธิภาพอันเยี่ยมยอด บริษัท IDC คาดการณ์ว่ายอดจำหน่ายอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็ก(Small Form Factor- SFF) อุปกรณ์ขนาดจิ๋ว (ultra small form factor–USFF) และอุปกรณ์ในกลุ่ม All-in-one จะมียอดจำหน่าเป็นอัตราส่วนถึงร้อยละ 35 ของตลาดเดสก์ท้อปคอมพิวเตอร์ทั่วโลกในปี 2552 นอกจากนั้นร้อยละ 25 ของเมนบอร์ดของอินเทลที่จำหน่ายได้ทั่วโลกตอนนี้มีรูปทรงแบบ mini-ITX ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันว่าแนวโน้มตลาดคอมพิวเตอร์เดสก์ท้อปในอนาคตจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่มีขนาดเล็กลงอย่างแน่นอน นอกจากนั้นอินเทลยังได้ทำงานร่วมกับผู้ผลิตจอภาพเพื่อพัฒนาอุปกรณ์แบบ All-in-one ออกสู่ตลาดอีกด้วย
• การพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับปี 2553 เป็นไปตามเป้าหมาย: โปรเซสเซอร์เนฮาเลม รุ่น คลาร์คเดล (Clarkdale) ที่มี Die ของระบบกราฟิกรวมอยู่ในแพกเก็จของโปรเซสเซอร์จะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการผลิตในไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 นี้ โดยโปรเซสเซอร์คลาร์คเดลนี้ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 32 nm และเทคโนโลยี hi-k metal gate รุ่นที่สองของอินเทล คลาร์คเดล จะทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มชิปเซ็ต Intel 5 Series และจะมีคุณสมบัติใหม่ๆ อาทิเทคโนโลยีแคชที่เป็นแฟลชเมมโมรีที่เรียกว่า ไบรด์วูด (Braidwood) ที่จะมีประสิทธิภาพช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลในดิสก์ได้รวดเร็วมากขึ้น (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน) โดยเทคโนโลยีนี้จะเริ่มมีอยู่ในเมนบอร์ดรุ่น เมนสตรีมภายในปี 2553 เป็นต้นไป
• เน็ตท้อปและแพลตฟอร์มไพน์เทรล: เน็ตท้อปก็คือเดสก์ท้อปที่มีประสิทธิภาพคล้ายคลึงกับเน็ตบุ๊ก คือเป็นอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด เหมาะกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก และใช้อินเทล? อะตอม? โปรเซสเซอร์(Intel? Atom? processor) เน็ตท้อปออกแบบมาเพื่อให้มีราคาประหยัด ทำให้ประชาชนจำนวนมากสามารถซื้อได้ เป็นการช่วยลดช่องว่างของการเข้าถึงเทคโนโลยีให้แก่ประชาชน เน็ตท้อปมีคุณสมบัติหลักคือ (1) ใช้ทำงานขั้นพื้นฐานและท่องอินเทอร์เน็ตได้ (2) มีราคาประหยัด ขนาดเล็กไม่เปลืองพื้นที่ และประหยัดพลังงาน (3) ใช้เทคโนโลยีของอินเทลที่เชื่อใจได้ในเรื่องคุณภาพและเสถียรภาพ โดยที่ ไพน์เทรล-ดี (Pine Trail-D) เป็นโปรเซสเซอร์ในตระกูลอะตอม ที่เป็นแบบ 2 ชิป ซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญของเน็ตท้อปและเริ่มผลิตภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 นี้