กรุงเทพฯ – เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ก้าวสู่ความสำเร็จอีกขั้นในการปฏิรูปองค์กร หลังจากที่
ผู้พิพากษา โรเบิร์ต อี การ์เบอร์ แห่งศาลล้มละลายสหรัฐฯ ในเขตทางตอนใต้ของนิวยอร์ก ล่าสุดได้ประกาศอนุมัติการขายทรัพย์สินของเจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่นให้กับ จีเอ็มใหม่ (NGMCO) ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และเพื่อให้การดำเนินการทางธุรกรรมสำเร็จ จีเอ็ม ใหม่ จะเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอมปานี และจะยังคงดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัทและแบรนด์ของจีเอ็ม คอร์ปอเรชั่นเดิม ซึ่งการอนุมัติครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญสู่ความสำเร็จในการจัดตั้งจีเอ็ม ใหม่
หน่วยงานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งที่สุดของจีเอ็ม คอร์ป จะได้รับการโอนย้ายการดำเนินงานมายังจีเอ็ม ใหม่ รวมถึง บริษัทในเครืออื่นๆของจีเอ็ม คอร์ป และหน่วยธุรกิจในประเทศไทย และประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกด้วย ทั้งนี้คาดการณ์ว่าการดำเนินธุรกิจในประเทศและภูมิภาคดังกล่าวจะยังคงดำเนินไปต่อไปตามปกติเช่นกัน โดยบริษัทใหม่นี้ จะเป็นบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทสามารถบรรลุข้อตกลงกับสหภาพแรงงานยานยนต์สหรัฐฯ และสหภาพแรงงานยานยนต์แคนาดานั่นเอง
จีเอ็ม ใหม่จะมีอัตราส่วนของหนี้ต่อส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยลงและมีบัญชีงบดุลที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อรวมกับผลที่จะเกิดจากการที่จุดคุ้มทุนของเราลดต่ำลงแล้ว ก็จะช่วยให้บริษัทลดความเสี่ยงลงได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถทำกำไรได้เมื่อผลิตในระดับการผลิตที่น้อยลง และยังสามารถลงทุนในส่วนหลักๆ ของเทคโนโลยีอันล้ำหน้าและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้
“เราได้ผ่านช่วงเวลาที่ท้าทาย และเราก็ผ่านการตัดสินใจที่ยากลำบากมาแล้วเพื่อที่จะจัดการกับปัญหาที่สั่งสมในธุรกิจเรามาเป็นเวลาหลายสิบปี ตอนนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของเราในการที่จะแก้ไขข้อบกพร่องในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้บริษัทกลับมาสู่รูปแบบการดำเนินงานที่เหมาะสม และมุ่งสู่ทิศทางแห่งความสำเร็จโดยเร็วที่สุด”
“การจัดตั้งจีเอ็ม ใหม่จะส่งผลดีต่อการดำเนินงานของจีเอ็มในประเทศไทยและอาเซียน” มร. สตีฟ คาร์ไลส์ ประธานกรรมการ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสต์เอเชีย โอเปอเรชั่นส์ จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “การจัดตั้งบริษัทใหม่ดังกล่าวจะช่วยให้เราสามารถคงความได้เปรียบในเรื่องของทรัพยากรที่เรามีอยู่ทั่วโลกผ่านทางการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่น่าตื่นตาตื่นใจของเรา รวมถึงการขยายส่วนของผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันให้กับตลาดในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีความสำคัญยิ่งสำหรับเรา”
หุ้นสามัญของจีเอ็ม ใหม่ จะครอบครองโดย
• กระทรวงการคลังสหรัฐฯ: 60.8 เปอร์เซ็นต์
• กรมดูแลผลประโยชน์ด้านเวชกรรมสหภาพแรงงานสำหรับผู้เกษียณ: 17.5 เปอร์เซ็นต์
• รัฐบาลแคนาดา และออนตาริโอ: 11.7 เปอร์เซ็นต์
• จีเอ็ม เก่า: 10 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ จีเอ็ม เก่า และ กรมดูแลผลประโยชน์ด้านเวชกรรมสหภาพแรงงานสำหรับผู้เกษียณ จะถือตราสารที่ให้สิทธิ์ผู้ถือหุ้นในการซื้อหุ้นสามัญของบริษัทในอนาคตในราคาที่กำหนดซึ่งสามารถใช้สิทธิ์ได้ 15 เปอร์เซ็นต์ และ 2.5 เปอร์เซ็นต์ของอัตรากำไรของจีเอ็ม ใหม่ได้ตามลำดับ
กรมดูแลผลประโยชน์ด้านเวชกรรมสหภาพแรงงานสำหรับผู้เกษียณ และรัฐบาลแคนาดานั้นต่างมีแนวโน้มที่จะเสนอหนึ่งในสมาชิกของตนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการของจีเอ็ม ใหม่ โดยกลุ่มผลประโยชน์ของ
ผู้เกษียนนั้นได้คัดเลือกนักวิเคราะห์อุตสาหกรรมยานยนต์ สตีเฟ่น เกอร์สกี้ ผู้ผ่านการคัดเลือกคณะกรรมการ
จีเอ็ม ใหม่ นอกจากนี้ ยังมีสมาชิกปัจจุบันของคณะกรรมการบริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ส อีกหกท่าน ได้แก่
เออร์รอล เดวิส, เนวิลล์ อิสเดลล, เคนท์ เครซา, ฟิลลิป ลาสคาวี่, แคทเธอริน มาริเนลโล่ และฟริตซ์
เฮนเดอร์สัน ตัวแทนจากรัฐบาลแคนาดา และคณะกรรมการอีกสี่ท่าน ซึ่งจะได้รับการแต่งตั้งจากกระทรวงการคลังสหรัฐ โดยจะมีการประกาศเพิ่มเติมในภายหลัง
ท่านผู้พิพากษาการ์เบอร์ ได้ออกคำสั่งให้เลื่อนการพิจารณาออกไปสี่วันก่อนที่จะถึงเวลาสิ้นสุดการขายสินทรัพย์ต่างๆ อย่างไรก็ตาม จีเอ็ม ต้องการจะสิ้นสุดการขายให้ได้ในเร็ววัน ธุรกิจของจีเอ็ม ใหม่ จะต้องดำเนินการอย่างเร็วที่สุดและสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างเต็มเปี่ยม พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ขนาดที่เล็กลง แต่มุ่งเน้นไปที่แบรนด์ที่แข็งแกร่งเท่านั้น รวมถึงเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายที่เพรียบพร้อมเตรียมให้บริการลูกค้า พนักงานจีเอ็ม ปัจจุบันจะได้รับการเสนอให้ทำงานในบริษัทใหม่นี้ด้วย
นอกเหนือจากนี้ เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น จะเปลี่ยนชื่อเป็น มอเตอร์ ลิควิเดชั่น คอมพานี (Motors Liquidation Company) โดยสินทรัพย์ผูกขาดจะถูกละทิ้งหรือขายไป คณะกรรมการกลุ่มใหม่จะควบคุมดูแลกระบวนการและดูแลการชำระหนี้ของบริษัทภายใต้การดูแลของศาลล้มละลาย